เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
To be Marathon timeHatai*
จุดเริ่มต้นของเส้นทางสู่ 42.195
  • ...ไม่คิดว่าจะมาได้ไกลจนถึงฮาล์ฟมาราธอน แค่วิ่งให้ครบหนึ่งกิโลก็พอแล้ว...


           จริงๆ เรื่องวิ่งนี่ก็วิ่งอยู่บ้างแต่ไม่ประจำ วิ่งรอบหนองมูลตะกั่ว ตอนนั้นเข้าใจว่ารอบนึง 3 กิโล พอมาวิ่งจริงจังนี่แค่โลกว่าๆ จนมาวิ่งอย่างจริงจังก็ตอนที่ได้เจอกับพี่ชายคนนึง ชื่อสุวรรณ ทำร้านขายน้ำผลไม้ปั่นอยู่หน้าปากซอยทางเข้าหอพักพนักงานโรงแรม พี่แกเป็นคนรักสุขภาพและชอบออกกำลังกายแล้วก็เป็นสายธรรมะด้วยนะ คุยไปคุยมาพี่เค้าชวนไปวิ่ง Super Sport 10 miles ที่ธัญญะปุระ ตอนนั้นลงไปแค่ 5 ไมล์ก็พอ ยังไม่รู้หรอกว่า 5 ไมล์เนี่ยกี่กิโล แต่เอาเถอะคงไม่ยากหรอก

           พี่สุวรรณมีไปแข่งฮาล์ฟมาราธอนที่จอมบึงมาราธอน ตอนนั้นไม่เข้าใจเลยเกี่ยวกับระยะทางการวิ่ง จริงๆ การวิ่งมีหลายระยะให้เราท้าทายมาก เริ่มจาก มินิมาราธอน   คือ 10 กิโลเมตร ฮาล์ฟมาราธอนคือ 21.1 กิโลเมตร และมาราธอน 42.195 กิโลเมตร ตอนนั้นพี่ชวนเข้ากลุ่ม 42.195 เราจะไปมาราธอนด้วยกัน เราก็สงสัยมากว่าทำไมชื่อแปลกจัง แต่ไม่ได้ปล่อยไก่ออกไป ลองไปหาดูผ่านกูเกิ้ลก็เข้าใจเลย
    พอเราได้เข้าไปในกลุ่ม ฟังจากพี่สุวรรณพยายามฝึกซ้อมเพื่อไปฮาล์ฟ รวมถึงสมัครลงวิ่งระยะเล็กๆไปแล้ว เราจึงเริ่มฝึกซ้อม

           เอาล่ะลองวิ่งถนนแถวบ้านก่อนละกัน กำหนดแค่วิ่งไปถึงจุดนี้แล้ววิ่งกลับพอ ไม่ได้รู้เรื่องราวเลยว่า วิ่งหนึ่งกิโลเมตรความเร็วเราอยู่ที่เท่าไหร่ ตอนนี้เราวิ่งไปกี่กิโลแล้ว ตอนหลังมารู้ว่ามันมีแอพจับระยะ
    แอพที่ใช้เริ่มแรกคือแอพ Endomondo ลองใช้ดูก็ไม่เข้าใจหรอกว่าดูอะไรได้บ้าง พอเริ่มศึกษานู่นนี่ก็เข้าใจได้ว่า ระยะที่เราวิ่งไปวิ่งกลับยังไม่ถึง 2 กิโลเลย แถมวิ่งเป็นเต่าคลานไปอี๊กกกก 
    เอาล่ะ เราลองเริ่มเพิ่มระยะ เพิ่มความเร็ว พร้อมเปิดเพลงฟังขณะวิ่งไป จะได้ไปเหงา เราจะจริงจังกับมันแล้วนะ เย่ !!
     
  •        จนกระทั่่งมีงานวิ่งแทรก เป็นงานวิ่งระยะสั้นแถวบ้าน เดิน-วิ่ง เขาไข่นุ้ย จัดขึ้นโดย อบต. ท้องถิ่นของจังหวัดพังงา เราเดินทางไปกันกับอีก 2 คน คือ พี่สุวรรณ และพี่ยา งานเริ่มวิ่งตอนหกโมงเช้า เป็นการจัดงานง่าย ๆ มีเสื้อแจกเพียง 100 ตัวให้กับผู้สมัคร 100 คนแรก ถ้วยรางวัลผู้เข้าเส้นชัย 5 คนแรก แบ่งตามระดับอายุ และเหรียญที่ระลึกสำหรับนักวิ่ง 300 คนแรก 
           
           แต่มีนักวิ่งที่ดูเป็นมืออาชีพมาจากหลายจังหวัด มาเป็นชมรมบ้าง มาครั้งแรกบ้าง น่าตื่นเต้นดี ได้เวลา 6 โมงเช้า เริ่มสต๊าทออกวิ่ง กลุ่มเรา 3 คน แยกกันวิ่ง ตกลงกันว่าค่อยไปเจอกันข้างบน ช่วง 3 กิโลเมตรแรกเป็นแบบทางเรียบ วิ่งได้สบายมาก ยิ่งวิ่งหลายคนยิ่งสนุก จนถึงทางเลี้ยวขึ้นไปบนเขา เอาล่ะ หยุดก่อน ขอเดินก่อน เห็นทางชันขนาดนั้น ไม่ไหวแน่ ๆ เส้นทางวิ่งค่อนข้างชัน สองข้างทางเป็นป่ายาง ถนนวิ่งเป็นแบบลาดคอนกรีดบ้าง ดินขรุขระบ้าง หลุมก็มี สำหรับนักวิ่งครั้งแรกอย่างเรา ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แค่วิ่ง ๆ ไปให้ถึงข้างบนก็พอ แต่นักวิ่งบางคนที่เจนสนามแล้วแทบจะหยุดกันเลย เพราะไม่อยากเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ 

           ทั้งวิ่ง ทั้งเดินก็แล้ว เมื่อไหร่จะถึงเส้นชัย เหนื่อยจนอยากจะขอขึ้นรถ เหนื่อยจนอยากจะยอมแพ้ แต่จะแพ้ได้ไง มาไกลเกินครึ่งทางแล้ว เอาวะ เดิน ๆ วิ่ง ๆ ไปเดี๋ยวก็ถึงเองแห่ละ จนวิ่งมาเห็นเส้นชัยอยู่ไกล ๆ แล้ว เอาล่ะ อีกนิดเดียว แต่อีอีกนิดเดียวนี่แหละ ที่หนักมาก เพราะ เป็นทางที่ชันที่สุดในตอนนี้ 

    แต่พอขึ้นมาถึงเส้นชัย พี่ ๆ สต๊าฟ ก็ยื่นใบที่เขียนว่ารองชนะเลิศอันดับ 2 มาให้ แต่ก็ยังงง ๆ อยู่ว่า ทำไมไม่ได้เหรียญล่ะ อยากได้เหรียญมากกว่า ยื่นใบรางวัลให้พี่สต๊าฟที่รอประกาศชื่อ ระหว่างนั้นก็ลองเก็บบรรยากาศที่นี่ไป อากาศดีมาก มีหมอกปกคลุมเต็มภูเขา
           
           เดินไปเดินมาจนเจอพี่สุวรรณกำลังนั่งกินอาหารที่ทาง อบต. จัดให้ ยื่นใบรางวัลให้ดู พี่เค้าค่อนข้างเซอร์ไพร์ส เราก็ไม่คิดว่าจะได้รางวัลเช่นกัน เดินไปเดินมาก็เจอพี่ยา พี่แกขึ้นมากับรถสต๊าฟตั้งแต่เลี้ยวเข้าซอยขึ้นเขาแล้วล่ะ สุดท้ายพี่ยาไม่เหนื่อยสุด

           เรารอประกาศชื่อรับรางวัล รางวัลเป็นแบบถ้วยรางวัลสวย ๆ แบ่งรางวัลตามช่วงอายุ 5 คน แรกที่เข้าเส้นชัย ในใจก็แอบคิดนะว่า คงมีคนสมัครของช่วงอายุเราน้อยมั้ง เราถึงได้รางวัลกับเค้าด้วย ไม่ได้คิดหรอกว่าวิ่งเร็วอะไร เพราะดูจากเวลาแล้วก็ไม่ได้เร็วมาก แต่รางวัลนี้กลับกลายเป็นแรงผลักดันให้เราก้าวต่อไปในเส้นทางวิ่ง อย่างน้อย ๆ เราก็ได้ผ่านมันไปแล้วล่ะ 1 สนาม ในระยะ 6.8 กิโลเมตร ข้ามผ่าน 5 กิโลเมตรแรกมาได้แล้วนะ อีกไม่นานเราก็ไปถึง สู้ ๆ ล่ะ 


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in