เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Movie Review | ดูแล้วมาเล่าtortuewaii
[Review (มั้ง)] Manchester By The Sea | แค่... ใครสักคน (9.5/10)


  • ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงกวาดรางวัลมาซะถล่มทลายจนใบปาล์มแทบจะปิดหน้านักแสดงอยู่แล้วแบบนี้ 5555555555

    ถึงแม้จะเป็นหนังดราม่าที่ขึ้นชื่อเรื่องความเศร้าและแหลกสลายเหมือนกัน แต่เรื่องนี้ไม่เหมือนกับ Jackie ถ้าใครที่เคยดู Jackie จะสัมผัสได้ถึงความต่างอย่างชัดเจน เพราะเรื่องนั้นรวดร้าวแบบให้เห็นกันซึ่งๆ แต่กับเรื่องนี้... ทุกอย่างเก็บเงียบอยู่ข้างใน เป็นความร้าวรานแหลกสลายที่พยายามฝืนรวบรวมเศษเล็กเศษน้อยให้อยู่รวมกันเป็นชิ้นเป็นอันมาก มีความเจ็บปวดที่อดกลั้นอยู่ข้างในและไม่ยอมแสดงออกอยู่ตลอดความยาว 137 นาทีของหนังเรื่องนี้ เรียกได้ว่าเป็น Highly recommended สำหรับคนที่ชื่นชอบหนังดราม่า คุณจะไม่มีทางผิดหวังกับอารมณ์และความรู้สึกที่ได้รับ แต่เราขอเตือนอย่างจริงจังว่าหนังเรื่องนี้เป็นยาพิษสำหรับคนที่ไม่ชอบและทนรับความอึดอัดของหนังฟิลนี้ไม่ได้ค่ะ คุณอาจจะรู้สึกเหมือนกำลังโดนทรมานทั้งเป็นก็ได้

    ลี แชนเดอร์ (เคซีย์ แอฟเฟล็ก) ภารโรงของอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งในบอสตันซึ่งมีหน้าที่ซ่อมท่อปะปา เปลี่ยนหลอดไฟ ทาสี โกยหิมะตามแต่โดนเรียกตัวเป็นชายที่ดูเผินๆ แล้วเป็นคนไร้มารยาท หยาบคาย ไร้มนุษยสัมพันธ์ อารมณ์ร้อนและชอบมีเรื่องทะเลาะวิวาท แต่เนื้อแท้จริงๆ แล้วเขาไม่ใช่คนแบบนั้น เป็นเพราะปมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตต่างหากที่ทำให้เขาเปลี่ยนไป

    วันหนึ่ง ลีได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลว่าโจ พี่ชายของเขาเสียชีวิตแล้วจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน และโจได้ทำพินัยกรรมไว้ให้ลีเป็นผู้ปกครองของแพททริค ลูกชายของเขาจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ สองอาหลานที่คนหนึ่งก็แหลกสลายเป็นทุนเดิมอยู่แล้วกับหลานซึ่งเป็นวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อจึงต้องคอยประคับประคองกันไปแบบทุลักทุเลจนกว่าจะพ้นพิธีศพของโจไป ต่างฝ่ายต่างเก็บกดทุกความเศร้าเอาไว้ในอกและแสดงออกมาเหมือนกับว่ามันไม่เป็นอะไร

    แต่ปัญหามันมีอยู่ว่า โจได้เขียนพินัยกรรมทิ้งไว้ให้ลีเป็นคนดูแลแพททริคโดยที่โจจะต้องย้ายกลับมาอยู่ที่แมนเชสเตอร์ ซึ่งโจไม่ต้องการที่จะทำแบบนั้น และถึงแม้ว่าเขาจะต้องการ... เขาก็ทำไม่ได้

    อันนี้เป็นเรื่องราวแบบคร่าวๆ ค่ะ รายละเอียดไปเก็บเอาตอนดูหนังก็แล้วกัน ตัวหนังจะค่อยๆ เฉลยว่าอะไรคือปมที่ฝังใจและทำให้ลีเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้

    อย่างที่เราได้อวยไปตั้งแต่ต้นแล้ว เราชอบหนังเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    คะแนนยังให้ตั้ง 9.5/10 เลยคิดดู (หักครึ่งคะแนนเพราะยาวไปหน่อย นั่งจนเมื่อยไปหมด ถถถถถถ)

    คงเพราะว่าเราชอบดูหนังดราม่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วยมั้งคะ ชอบความหน่วงๆ ตึงๆ ความเรื่อยๆ ในหนังเรื่องนี้ เคซีย์ แอฟเฟล็กแสดงดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก (มากแค่ไหนดูจากรางวัลที่ฮีกวาดมาได้ในโปสเตอร์) ภายใต้ความเฉยเมยไร้อารมณ์และมนุษยสัมพันธ์คือความแหลกสลายร้าวรานแบบสุดๆ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะถ่ายทอดออกมาให้เราสัมผัสได้ว่าจริงๆ แล้วตัวละครตัวนี้เค้ามีปัญหา ไม่ใช่แค่นิสัยเสีย ปากหมา กวนตีนธรรมดาโดยสันดาน

    แต่ในหนังไม่ได้มีแค่ความหน่วงๆ อึนๆ นะคะ ความฮาก็มีทั้งที่ไม่น่าจะฮาได้ แต่เชื่อเถอะว่ามันฮาจริงๆ ภายใต้ความเครียดขนาดนั้นยังมีอะไรที่ทำให้เราอดขำเบาๆ ไม่ได้

    Manchester By The Sea เข้าชิงออสการ 2017 ทั้งหมด 6 สาขา ได้แก่

    • ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
    • ผู้กำกับยอดเยี่ยม (เคนเนธ โลเนอร์แกน)
    • นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (เคซีย์ แอฟเฟล็ก)
    • นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (ลูคัส เฮดจ์ส)
    • นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (มิเชล วิลเลียมส์)
    • บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม 

    แล้วก็คว้าไปได้ 2 สาขา คือ

    • นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (เคซีย์ แอฟเฟล็ก)
    • บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม 

    เอาเป็นว่าแนะนำมากๆ ค่ะ แนะนำอย่างจริงจังสำหรับคอหนังดราม่า รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวัง

    ส่วนใครที่ไม่ชอบหนังแนวนี้ เชิญปล่อยผ่านไปตามสบายได้เลยค่ะ เพื่อสุขภาพจิตใจที่ดีของตัวท่านเอง


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in