เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
When I find a good movieNovemberrest
Better Days ชีวิตวัยรุ่น และความหวังเพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า
  • Better days ไม่มีวัน ไม่มีฉัน ไม่มีเธอ ภาพยนตร์แนวดราม่า (Drama) และการก้าวผ่านวัย (Coming of age) ที่ได้เข้าชิงออสการ์สาขาต่างประเทศในปี 2021 จากผู้กำกับ เดเร็ก เจิง (Derek Tsang) โดยได้นักแสดงแถวหน้ามากฝีมืออย่าง โจวตงหยูว และอี้หยางเชียนซี นักร้องบอยแบนด์วง TFBOYS มารับบทนำ

    เนื้อเรื่องของ Better Days ว่าด้วยการเติบโตของเด็กวัยรุ่นช่วงมัธยมปลายในสังคมจีนที่ต้องพบเจอกับความกดดันของการสอบแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ การกลั่นแกล้งสารพัดรูปแบบ โดยภาพยนตร์เล่าออกมาได้อย่างน่าติดตาม และน่าประทับใจมาก

    **บทความต่อจากนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์บางส่วน**

    ภาพยนตร์ได้นำพาเราไปสู่ความสะเทือนใจในช่วงแรกจากการที่เราได้เห็นร่างไร้วิญญาณของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนนิ่งอยู่บนลานกว้างในโรงเรียน และเฉินเหนียนนางเอกของเรื่อง ได้นำเสื้อคลุมของตัวเองไปปิดหน้าของศพเอาไว้ ชวนให้สงสัยว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งนี้

    “This used to be our playground”

    “ที่แห่งนี่เคยเป็นสนามเด็กเล่นของเรา”

    ‘โรงเรียน’ อาจจะเป็นสถานที่บ่มเพาะความฝันสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับ ‘เฉินเหนียน’ เด็กหญิงม.ปลาย ผมสั้น บุคลิกนิ่ง ๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร กลับมองว่าโรงเรียนมัธยมปลายของเธอ เปรียบเสมือนสนามเด็กเล่นที่เธอไม่สามารถเข้าไปใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกแล้ว การมีเพื่อนไม่ได้สำคัญสำหรับเธอ เธอไม่สนใจสิ่งอื่นนอกจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัย และความสุขจากการไปโรงเรียนได้เลือนหายไปเรื่อย ๆ จากการกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้นเป็นประจำในชีวิต และโรงเรียนไม่ใช่พื้นที่ที่ปลอดภัยของเฉินเหนียนในภาพยตร์เรื่องนี้

    เธอก็ปกป้องโลกไป ส่วนฉันจะปกป้องเธอเอง

    กระทั่งเธอได้บังเอิญมาเจอกับ ‘เสี่ยวเป่ย’ เด็กผู้ชายข้างถนนที่ใช้ชีวิตคนเดียว และต้องหาเงินใช้ไปวัน ๆ หากมอง เผิน ๆ พวกเขาทั้งคู่ดูต่างกันมากแม้จะมีอายุไล่เลี่ยกัน และฐานะที่ไม่ดีด้วยกันทั้งคู่ แต่เฉินเหนียนเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนมาก คะแนนของเธอติดอันดับต้น ๆ ของชั้นเรียน ส่วนเสี่ยวเป่ยไม่ได้เรียนหนังสือแล้วด้วยซ้ำ แถมยังเป็นนักเลงหัวไม้ที่มีเรื่องต่อยตีอยู่บ่อย ๆ ทำให้ความสัมพันธ์ที่แตกต่างแต่ก็ลงตัวแบบไม่น่าเชื่อได้เกิดขึ้น เฉินเหนียนถูกกลั่นแกล้งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งการโดนแบนจากกลุ่มเพื่อนร่วมชั้น การล้ออาชีพของแม่ ไปจนถึงการทำร้ายร่างกาย เธอจึงต้องขอให้เสี่ยวเป่ยมาคอยคุ้มครองเธอหลังเลิกเรียน พวกเขาทั้งสองได้เดินกลับบ้านด้วยกัน โดยที่เฉินเหนียนไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนตามมาทำร้ายเธอหรือไม่ นอกจากบทภาพยนตร์ที่เขียนให้ทั้งคู่มาเจอกัน การแสดงและเคมีของนักแสดงก็ส่งความรู้สึกของตัวละครออกมาให้เรารับรู้ และร่วมเอาใจช่วยเด็กทั้งสองคนได้อย่างดี


    เราอยู่ในที่เสื่อมทราม แต่เราบางคนก็แหงนหน้าดูดาว

    การสอบเกาเข่า(การสอบแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัยของประเทศจีน) ก็เริ่มใกล้เข้ามาทุกที ๆ บนโต๊ะทุกตัวในห้องเรียน จะมีกองหนังสือวางซ้อนกันอยู่หลายเล่ม พร้อมกับของภาพเฉินเหนียน และเพื่อนร่วมชั้นที่ขะมักเขม้นในการอ่านหนังสือ แม้แต่ทางโรงเรียนก็มีเสียงตามสายประกาศปลุกใจให้นักเรียนไม่ย่อท้อ ตั้งใจเตรียมตัวสอบ เพราะการสอบครั้งนี้มีความสำคัญและสามารถชี้ชะตาอนาคตของเด็กมัธยมปลายได้

    “ ชีวิตนี้ไม่ยุติธรรม แต่ยังคงมีเกาเข่า มันคือความยุติธรรมขั้นพื้นฐานเดียวในชีวิต ดังนั้นจงบากบั่น อย่าได้ท้อ ” เสียงตามสายประกาศก้องไปทั่วโรงเรียน


    เฉินเหนียนต้องการเข้าไปเรียนในมหาลัยปักกิ่งให้ได้ เพราะ เธอคิดว่าการเข้าการเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำจะทำให้เธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถหลีกหนีจากโลกใบเดิม ๆ จากห้องเช่าเล็ก ๆ หนีจากชีวิตต้องคอยหลบซ่อนตัวจากเพื่อนที่คอยมารังแก หรือจากเจ้าหนี้ที่มาทวงค่าเช่าห้องไม่เว้นแต่ละวัน เธออยากเติบโตเป็นผู้ใหญ่เพื่อที่จะได้ลืมเรื่องที่ผ่านมาในอดีต แม้ว่าชีวิตของเฉินเหนียนจะไม่ได้มีแต้มต่อใด ๆ ในการแข่งขันเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยในครั้งนี้ แต่เธอเอาความขยันและความพยายามเข้าสู้ และเอาชนะแรงกดดันจากปัญหาหลาย ๆ อย่างที่เธอต้องเจอ


    สภาพปัญหาสังคม และการกลั่นแกล้งกันในภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นปัญหาเล็ก ๆ ที่ถูกประกอบจากหลาย ๆ ส่วนเข้าด้วยกัน เริ่มจากครอบครัวที่พ่อแม่อาจไม่มีเวลาให้กับลูก ๆ คุณครูในโรงเรียนที่ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบอย่างขอไปที ตำรวจที่มีหน้าที่ตามสืบคดีแต่กลับมองว่าการกลั่นแกล้งกันเป็นเรื่องปกติ หรืออาจจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่เห็นเหตุการณ์ความรุนแรงมาโดยตลอดแต่นิ่งเฉย ทำให้เด็กที่โดนกลั่นแกล้งเองก็ไม่รู้ว่าจะไปปรึกษาใคร จึงได้แต่ก้มหน้ารับความเจ็บปวดไว้คนเดียว

    ภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้ผู้ชมได้กลับมาตั้งคำถามเรื่องสภาพสังคม สภาพการศึกษาในปัจจุบัน และการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียน ถึงแม้ว่าจะเล่าผ่านบริบทสังคมจีน แต่สามารถเปรียบเทียบกับสังคมไทยได้เช่นกัน การสอบเข้ามหาวิทยาลัยในไทยก็ดูจะเป็นความกดดันของเด็กนักเรียนไม่น้อย ชีวิตวัยรุ่นของใครหลายคนไม่ได้สดใสสวยงามเสมอไป มีชีวิตของเด็ก ๆ อีกไม่น้อยที่กำลังต่อสู้ พยายามเริ่มต้นชีวิตในวัยผู้ใหญ่ และพวกเขาเหล่านั้นต่างมีความหวังว่าในวันข้างหน้าจะเป็นวันที่ดีกว่านี้

    เรื่อง: Novemberrest
    ภาพ: ภาพยนตร์ Better days ไม่มีวัน ไม่มีฉัน ไม่มีเธอ
    .
    ปล.หาดูได้ที่ Netflix น้า  20 ม.ค. 66 เรื่องนี้เข้า Netflix ไทย แล้วค่ะ!! กรี๊ดๆ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in