เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
To be Marathon timeHatai*
ยิ่งวิ่งยิ่งได้ใจ
  • ...งานวิ่งมีอยู่เยอะมากมายในเกือบทุก ๆ ที่ ทุก ๆ วัน...

           หลังจากจบงานเดิน - วิ่ง พิชิตเขาไข่นุ้ยแล้ว งานต่อไปคืองาน Super sport 10 miles เอาล่ะ เราจะซ้อมอย่างจริงจังแล้ว หลังจากกลับมาแล้วปวดเมื่อยล้ามาก 

           ซ้อมวิ่งในทุก ๆ เช้าอย่างไม่มีแผน ตื่นมาวิ่งตอน 6 โมงเช้าของทุก ๆ วัน ลองวิ่งไปอีกฝั่งนึง ซึ่งฝั่งนี้เรียกว่าวิ่งขึ้นเขาน่าจะดีกว่า มีความชันดีเยี่ยม แต่ดีมากที่มีคนวิ่งบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่ง ดูฝรั่งวิ่งนี่รู้สึกอยากได้หุ่นแบบนั้นบ้าง ดูดีมาก ๆ เลย ระยะทางวิ่งไป-กลับ อยู่ที่ประมาณ 5 กิโล เป็นระยะที่โอเค แต่ที่ไม่โอเคก็คงจะเป็นความชัน 

           พกน้ำขวดเล็กไปหนึ่งขวด เพราะ ควรดื่มน้ำทุก ๆ 2 กิโล ช่วงแรกที่วิ่ง ไม่ใช่วิ่งอย่างเดียวนะ แอบเดินบ้าง เดินบ่อยด้วย แต่เอาเถอะ เพิ่งเริ่มนิ่

           ซ้อมไปเรื่อย ๆ ไม่รู้หรอกว่าต้องมีแบบแผนอะไรมั้ย จนมาถึงงาน Supersport 10 miles จัดขึ้นที่โรงแรมธัญญะปุระ ตื่นตา ตื่นเต้นมาก ไม่เคยมางานอินเตอร์อะไรแบบนี้เลย ว้าววววววไปหมด


  •        งาน Supersport 10 miles จัดขึ้นในเช้าวันที่ 19 มีนาคม 2560 เรารับ bib วันที่ 18 ก่อน หกโมงเย็นแต่ไปไม่ทันแน่ ๆ เลยฝากพี่สุวรรณไว้ก่อน แล้วเราก็เดินทางตอน 2 ทุ่ม ไปรับ bib ที่พี่เค้า และไปค้างคืนกับพี่อีกคน 

           04:30 น. เวลาตื่นของวันนั้น ตอนวิ่งกังวลมากกับการขับถ่ายเลยนั่งเล่นอยู่ในส้วมนานมาก และด้วยความที่นั่งนานมากทำให้ออกสายนิดหน่อย แต่จากบ้านไปโรงแรมประมาณครึ่งชั่วโมง เราลากพี่เค้าไปด้วย เอาไว้ถือของ ถึงพี่เค้าจะไม่อินสักเท่าไหร่ เมื่อถึงโรงแรมที่จอดห่างจากโรงแรมค่อนข้างมาก แต่ดีที่มีรถรับส่งซึ่งโรงแรมจัดหาไว้ให้ ระหว่างทางกินแค่กล้วยลูกเดียว ไม่ได้กินน้ำไปเลย พอไปถึงสนามก็โทรหาพี่สุวรรณ พี่เค้าถึงตั้งนานแล้ว กำลังดูหลานแข่งวิ่งอยู่ ได้ทักทายแค่เล็กน้อยเท่านั้นเราก็เริ่มวิ่งในระยะ 5 ไมล์

           ความตื่นเต้นกำลังมาแล้ว ทุกคนดูมีความสุขกับการเริ่มวิ่งมาก เราก็เช่นกัน เราคลาดกับพี่สุวรรณตั้งแต่ออกสตาร์ท ออกวิ่งไปด้วย pace ค่อนข้างสูง อยู่ที่ประมาณ 06.45 น. ไปไม่ถึง 2 กิโล ก็รู้สึกคอแห้งมาก หิวน้ำ จนมาถึงกิโลที่ 2 ก็จะมีน้ำบริการ ดื่มน้ำด้วยความเร็วไว แล้ววิ่งต่อไปด้วย pace ที่ต่ำลง 

           กิโลเมตรที่ 3 - 4 วิ่งด้วยความเร็วเต่า 7.20 น. รับน้ำดื่มกับฟองน้ำราดหัว เพิ่งรู้ว่ามันดีมากเลยเวลาโดนน้ำเย็น ๆ อ้าาาา สดชื่นนนน 
           
           กิโลเมตรที่ 5 - 6 วิ่งด้วยความเร็วที่เต่ากว่า 7.30 น. หอบแดก ทางก็ไม่ได้เสมอกันไปตลอด มีขึ้นเนินด้วย จะตาย จะตาย เอาน่าอีกนิดเดียว ดื่มน้ำ แล้วเอาฟองน้ำราดหัว วิ่ง ๆ เดิน ๆ ต่อไป สู้

           กิโลเมตรที่ 7 - 8 และจนจบ วิ่งด้วยความเร็วที่เต่าลงไปอีก เดินเยอะมากในระยะนี้ หอบเหนื่อย หายใจรุนแรง จบแล้ว สิ้นแล้วทุกอย่าง อยากจะเป็นลมซะตอนนั้น โค้งสุดท้ายก่อนถึงเส้นชัย คือ 1 รอบสนามวิ่ง ทางเหมือนสั้น แต่ความรู้สึกกลับไกลเหลือเกิน วิ่งไปจนเข้าเส้นชัย น้ำตาจะไหล วิ่งจบแล้ว ดีใจเหมือนได้โล่ ยิ้มอยู่คนเดียว เป็นบ้าอะไร ไม่แน่ใจเลย แต่เหมือนข้ามเข้าโลกใหม่เลย

           แต่ !! ไฮไลท์ของงานมีมากกว่านั้น ของกินเพียบ ไม่เสียแรงที่เสียตังค์ไปเยอะ อาหารดีทุกอย่าง ยกเว้นอย่างเดียว ตอนนี้จุก กินไม่ได้ กินแต่น้ำ โจ้กก็ตัก กินก็ไม่หมด ได้แต่ดื่มน้ำ แตงโม แล้วก็น้ำ เดินตามหาพี่สุวรรณ พอเจอได้คุยกัน 2 3 คำ ก็แยกกัน ได้โม้เวลานิด ๆ หน่อย ๆ 
    เอ่อ แต่ลืม พี่ ไปเลย ตามหาไป กินของฟรีไป จนเจอ จบงาน กลับบ้าน พักผ่อน สบายใจแระ ผ่านไปได้แบบปวกเปียกอีกหนึ่งงาน 

           และแล้ว ความฮึกเหิมก็มีเพิ่มมากขึ้น รีบเร่งหางานวิ่งต่อไปเลย งานต่อจากนั้นอะไรน่ะหรอ The color run thailand ไปวิ่งไกลกันที่กรุงเทพฯ เลยล่ะ รอบนี้ 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in