เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
OS / SF MONSTA XEDEE
REVERSE {MINHYUK X WONHO}





  • สวัสดีครับเพื่อนๆชาวบอร์ดปา….


              มือยาวกดลงตามแป้นคีย์บอร์ดมองซ้ายมองขวาเหมือนกลัวใครจะเข้ามาเห็น แน่ละ อย่างน้อย ‘เขาคนนั้น’  ก็ไม่ควรเข้ามาเห็นตอนที่วอนโฮกำลังตั้งกระทู้อยู่แบบนี้!  สายตาล่อกแล่กมองแป้นพิมสลับกันหันซ้ายหันขวา ถ้ามันไม่ใช่ปัญหาหนักอกหนักใจมาก เขาก็คงไม่เลือกมาตั้งกระทู้ในเว็ปบอร์ดอย่างนี้ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเริ่มจรดนิ้วมือและพิมพ์ความรู้สึกทุกอย่างลงไปในเว็ปนั่นทันที

     


              ผมกับแฟนคบกันมาได้เดือนกว่าแล้วครับ ผมเป็นคนจีบเขาก่อนครับ ผมเป็นรุกครับ แต่ทุกครั้งที่เราจะมีอะไรกัน เขาจะขอทำให้ผมตลอดเลย และเขาก็ทำดีมากๆเลยครับ ผมติดใจมากเลยครับ ประเด็นอยู่ที่ว่าผมเป็นรุกนะครับ แต่ยอมให้แฟนทุกครั้ง หมายความว่าไงครับ รบกวนเพื่อนๆช่วยตอบด้วยนะครับ


     

              วอนโฮรีบพับโน้ตบุ้คของตนทันทีเมื่อได้ยินเสียงกุกกักจากภายนอก‘แฟน’ของเขาคงกลับมาแล้วแน่ๆ เขารีบกระโดดเข้าห้องน้ำทำทีว่ากำลังอาบน้ำอยู่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     


    เฮ้อ…วอนโฮเผชิญกับปัญหาหนักใจของเขามาสักพักแล้ว


              มินฮยอกที่เขาเจอ กับมินฮยอกตอนเป็นแฟนกันแล้ว แตกต่างกันชะมัด วอนโฮยังจำครั้งแรกที่เจอมินฮยอกได้ พวกเขาเจอกันที่งานปาร์ตี้ฉลองเรียนจบของเพื่อน ต่างคนต่างมาเพราะรู้จักกับเจ้าของงาน ด้วยรสสุราและบรรยากาศพาไปทำให้เขาคุยกันถูกคอถึงขนาดขึ้นเตียง เพลงรักเริ่มดำเนินไปอย่างรวดเร็ว สองร่างเล้าโลมมาถึงจุดที่ความต้องการล้นปรี่ และในจังหวะที่ไร้เสื้อผ้าปกคลุมร่างกาย ในจังหวะที่เอวอีกคนอยู่ในมือเขา ในจังหวะที่วอนโฮ ‘จะทำ’ เหมือนที่เขาทำทุกที มินฮยอกก็หันมาพูดกับเขาว่า


              ‘ให้ผมทำให้พี่นะครับ’


              สาบานเลยครับว่าตั้งแต่มีชีวิตมา ไม่เคยมีใครมาพูดกับเขาแบบนี้เลย แต่สายตามินฮยอกตอนนั้นไม่ใช่สายตาลูกหมาตัวน้อยๆที่เขาเจอในงานแต่หากกลับเป็นสายตาของหมาป่าที่หิวกระหายพร้อมจะฉีกเนื้อสดๆเป็นชิ้นๆ  ให้ตายสิ แบบนี้มันเร่าร้อนเกินไปแล้ว !


              ‘ถ้าพี่เจ็บผมสัญญาว่าจะหยุด’


              ระทวย…


              เดี๋ยวกูเป็นรุกนะโว้ย!


              ถึงสมองจะสั่งการแต่ร่างกายกลับไม่ปฏิบัติตามเลยสักเล็กน้อย มินฮยอกกลับผลักร่างเขากดลงกับเตียงจับสะโพกของเขาไว้แน่น แล้วเกมแห่งความปรารถนาก็เริ่มต้นขึ้น คืนนั้นมินฮยอกสอนให้วอนโฮได้รู้จักตัวตนอีกด้านหนึ่งของตน ตัวตนที่ไม่เคยมีใครค้นพบเขาบนเตียงมาก่อน จากคนที่เคยเป็นฝ่ายคุมเกมเขากลับร้องเสียงหลงเมื่อเจอ ‘คนคุมเกม’คนใหม่


              มันจะไม่อะไรเลยถ้าทุกอย่างเป็น One Night Stand


              วอนโฮสิ้นแรงในคืนนั้นทำให้เขาตื่นสายโด่งในวันต่อมา ทันทีที่เขาลืมตาขึ้นมาเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าทุกอย่างมันต้องจบ มันคงเป็นเหมือนทุกครั้งที่เขามีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนแต่ทุกอย่างกลับตรงข้ามที่เขาคิด


              มินฮยอกเดินเข้ามาหาเข้าพร้อมถาดอาหารเช้า


              เจ้าของผมสีน้ำตาลเข้มระบายยิ้มให้เขาก่อนจะวางถาดอาหารบนตัก พร้อมบรรจงหอมแก้มเขาหนึ่งที


              “Breakfastin bed ครับที่รัก”


              อืม….ยอมแล้วจ้า

     

     







    หลังจากนั้นมินฮยอกเวลาปกติก็ซนๆเป็นลูกหมาแบบที่เขาชอบนี่แหละ แต่เวลาต้องบรรเลงกิจกรรมยามค่ำทีไร ก็ลงเอยแบบเดิมทุกทีเพิ่มเติมคือรุนแรงขึ้นและเก่งขึ้นในทุกๆครั้ง หรือเขาควรโทรปรึกษารายการชูรักชูรสให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย


    แต่สิ่งที่วอนโฮตกหลุมรักในตัวมินฮยอกก็ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องบนเตียงเพียงอย่างเดียว ถึงแม้เวลาปกติจะดูพูดมาก สดใส ร่างเริง แต่พอคบกันจริงๆแล้วเขากลับมีมุมสุขุมนุ่มลึกที่คนอื่นมองไม่เห็น เช่นเดียวกับตัววอนโฮเอง เวลาอยู่กับมินฮยอกก็กลายเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ไม่ต้องมาคอยแต่งตัวเยอะฟอร์มจัดอยู่ตลอดเวลา มีครั้งหนึ่งที่มินฮยอกกลับมาแล้วเขากำลังพอกหน้าขัดตัวประทินผิวอยู่ พอคนรักกลับมาเห็น เขาก็ขำเล็กๆแล้วก็เตือนว่าอย่าออกไปเดินตอนกลางคืนนะมันน่ากลัว


    มินฮยอกไม่เคยบ่นเวลาเขาใช้ห้องน้ำนานๆหรือพรมเครื่องหอมหมื่นลี้เวลาจะไปไหน กลับชอบเข้ามาดมเวลาเขาอาบน้ำเสร็จใหม่ๆเสียด้วย วอนโฮพบว่าตัวเขาเองสามารถเป็น ‘ตัวเขาเอง’ ได้ เมื่ออยู่กับมินฮยอกไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการดำเนินชีวิตหรือแม้กระทั่งความคิดความอ่าน


    อา…ขอไม่นับเรื่องอย่างว่า เพราะมันเป็นเรื่องเดียวที่ขัดใจเขาอยู่


    หรือเขาอาจจะคิดมากเกินไป


    วอนโฮค่อยๆล้างยาสระผมออกจากหัวปล่อยความคิดไปกับน้ำอุ่นๆตรงหน้า หรือเขาควรจะลืมสิ่งที่เขา ‘เคยเป็น’ ไปซะ เรื่องอย่างนี้มันก็ส่งผลต่อชีวิคู่เหมือนกันนะ แต่ทำไมไอ้การเป็นฝ่าย ‘ถูกกระทำ’ มันกลับรู้สึกดีกว่าฝ่าย ‘กระทำ’ แบบที่เคยทำมาตลอดล่ะ


    โอ๊ย….ยิ่งคิดยิ่งเครียดอยากจะบ้าตาย ! เกิดมาเป็นตุ๊ดก็จบไปแล้วเนี่ย!!


    “โว้ยยยยยยยยยยยยย”


    ไม่ไหวแล้วโว้ยหัวจะระเบิด !! เขาตัดสินใจเช็ดผมปิดน้ำ เอาล่ะวันนี้เขาจะไปเผชิญหน้ากับความจริง เป็นไงเป็นกัน วันนี้เขาต้องกลับไปเป็น ‘รุกแท้’ แบบที่เขาเคยเป็นให้จงได้ !






    เริ่มจากอย่างแรก…วอนโฮเอียงคอ ส่องกระจก เขาจิ๊ปากเล็กน้อยอย่างหงุดหงิด ดูสิร่างกายเขาก็ออกจะหล่อล่ำกำยำ กล้ามก็แน่น ซิกแพ็คก็ปึ้ก นี่แหละสิ่งที่เขาชนะมินฮยอก !! วอนโฮยิ้มกริ่มเขาสะบัดผ้าเช็ดตัวแล้วโอบรอบเอวจงใจให้มันอยู่ต่ำเพื่อให้เห็นวีไลน์ที่ชัดเจน เราจะได้เห็นดีกัน !


    “มินฮยอก”


    “หื้ม”


    อีกคนขานรับแต่สายตาไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย เขากำลังสาละวนกับเกมเพลย์สี่ตัวใหม่ มินฮยอกในชุดวอร์มดูเด็กชะมัดเมื่อเทียบกับตัวเขา วอนโฮนึกยิ้มเยาะกับตัวเองในใจเขาค่อยๆเดินไปพาดแขนกับขอบประตูข้างจอทีวีก่อนจะกระแอมเล็กน้อยเพื่อเรียกความสนใจ ฮัลโล อิทสมี


    “มินฮยอก”


    วอนโฮกดเสียงต่ำเอาจริงๆก็ไม่รู้ว่าทำไมไปทำไม รู้แต่ว่ามันดูแมนดี แต่น่าสงสารนักพ่อกล้ามปูคนรักของเขาก็ยังคงหาได้สนใจเขาไม่ สงสัยเสียงเขาคงจะดังสู้เสียงเกมไม่ได้ เอาใหม่


    “มินฮยอก….”


    “……..”


    “มินฮยอก….”


    “……”


    “มินฮ…”


    “ได้ยินแล้วพี่”


    เขากดหยุดเกมเสียงที่เคยดังกลับเงียบในฉับพลัน มินฮยอกเงยหน้าขึ้นมาสบตาวอนโฮอย่างจังและสายตาของเขาคือสายตาที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด ชิปหายแล้ว…. เฮ้ย ไม่ได้! แมนเข้าไว้! อย่าไปกลัว! วอนโฮกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ แต่ทว่ายังคงโพสในท่าเดิมแถมเพิ่มเติมคือเบ่งกล้ามให้แน่นขึ้น


    ขออย่ายอมแพ้อย่าอ่อนแอแม้(ใกล้จะ)ร้องไห้


    แค่สายตาดุๆที่คนตรงหน้ามองมาขาเขาก็แทบจะสั่นพั่บๆ วอนโฮรู้ดีว่าเวลาที่ห้ามเข้าไปยุ่งกับมินฮยอกที่สุดคือเวลาเล่นเกม มินฮยอกเป็นหมาป่าแค่สองเวลาคือ หน้าคอนโซล กับ ….. นั่นแหละ เขาไม่อยากจะพูดถึงมันมากนักเพราะวันนี้เขาจะมาทวงสิทธิ์ของเขาคืน !


    “พี่มีอะไร?”


    เขาเลิกคิ้วถามแต่ยังไม่ลุกขึ้นมา มือค่อยๆบรรจงวางคอนโซลเกมไว้ข้างกาย ก่อนจะขยับตัวให้มองวอนโฮได้ง่ายขึ้นเขาเปลี่ยนอิริยาบถจากแขนทั้งสองวางที่เหนือเข่า มาเป็นท่าไขว้ขากอดอก


    งานเข้าแล้ว….


    โทรเรียกป่อเต็กตึ๊งทันไหมตายไปจะได้มีคนมาเก็บศพ


    หรือโทรบอกที่บ้านให้กรวดน้ำไปให้ดี เผากงเต็กไปให้ ขอบ้านหลังใหญ่ๆนะม๊า


    ไม่เว้ย !วันนี้จะต้องเป็นวันของเขา !


    “ก็เปล่าครับ พี่แค่..อยากจะชวนไปเล่นอะไรกันสักหน่อย” ทำเป็นพูดไปเอียงคอไปจะได้ดูบอยๆ


    มินฮยอกขมวดคิ้วเขางุนงงกับสถานการณ์ตรงหน้า ก่อนจะระบายยิ้มที่มุมปาก ตาสีน้ำตาลสำรวจร่างกายคนรักตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมสีอ่อนยังเปียกชุ่ม หยดน้ำยังคงเกาะอยู่ตามร่างขาวเนียน ผ้าเช็ดตัวที่อยู่ในตำแหน่งหมิ่นเหม่แบบนั้น เล่นไปตามเกมหน่อยดูท่าจะสนุกดี จะมาไม้ไหนกันพ่อคุณ….


    มินฮยอกจึงขยับตัวเพื่อเว้นที่ให้อีกคนสามารถมานั่งข้างเขาบนโซฟาได้ วอนโฮเมื่อเห็นว่าเริ่มไปได้สวย จึงชิงเปิดเกมโดยการผลักอีกคนให้นอนราบไปกับโซฟา เข่าเนียนขยับเข้าใกล้หว่างขาของคนใต้ร่างมากขึ้น มือขาวเลิกชายเสื้อขึ้นก่อนจะเริ่มไร้ไปตามหน้าท้องของอีกคน เมื่อเห็นว่าไม่ขัดขืนเขาจึงเริ่ม ‘ขุดสกิล’เก่าๆของตนเองขึ้นมาใช้

     

    หารู้ไม่เลยว่ามินฮยอกน่ะ….รู้ทันเขาเสมอ








    สามวันที่แล้วเขาได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนสนิทของวอนโฮ เจ้าของงานปาร์ตี้ที่ทำให้พวกเขารู้จักกัน ฮยองวอนรัวใส่เขาทันทีเมื่อเขากดรับสาย


    ‘ไอ้เด็กเวรมึงทำอะไรเพื่อนกู’


    ‘ห้ะ’


    ‘มันโทรมาหากูเนี่ยร้องห่มร้องไห้ พอกูถามว่าเกิดอะไรขึ้น มันก็เอาแต่พูดว่า ถึงเวลาปิดฉากแก๊งมังกรมุดถ้ำของเราแล้ว แล้วก็พูดไม่รู้เรื่องเลย มินฮยอก มึงบอกมานะ เพื่อนกูเป็นอะไร!’


    พอได้ยินดังนั้นคนปลายสายก็ขำร่วน  ในหัวนึกภาพไปถึงคืนแรกที่เขามีอะไรกับคนรักของตนใบหน้าวอนโฮตอนนั้นพูดตรงๆว่าเหวอมาก เขารู้อยู่แล้วว่าวอนโฮเป็น ‘ประเภทไหน’ชื่อเสียงของวอนโฮกระฉ่อนในฐานะนักท่องปาร์ตี้ตัวพ่อ แต่จะมีสักที่คนเชียว ที่รู้ว่าเขาก็เป็น‘ประเภทเดียว’ กับวอนโฮเหมือนกัน แม้ภายนอกเขาจะดูผอมตัวเล็ก น่าจะเป็นฝ่าย ‘รับ’ มากกว่า แต่เรื่องแบบนี้มันตัดสินที่ภายนอกไม่ได้นะครับ


    เมื่อเครื่องมันสปาร์คกันติดมันก็หยุดไม่ได้ง่ายๆ จะบอกแต่เนิ่นๆก็คงไม่ทันเสียแล้ว


    แต่น่าแปลกคือคืนนั้นวอนโฮกลับเป็นฝ่ายรับ ‘มือใหม่’ ที่โดนใจเขายิ่งกว่าใครที่เคยผ่านมา เขาไม่ปฏิเสธเลยว่าเขาอาจจะรุนแรงไปบ้าง แต่หลังจากนั้นทุกท่วงท่าทุกลีลาเมื่อพวกเขาสอดประสานกัน วอนโฮกลับเป็นคนที่ทำให้เขายิ่งโหมกระพือไฟรักให้หนักกว่าเดิม


    ยิ่งเห็นหน้าตาที่ยั่วยวนแบบนั้นเวลาอยู่ใต้เกมรักของเขา 


    แหม่…ลืมไปเลยว่าเคยเป็นรุก









    มินฮยอกสบตาคนที่พยายามคนที่พยายามจะเป็นคนคุมเกมในยามนี้ และเหมือนเจ้าตัวจะรู้สึกถึงความผิดปกติ ใบหน้าขาวเนียนก็แดงระเรื่อขึ้นมายังกับเด็กโดนผู้ใหญ่จับได้เวลาทำความผิด


    “อ….อะ อะไร”


    วอนโฮกระอักกระอ่วนกับสถาการณ์ตรงหน้าได้ทีมินฮยอกจึงคว้าหม่ำเข้าที่ต้นขาแล้วลูบขึ้นไปถึงบั้นท้ายกลมกลึง ทำให้เจ้าตัวเผลอร้องออกมาเล็กน้อย


    “พี่จะทำอะไรครับหื้ม?”


    สายตาเจ้าเล่ห์สบตาเข้ากับวอนโฮอย่างจัง มือสากยังคงลูบไปมาไม่หยุด แต่ใบหน้าเขายามนี้ร้อนราวกับจะระเบิดออกมา


    “วันนี้เป็นวันของพี่นะ!”


    เจ้าของผมสีอ่อนขึ้นเสียงแต่มันไม่ได้ดูน่ากลัวสักนิดในสายตามินฮยอก เพราะวอนโฮตอนนี้น่ะ เหมือนเด็กอมมือที่อยากโตเป็นผู้ใหญ่ในสายตาเขา


    “ผมไม่เคยรู้เลยนะครับว่าเราตกลงกันไว้เรื่องวันของพี่ด้วย”


    “ก็….”


              “พี่ฮยองวอนบอกผมแล้วแหมมังกรมุดถ้ำหรอครับ ฮ่าๆ”


    “พี่เป็นแบบนี้ก็เพราะแก!เอาพี่คนเดิมกลับมานะ”


    อยู่ๆวอนโฮก็ปล่อยโฮออกมา เสมือนความรู้สึกมากมายมาถาโถมจนทนไม่ไหวอีกแล้ว กลายเป็นว่าแทนที่คนรุ่นพี่จะมารุกเริ่มบรรเลงเพลงรัก ตัวเขากลับต้องมานั่งปลอบแทน มินฮยอกส่ายหัวเบาๆก่อนจะดึงคนตรงหน้าเข้ามากอดแน่น


    อายุก็มากกล้ามก็ใหญ่ ทำไมถึงน่าเอ็นดูเหมือนเด็กน้อยแบบนี้นะ


    “โอ๋ๆอยางอแงนะ”


    “…ฮึกๆ”


    “พี่จะกลับไปเป็นรุกเหมือนเดิมแบบที่พี่เคยเป็นก็ได้นะ”


    “จริงหรอ !”


              อยู่ๆคนในอ้อมแขนก็เงยหน้าขึ้นมาด้วยความดีใจมินฮยอกใช้หัวแม่มือทั้งสองข้างปาดน้ำตาออกจากใบหน้าเนียน เขาพยักหน้าทีหนึ่งก่อนจะยิ้มพราย


              แต่หมาป่าก็ยังเป็นหมาป่าวันยันค่ำมินฮยอกก้มลงกระซิบข้างหูคนในอ้อมกอด


              “พี่จะไปรุกคนอื่นก็ได้ผมไม่ว่านะครับ…..”


              “…….”


              “แต่พี่คิดหรอว่าผมจะปล่อยพี่ไปง่ายๆ”

     

     

     

     

     










    Special 


                 โทรศัพท์ของฮยองวอนร้องเตือนอยู่ในกระเป๋า ชายหนุ่มรีบเอามืออีกข้างควานหา ในขณะที่มือซ้ายยังบังคับพวงมาลัยอยู่ เขาอ่านชื่อบนหน้าจอก่อนที่จะสไลด์เพื่อกดรับ


              “ฮัลโลวอนโฮ ว่าไงกูขับรถอยู่ไม่ว่…..”


              ‘วันหลังมึงไม่ต้องสะเออะมาช่วยกูแล้วนะโว้ย มึงรู้มั้ยกูแทบเดินไม่ได้เนี่ยร้าวไปทั้งตัว แม่งเอ้ย!!!!’


              “อ้าว มึงเป็นไรวะ ทำไม มึงทำน้องเขาจนเมื่อยไปหมดเลยหรอ”


              ‘พอ เลิกพูด กูไม่คุยกับมึงแล้ว เออเบอร์เมียกูก็ลบทิ้งออกจากเครื่องไปเลยเคนะ บาย’


              แล้วคนปลายสายก็ตัดหูไป อะไรวะ คนอุตส่าห์ช่วย….

             ก็เห็นชีวิตรักเพื่อนมีปัญหา นี่ก็เป็นคนหวังดี วอนโฮตั้งแต่ได้เมียเป็นมินฮยอกก็ไม่เห็นมาโอ้อ้วดอะไรให้เพื่อนฟังเหมือนแต่ก่อนเลยเอ้อ สงสัยเป็นคนกลัวเมีย


              “โชคดีนะเพื่อน”


              เขาหันไปพูดกับโทรศัพท์ก่อนจะหันมาสนใจกับการขับรถต่อ 

              หรือถึงเวลาที่เขาจะต้องมีเมียบ้างแล้วสักที ?

     






Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in