เมื่อคุณเจอสิ่งที่คุณไม่ต้องการเผชิญหน้า คุณจะทำอย่างไร
ข้อแรก สตั้น
ข้อสอง นิ่งเฉย ไม่รับรู้
ข้อสาม เผชิญหน้า
ข้อสุดท้าย วิ่งหนี
บางคนอาจทำตามสองข้อแรก แต่บางคนเลือกที่จะเผชิญหน้ากับมัน
และบางคนอาจจะเลือกการวิ่งหนีสิ่งนั้นไป
และนั่นอาจจะเป็นผม
ไม่สิ ผมคิดเสมอว่าการที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับเรื่องแบบนั้น ที่ไม่เกี่ยวกับความเป็นความตายของคนอื่นๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผมเลือกที่จะวิ่งหนี
ปัญหา ผมสามารถเผชิญมันได้ แต่ถ้าเลี่ยงได้ก็อยากจะเลี่ยง
อาจจะเรียกได้ว่า ผมเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆ เพื่อปกป้องตัวเอง
เราต่างมีเกราะป้องกัน เลือกที่จะหนีได้ต่างกัน และทุกคนย่อมทำหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างเพื่อปกป้องตัวเอง
ผมหนีตลอดเวลา ผมมักเลือกการวิ่งหนีซะส่วนใหญ่
แม้มันจะไม่ได้ทำให้ผมแข็งแรงขึ้นก็ตาม เพราะผมไม่ได้วิ่งหนีจริงๆ อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมรู้สึกปลอดภัยได้บ้าง
แน่นอนว่าผมไม่ชอบการสูญเสีย ใครต่อใครต่างก็ไม่ชอบการสูญเสียทั้งนั้นแหละ
โดยเฉพาะตัวของผม อืม อายุประมาณสองพันกว่าปีได้แล้วล่ะมั้ง ผมเลิกนับไปแล้วล่ะ
ผมผ่านการสูญเสียทั้งคนรัก สมาชิก ดาวบ้านเกิด ฯลฯ มามาก แต่นั่นก็ยิ่งทำให้ผมเลือกที่จะวิ่งหนีออกจากสิ่งนั้นๆ มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดี อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมได้รู้ว่า ผมเป็นคนเลือกเอง ไม่ใช่ว่าเป็นเหตุการณ์ที่จะต้องสูญเสียแล้วผมช่วยอะไรไม่ได้
แต่ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งเดียวที่ผมไม่วิ่งหนี
เธอเป็นแค่คนที่ร่วมเดินทางกับผมในช่วงเวลาหนึ่ง
อันที่จริง เธอเป็น echo ที่แทรกซึมไปทั่วทุกช่วงชีวิตของผม
โดยปกติผมจะเป็นฝ่ายปล่อยให้ผู้ร่วมเดินทางของผมออกไปก่อนที่จะมีการสูญเสียเกิดขึ้น เพื่อป้องกันตัวของผมเอง แต่คราวนี้กลับต่างกันออกไป
ผมเฝ้ามองเธอจนถึงวาระสุดท้าย
และผมไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลยซักนิด
ผมต้องปล่อยเธอไป และไม่สามารถพาเธอกลับมาได้
ไม่สามารถแก้ไขสิ่งใดๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอได้
และผมต้องเฝ้ามองเธอล้มลงไปด้วยใจสลาย
ถ้าเป็นครั้งอื่น ผมคงเลือกที่จะไม่มอง และอาจจะวิ่งหนีหายไป
แต่นี่เป็นเธอ คลาร่า ออสวอลด์
มันอาจจะถึงเวลาที่ต้องรับความเป็นจริงให้ได้
ว่าในวันนี้ ไม่มีเธออยู่ข้างๆ อีกต่อไป
เธอได้จากไป ราวกับสายลม
และผมไม่สามารถวิ่งหนีความจริงได้อีกต่อไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in