ความสุขเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญและเลือกใช้นำทางชีวิตมาตลอด เรียกได้ว่าเป็นเป้าหมายของการมีชีวิตอยู่เลยก็ได้ เพราะงั้นการตั้งคำถามกับสิ่งที่เรียกว่าความสุขเลยเป็นอะไรที่เราจมกับมันบ่อย ๆ ความสุขในนิยามชีวิตของเรา ก็คือ ความสนใจ
'การได้ทำในสิ่งที่เราสนใจและหลงใหล ไม่ว่าแง่มุมใด ก็สร้างความสุขให้เราได้เสมอ'
ที่ผ่านมาความสนใจของเราผูกติดกับการทำอะไรที่มีความหมายสำหรับเราเองและคนในสังคม หรือในมุมคนทั่วไปก็คือการทำประโยชน์หรือทำเพื่อคนอื่น (แต่เราไม่ได้มองว่ามันคือการทำเพื่อคนอื่น สำหรับเรามันคือการทำเพื่อจัดระเบียบหรือทำเพื่อสร้างสังคมตามอุดมคติที่เรามองว่าถ้าสังคมมันเป็นแบบนั้น อะไร ๆ มันน่าจะดีกว่า) การมีความรู้ ความเข้าใจ และมีความสามารถในการทำเพื่อสังคมได้ จึงเป็นสิ่งที่คอยเติมเต็มความพอใจและความสุขในชีวิตของเรา
แต่ความสุข ต้องมาพร้อมกับความพอดี
_____________________________________________________________________________________________________
ที่ผ่านมาเราจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการค้นหา เติมความเข้าใจ และเรียนรู้เกี่ยวกับการทำความเข้าใจพฤติกรรม ความคิด การพัฒนาตัวเอง และการพัฒนาผู้คน สังคม ซึ่งพออยูในช่วงวัยทำงานเราก็พาตัวเองเดินไปบนเส้นทางสายที่เราสนใจ จากความสุขเล็ก ๆ แค่การรู้และเข้าใจ ก็กลายเป็นความสุขจากการได้ทำตามสิ่งที่สนใจ แต่พอได้เริ่มแทนที่จะพอใจ กลับกลายเป็นว่าเรายิ่งไล่ล่าสิ่งที่ยาก ท้าทาย ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อง ๆ ความสุขที่เคยเติมได้จากเรื่องเล็ก ๆ กลับไม่พออีกแล้ว
เวลาอีกส่วนที่ไม่ใช่เวลางาน เราก็เลือกที่จะจมอยู่กับการพัฒนาตัวเองเพื่อเพิ่มศักยภาพที่พร้อมรับกับการทำสิ่งท้าทายที่มากขึ้นในสายงาน มันคือกิจวัตรที่แย้งชิงความผ่อนคลายอื่น ๆ พร้อมกับปลูกฝังให้ตัวเรามีความสุขได้จากความพอใจกับความสำเร็จของงานเพียงด้านเดียว
.....สัญญาณเตือน เกิดขึ้นเสมอ.....
ช่วงเวลาหนึ่ง เราเริ่มรู้สึกทำตัวไม่ถูก เวลาที่ต้องหยุดพักเพื่อผ่อนคลาย เวลานั้นชีวิตกลับเต็มไปด้วยคำถาม เราเริ่มเฉย ๆ กับสิ่งที่เคยทำแล้วสนุก จนกลายเป็นไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี มันเบื่อ ๆ เหมือนมีบางอย่างขาดหายไป พอความสุขไม่เกิดจากเรื่องทั่วไป การทุ่มกับเรื่องหนัก ๆ ในชีวิตที่เกี่ยวกับความสนใจจึงเป็นการแก้ปัญหาที่ตอบโจทย์ที่สุด โดยที่เราไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือสัญญาณเตือน
สุดท้ายจากสัญญาณเตือนก็กลายเป็นอาการเจ็บป่วย
และ
ความรู้สึกว่างเปล่า
พอจุดยืนที่เคยสร้างความสุขไม่ถูกเติม และกลายเป็นเรื่องที่บั่นทอนความรู้สึกแทน ตอนนั้นแหละที่เราเริ่มรับรู้ว่า ความสุขเล็ก ๆ สำคัญมากแค่ไหน
ชีวิตในช่วงที่ดาวน์สุด ๆ มันไม่ได้เจ็บปวดเหมือนเวลาไม่สบายหรือเกิดอุบัตติเหตุ แต่มันมาในรูปแบบของความรู้สึก ว่างเปล่า เฉย ๆ กับทุกสิ่งรอบตัว และไม่มีแรงใจที่จะทำสิ่งที่เราหลงใหล มันไม่มีอะไรเลยที่ทำให้เราพอใจ ไม่มีแรงบันดาลใจกับอะไรเลยสักอย่าง มันโครตว่างเปล่า
'เมื่อทุกอย่างหายไป ถึงเห็นค่าสิ่งที่มองข้าม'
เราก็ไม่รู้นะว่าตอนนั้นอะไรที่พาให้หลุดออกมา แต่สิ่งหนึ่งที่จำได้ คือ การรับรู้ถึงความพอใจกับเรื่องเล็ก ๆ มันทำให้ความว่างเปล่า ถูกเติมความรู้สึกเข้ามาได้ แม้จะไม่มากเท่าความพอใจใหญ่ ๆ แต่ก็ไม่หนักอึ้งเหมือนเดิม พอได้เริ่มและสะสม รู้ตัวอีกที ความว่างเปล่าก็แทบจะไม่เหลือแล้ว
สำหรับเราตอนนี้ ความสุขมันเกิดขึ้นตลอดเมื่อเรารู้สึกพอใจกับอะไรสักอย่าง มันเป็นได้หมดเลย ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยอย่างขนมที่เก็บไว้นานยังกินได้อยู่ เจอเงินตอนซักผ้า ไดัฟังเพลงที้ชอบเมื่อนานมาแล้วโดยบังเอิญ ตื่นมาเจออากาศที่ไม่ร้อนเกินไป ดีจัง........
ที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญกับความสุขจากเรื่องใหญ่ ๆ และละเลยการสะสมความสุขที่เกิดจากเรื่องเล็ก ๆ จนไม่รู้สึกพอใจกับอะไรอีก........................
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in