จะเห็นว่าเราไม่ได้ให้คะแนนเรื่องนี้
ขอบอกตามตรงนะคะว่า... เราไม่กล้าให้คะแนนหนังเรื่องนี้ค่ะ
ไม่ใช่เพราะมันไม่ดี แต่มันค่อนข้างมีสัญญะอะไรที่แอบแฝงหรืออะไรอย่างอื่นที่เราคิดว่าเรายังเข้าถึงได้ไม่เยอะพอและต้องใช้เวลาย่อยมากกว่าปกติถึงจะสามารถเรียบเรียงออกมาเป็นคำพูดหรือตัวหนังสือได้ แต่ถึงอย่างนั้น ถึงจะเข้าใจแล้ว เราก็ไม่คิดว่าเราจะเขียนอะไรถึงหนังเรื่องนี้ได้เยอะอยู่ดี
นี่เป็นหนังอีกเรื่องที่เราอยากดูแค่เพราะได้ชื่อว่าเป็นหนังเข้าชิงออสการ์และเป็นหนังเกย์ที่มีแต่คนบอกว่าเจ็บปวด เรารู้มาแค่นี้แล้วก็อยากดูมาก แต่โรงที่ฉายก็มีน้อย แถมรอบฉายก็น้อยเข้าไปใหญ่ แต่สุดท้ายก็หาดูจนได้
หนังเล่าถึงชีวิตของไชรอน เด็กชายผิวสีซึ่งเป็นเกย์และแบ่งออกเป็นสามช่วงวัย คือวัยเด็ก วัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่ เราจะได้เห็นว่าไชรอนนั้นเป็นเด็กที่เติบโตมาในชนชั้นล่างของคนผิวสี มีแม่ที่ติดยางอมแงมและถูกกลั่นแกล้งมาตั้งแต่เล็กๆ เพียงแค่เพราะว่าเขาเป็นเกย์ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังมีที่พึ่งพิงทั้งกายใจ เราจะได้เห็นบาดแผลของเขา ความปวดร้าวของเขาและการค้นหาตัวเองในแต่ละช่วงวัยที่หล่อหลอมให้เขากลายเป็นผู้ใหญ่ในแบบที่เขาเลือกเดิน
ตัวหนังจะค่อนข้างเงียบค่ะ เงียบแล้วก็ละมุน เน้นการสื่อสารอารมณ์ผ่านทางภาพมากกว่าคำพูด อย่างที่บอกไว้คือ เราคิดว่ามันย่อยค่อนข้างยาก เราเลยไม่รู้ว่าจะแนะนำให้คนอื่นดูดีมั้ย แต่นี่เป็นหนังที่ดีค่ะ อันนี้เรารับประกันได้ เพียงแต่ว่าเราจะเข้าใจมากน้อยแค่ไหนก็เท่านั้นเอง
Moonlight เข้าชิงออสการ์ 2017 ทั้งหมด 8 สาขา ได้แก่
แล้วก็คว้ามาได้ 3 สาขา คือ
คว้ารางวัลใหญ่สุดมาได้แบบนี้ มีโอกาสก็ดูกันนะคะ :)
ปล. เราเพิ่งมาสังเกตตอนดูหนังจบแล้วว่าโปสเตอร์เอาหน้าคนสามช่วงวัยมาตัดต่อให้เป็นคนๆ เดียวกันซึ่งมันเก๋มากเลยอ่ะ สวย ชอบบบ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in