ฮัสกี้หน้าโง่กับอาจารย์เหมียวขาวของเขา เล่ม 2
? YAOI / BL
? สำนักพิมพ์: Rose
✍? เขียน: โร่วเปาปู้ชือโร่ว
? แปล: Bou Ptrn
หว่านเยี่ยอวี้เหิง เป๋ยโต่วเซียนจุน ครอบครองสามเทพศัสตรา ปรมาจารย์อันดับหนึ่งแห่งยุคผู้เป็นที่แย่งชิงตัวของเหล่าสำนักบำเพ็ญเพียร ครั้นเทียนเวิ่นปรากฏ สี่ทะเลล้วนสั่นสะเทือน ชุดขาวดุจหิมะสยบโลกมนุษย์สิ้นสี กล่าวได้ว่าเขาสมควรเป็นผู้ครอบครองพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนี้
ทว่าบุคคลที่ร้ายกาจถึงเพียงนี้ก็ยังมีจุดอ่อน ในใจเขามีคนผู้หนึ่ง ฉู่หว่านหนิงซ่อนเขาเอาไว้ในส่วนลึกที่สุดของหัวใจอย่างระมัดระวัง ไม่ชอบตนก็ช่าง ขอเพียงได้คิดถึงอยู่เงียบ ๆ ปกป้องคนผู้นั้นไว้ ไม่ได้ครอบครองก็ช่าง ไม่ว่าอย่างไรก็ดีทั้งสิ้น แต่เขาไม่รู้ว่าตนจะทนอยู่กับความเจ็บปวดเช่นนี้ไปได้อีกนานเพียงใด ไม่รู้ว่าตนจะล้มลงเมื่อไหร่
ความรู้สึกหลังอ่าน เล่ม 2 ⚠️ Spoil ⚠️
เล่มนี้มีหลากหลายอารมณ์มาก ๆ ค่ะ
ขออนุญาตพูดตั้งแต่หน้าปกก่อนเลย เพราะเราชอบมากจริง ๆ เป็นฉู่หว่านหนิงในชุดขาวยืนถือเทียนเวิ่น ดูหยิ่งทะนงเย็นชา แต่ด้านหลังเป็น Background ดอกไห่ถั่งสีชมพูอ่อนที่ให้ความรู้สึกอ่อนหวานละมุนมาก หน้าปกบ่งบอกตัวตนของฉู่หว่านหนิงดีมาก ๆ แถมถ่ายทอดอิมเมจตัวละครเหมือนออกมาจากนิยายเลย ตอนเห็นครั้งแรกเราชอบมาก ๆ เลยค่ะ (รวมถึงคนแสดงอย่างหลัวหยุนซี ตอนเราอ่านฉากที่ฉู่หว่านหนิงเปิดตัวรู้สึกว่าหลุดมาจากนิยายมาก ๆ เห็นเป็นหน้าหยุนซีเลยค่ะ 555)
มาพูดด้านเนื้อเรื่องบ้าง ต้นเล่มมีการต่อสู้ต่อเนื่องกันจากเล่ม 1 พอเปิดเล่ม 2 มาประมาณ 2-3 บท ซือจุนดิฉันเจ็บตัวไปแล้้ว เจ็บทั้งตัวทั้งใจ อยากจะร้องไห้ใส่ แล้วก็เขย่าคอโม่หรานว่า
แก มัน-ไม่-ใช่-ว้อยยยย!! แต่เราจะได้เห็นความอ่อนโยนของอาจารย์ค่ะ ในตอนที่กอดปลอบเซวียเหมิงที่ร้องไห้ (โดยมีหมาโง่กอดอกมองอย่างไม่สบอารมณ์...) หรือตอนที่กลับมาจากสระจินเฉิงก็ค้นคว้าตำราทั้งวันทั้งคืนเพื่อลูกศิษย์ อันนี้ประทับใจมาก แต่อาจารย์ก็ดื้อมากค่ะ ผลการดื้อครั้งนี้ทำให้ร่างกายมีความปกติในภายหลัง ก็คือ....
ถึงตัวเป็นเด็ก แต่สมองเป็นผู้ใหญ่ ชื่อของเขาก็คือ โค... เอ้ย ฉู่หว่านหนิง !!!
หว่านหนิงกลายร่างเป็นเด็กค่ะ กี๊ดดดด !! อันนี้เซอร์ไพร์สจริง ๆ
เล่มนี้จะมีการบรรยายด้านของฉู่หว่านหนิงเยอะขึ้น คนอ่านจะได้สัมผัสถึงความคิดความรู้สึกที่ซือจุนเก็บไว้มาตลอด ทั้งความรัก ความหึงหวง ความน้อยเนื้อต่ำใจที่มีต่อโม่หราน ยิ่งพอกลายเป็นเด็กแล้ว ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ทำให้แสดงออกมามากกว่าปกติด้วย แถมการกลายเป็นเด็กทำให้ฉู่หว่านหนิงได้เข้าไปใกล้ชิดเหล่าลูกศิษย์ตัวเองมากขึ้นในฐานะ “ซย่าซือนี่” ศิษย์น้องเล็กของผู้อาวุโสเสวียนจี พูดง่าย ๆ ก็คือปิดบังตัวเองนั่นแหละค่ะ ไม่กล้าให้ใครรู้ว่าตัวเองกลายเป็นเด็ก นอกจากเหล่าผู้อาวุโสกับทานหลางที่เป็นคนผลิตยาคืนร่างให้...
แต่คงสภาพผู้ใหญ่ได้ไม่นานก็จะกลับเป็นเด็กอีก... นี่มันยาแก้ APTX—
ส่วนเรื่องวุ่นวายที่สระจินเฉิง ได้พบกับเคล็ดวิชาต้องห้ามอย่าง
"กลหมากเจินหลง" ที่ชาติก่อนเขาเคยฝึกสำเร็จ ทำให้โม่หรานฉุกคิดได้ว่าโลกนี้มีบางอย่างแปลกไป เพราะโลกก่อน ในช่วงเวลานี้ ยังไม่มีใครฝึกวิชานี้ได้สำเร็จ แต่ในชาตินี้กลับมีคนลึกลับที่ฝึกกลหมากนี้สำเร็จ และพยายามจะแย่งชิงแก่นวิญญาณของตัวเขา
มันมีหลายซีนระหว่างโม่หรานและฉู่หว่านหนิงที่เราชอบ มีความน่ารักกุ๊กกิ๊ก มีเลิ่กลั่กเบา ๆ ชวนเอ็นดู โม่หรานเหมือนค่อย ๆ คิดขึ้นมาได้ว่า อาจารย์ในความทรงจำของตัวเองกับที่เห็นตรงหน้าแตกต่างกัน แล้วทำไมชาติก่อนข้าถึงได้เกลียดเขาขนาดนั้น? เรื่องมันเริ่มมาจากไหน?
ปากโม่หรานบอกว่าตัวเองไม่ใส่ใจอาจารย์ แต่ตอนที่อาจารย์ก้าวเข้ามาปกป้องแถมยังแสดงออกว่าเชื่อใจเขา โม่หรานก็อารมณ์ดีมาก เดินตามอาจารย์หางกระดิก แถมยังหยอกล้ออาจารย์อีก
นับว่ามีพัฒนาการ บ้าง-แล้ว-ว้อย!!เล่มนี้มีฉากที่โหดร้ายชวนสะเทือนใจและฉากที่เศร้าใจสุด ๆ จนทำเราร้องไห้เลยค่ะ ใบ้ให้ว่าเป็นซีนที่อยู่หลิงอาน
เรื่องโหดร้ายที่โม่หรานกระทำในชาติก่อน เล่มแรกจะบรรยายจากตัวโม่หรานเป็นหลัก แต่เล่มนี้ฉู่หว่านหนิงจะฝันถึงเรื่องในชาติก่อนจากมุมมองตัวเองด้วย ระดับความปวดใจก็จะเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย
ระดับความค้างของเล่ม 1 ถือว่าไม่มาก แต่เล่ม 2 ค้างมาก ศิษย์อาจารย์กำลังไปได้ดี ก็ตกม้าตายตอนสุดท้ายของเล่มค่ะ โม่หราน
แกเป็นบ้าอะไรอีก ใจเย็นนนนน ! ⚠️ โซนอยากพูดส่วนตัว แบบ Spoil สุด ⚠️
- ตรงซีนอาคมปลิดหัวใจ ส่วนตัวเรารู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยค่ะ จะสลับวิญญาณคนสองคนเพื่ออะไร ดิฉันงง นอกจากเพิ่มความรันทดให้ซือจุนมากขึ้น
- เล่มนี้ทำให้เราเข้าใจโม่หรานมากขึ้นเหมือนกัน โม่หรานมีปม โดนดูถูก ไม่เป็นที่รักมาตั้งแต่เด็ก เขาเห็นว่าอาจารย์น่าจะเป็นคนอ่อนโยน ก็เลยตั้งความหวังไว้มากว่าจะได้เจอบ้านของตัวเอง แต่ก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เขาเปลี่ยนจากรักเป็นเกลียดและไปชอบซือเม่ยแทน
- ฉู่หว่านหนิงเองก็ไม่แพ้กัน จริง ๆ เขาก็อยากจะได้รับความรัก แต่เขาก็รู้ว่าบุคลิกตัวเองเป็นแบบนี้ทำให้ไม่มีใครชอบ สุดท้ายเขาก็เลยเหมือนผีเสื้อที่เอารังไหมมาพันตัวเองจนแน่น แล้วขังตัวเองไว้ในนั้น จะให้เป็นฝ่ายฉีกรังไหมนี้ออก ก็กลัวว่าข้างนอกจะไม่มีใครรออยู่ แต่เขาก็อยากให้ใครสังเกตถึงเขา เข้ามากระเทาะเปลือกของเขาออก ฮือ
- พอหว่านหนิงได้เป็นเด็ก เราเลยรู้สึกเหมือนเขาได้ปลดปล่อยตัวเองเลยค่ะ เขาจะพูดยังไง เอาแต่ใจยังไงก็ได้ เพราะเป็นเด็ก แล้วก็มีความสุขที่ได้คุยอย่างสนิทชิดเชื้อกับโม่หราน ช่วงนั้นสองคนนี้ตัวติดกันเป็นตังเมเลย นึกว่าคู่เดท
- ซีนที่กรี๊ดอีกซีน คือตอนที่โม่หรานจะทิ้งซย่าซือนี่ให้ซ่อนในบ้าน ส่วนตัวเองจะออกไปกำจัดปีศาจ แล้วหว่านหนิงไม่ยอมจะขอไปให้ได้ ก็เลยยอมเรียกโม่หรานว่า "ศิษย์พี่" เป็นการอ้อน โม่หรานก็อึ้ง หูแดง หว่านหนิงก็เลยลองเรียกแบบอื่น "ซือเกอ" "พี่ชาย" "พี่โม่หราน" ปรากฎว่าโม่หรานเชินจนทนไม่ไหว ยอมให้น้องไปด้วยกัน 55555555555555555555
- ซีนเลิ่กลั่ก ๆ ในเรื่องก็น่ารักหลายซีน
- ซีนที่หว่านหนิงรับสมอ้างเป็นพ่อของซย่าซือนี่คือฮา 555
- เราจะได้เห็นความเด็ดเดี่ยวของเซวียเหมิงในเล่ม ตอนที่เขายอมละทิ้งดาบบรรพชนเพื่อกำจัดไจซินหลิ่ว ต้องมารู้ว่าตัวเองอาจจะไม่มีวันสุดยอดอีกแล้ว แต่เหมิงเหมิงก็เข้มแข็งมาก อยากหอมหัว
- อีกซีนที่ชอบของเหมิงเหมิง คือตอนโม่หรานถูกใส่ร้าย เหมิงเหมิงถึงจะทะเลาะกับโม่หรานประจำกลับเป็นคนแรกที่ก้าวออกมาปกป้อง /ยืนขึ้นปรบมือ
- ซือเม่ยเล่มแรกไม่ค่อยมีบทบาทอะไรนัก แต่เล่มนี้เริ่มดูมีอะไรมากขึ้น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in