เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
EVERY SINGLE PIECE OF YOU MAKES ME FALLa week before valentine
[JOHNNY/JAEHYUN] My Dearest
  • Title: My Dearest
    Fandom: NCT
    Pairing: JOHNNY/JAEHYUN
    Rating: PG
    Note:
    - Happy birthday to Jaehyun!
    - ต่อจากเจ้าชายแจฮยอนและรัฐมนตรีจอห์นนี่
    - เปิดเพลงนี้ฟังกันสักนิดตอนอ่านนะคะ




    **********



    เจ้าชาย...

    สรรพนามอันสูงส่งที่ใครต่อใครพากันเรียกขานชายผู้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของสมมุติเทพของผู้ปกครองแผ่นดิน เพียงแค่เอ่ยฐานันดรนั้นออกมา ก็พลิกสถานะระหว่างคนด้วยกันกลายเป็นคนกับเทพเจ้าได้อย่างง่ายดาย

    เจ้าชาย

    เด็กชายที่เติบโตมาอย่างเข้มงวด ในสถานที่ที่ดีที่สุด เพียบพร้อมที่สุด เพื่อให้เขากลายเป็นบุคคลที่ประชาชนเคารพนับถือ เพื่อให้ทุกคำพูดที่จะเปล่งผ่านริมฝีปาก ทุกถ้อยคำนั้น กลายเป็นวาจาสิทธิ์ที่ใครก็ไม่อาจขัดขืนได้––รวมถึงผู้พูดเองด้วย

    เจ้าชาย

    สมบัติล้ำค่าของแผ่นดินซึ่งสูงส่งเกินกว่าจะมีใครคู่ควรได้ครอบครอง สมมุติเทพในร่างมนุษย์ที่พระเจ้าปั้นแต่งให้งดงามสมฐานะ

    เจ้าชายแจฮยอน

    ผู้ที่กำลังหลับใหลอยู่บนเตียงของเขา

    จอห์นนี่ ซอ นั่งอยู่ข้างเตียง แง้มม่านเล็กน้อยให้ดวงอาทิตย์ได้ทำงานอย่างเต็มที่ แสงแดดยามเช้าของหน้าหนาวในชิคาโกพาดผ่านเข้ามาในห้อง ผิวกายขาวละเอียดราวกับกระเบื้องเคลือบสะท้อนแสงอบอุ่นนั้นเป็นภาพอันน่าชม เขาเอื้อมมือไปสัมผัสผมที่ปรกหน้าผากของคนที่ยังไม่หลุดจากห้วงฝันอย่างแผ่วเบา กลัวว่าจะทำให้ตื่น กลัวว่าคนที่เพิ่งนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงจะต้องลำบากลืมตาขึ้นมาแล้วบ่นปวดหัวไปอีกครึ่งวัน

    แต่เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสโดนผิว แจฮยอนก็เบียดร่างตนเข้ากับมือของเขาราวกับจะอ้อน

    "...ตื่นแล้วเหรอครับ"

    เขาถาม เสียงเบาเหมือนลมพัดผ่าน บ้านของรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศในวอชิงตันดี.ซี. อาจใหญ่โตโอ่โถง แต่บ้านเกิดของจอห์นนี่ ซอ ที่ชิคาโกกลับเป็นบ้านเดี่ยวหลังเล็กแบบที่เขาคุ้นเคยมาตลอดชีวิต ในห้องนอนที่พอจะวางเตียงควีนไซซ์รวมกับเครื่องเรือนอีกไม่กี่อย่างได้ จึงไม่จำเป็นต้องพูดจาเสียงดังเลย

    ยิ่งอยู่กันแค่สองคน และอีกฝ่ายเพิ่งกลับมาสู่โลกความจริง จอห์นนี่ก็ปรับโทนเสียงตัวเองลงเสียนุ่มนวลอย่างไม่รู้ตัว––ด้วยความเคยชิน

    "อืม..." แจฮยอนพึมพำในคอ เหมือนแมวที่กำลังอารมณ์ดี "ขอนอนต่ออีกหน่อย"

    "เดี๋ยวไปทำอะไรให้กินนะ"

    "ไม่เอา" เสียงของคนที่เพิ่งตื่นรีบพูดทันที ก่อนจะยื่นมือออกจากผ้าห่มมารั้งแขนเขาไว้ทั้งแขนให้ลงไปนอนด้วยกัน "อยู่ด้วยกันก่อนนะครับ"

    แล้วแจฮยอนก็นิ่งไป

    ลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่าอีกฝ่ายกลับเข้าไปยังโลกแห่งนิทราอันแสนสงบอีกครั้ง จอห์นนี่หลุดยิ้มกับท่าทางนั้น เขาพิศมองแพขนตายาวที่ทาบทับเหนือผิวแก้มเนียน ปลายจมูกโด่งรับกับริมฝีปากสีแดงธรรมชาติที่เผยอออกเล็กน้อยจนเห็นฟันซี่ขาว ๆ เหล่านั้นอย่างเอ็นดู กดริมฝีปากลงบนหน้าผากเกลี้ยงอีกรอบแล้วตัดสินใจเลื่อนเวลาอาหารเช้าออกไปเสียหน่อย

    เช้าวันลาพักร้อน ไม่มีอะไรต้องรีบนี่นา


    **********


    14 กุมภาพันธ์ เป็นวันวาเลนไทน์

    แต่สำหรับประชาชนชาวเกาหลีใต้ อาจจำเพิ่มไปอีกว่า มันคือวันคล้ายวันพระราชสมภพของเจ้าฟ้าชายแจฮยอน––ผู้ที่ขณะนี้เสด็จประพาสมลรัฐอิลลินอยส์เป็นการส่วนพระองค์

    จอห์นนี่ฟังข่าวรอบเที่ยงจากโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งไว้ในห้องนั่งเล่น ส่วนตัวเขาวุ่นวายอยู่กับการทอดไก่สูตรเกาหลีให้คนที่กอดตุ๊กตาหมีตัวโตอยู่หน้าทีวีเครื่องนั้นแหละ เจ้าฟ้าชายองค์รองของคาบสมุทรเกาหลีเดินเข้ามาหาเขาในครัวพร้อมตุ๊กตาหมีสีขาวตัวใหญ่ที่คล้องไหล่นั้นอยู่ แจฮยอนดูตัวเล็กลงไปทันที

    "หิวแล้วอะ"

    จอห์นนี่ละสายตาจากกระทะไปมองคนที่อยู่ในชุดเสื้อคอเต่าแขนยาวสีเบจและกางเกงลายตารางสีน้ำตาลขายาวย้วย ดูเหมือนก้อนขนมปังเดินได้มากกว่าเจ้าชายผู้เป็นที่รัก

    "ก็บอกว่าจะมาทำให้ แจฮยอนก็ไม่ยอมปล่อยพี่สักทีนี่นา"

    แจฮยอนมุ่ยหน้า เดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าว วางตุ๊กตาไว้ข้าง ๆ เสมือนเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะด้วย

    "เราเริ่มแสบท้องแล้วนะ"

    "จริงหรือเปล่า" จอห์นนี่ปิดเตาทันที "ไปหาหมอไหม หรือให้พี่เรียกหมอ––"

    "หยุดก่อน" คนอายุน้อยกว่ายกมือห้าม "แค่เปรียบเทียบน่ะ หิวมากเลย พี่ทำต่อเถอะ เดี๋ยวเราเตรียมจานให้"

    จอห์นนี่นิ่งไป ก่อนจะพรูลมหายใจออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ

    เจ้าชายงั้นเหรอ

    อยู่กับเขาก็เป็นเจ้าเด็กแสบน่าตีนี่แหละ

    แจฮยอนเดินมาหยิบจานตรงที่วางแล้วเอาไปจัดบนโต๊ะอย่างสวยงามตามมารยาทบนโต๊ะอาหารที่เคยเรียนมา แล้วก็วนกลับมาหยิบแก้วอีกสองใบพร้อมกับขวดน้ำอัดแก๊ส ได้ยินเสียงบ่นว่า "ไม่มีโคล่าเลยหรือไง" จากปากยื่น ๆ นั่น น่าเอ็นดูจนจอห์นนี่ยอมดับเตาอีกรอบแล้วยื่นมือไปคว้าเอวบางใต้เสื้อไหมพรมตัวหนานั่น

    "อะไรนักเรา"

    "ไม่มีโคล่าเหรอ ไม่กินไก่กับโคล่าได้ไง"

    "ปกติไม่ใช่ว่ากินไก่กับเบียร์หรือไง"

    แจฮยอนทำท่าเหมือนนึกได้

    "เข้าท่า"

    "พอก่อนเลยครับ คืนนี้พี่จะเสิร์ฟไวน์ไง ลืมเหรอ"

    แจฮยอนทำท่าคิด ก่อนจะพยักหน้าเหมือนบอกว่า "อ๋อ จริงด้วย" แต่ยังไม่ทันจะสลัดตัวเองออกจากอ้อมกอดของเขา จอห์นนี่ก็ชิงหอมแก้มขาว ๆ ที่ลอยไปลอยมาก่อกวนสายตาเขาอยู่ไปหนึ่งที

    "นั่งเฉย ๆ ได้แล้วครับ จะเสร็จแล้ว"

    "เย่"

    แจฮยอนกำมือขึ้นมาชูข้างหน้าตัวเองแล้วเปล่งเสียงออกมาเบา ๆ จอห์นนี่หัวเราะกับท่าทางนั้น ก่อนจะชะงักเมื่อแจฮยอนฉวยโอกาสยื่นหน้ามากดจมูกลงบนแก้มเขาคืน

    "หิวแล้วครับ"

    "...ครับ รู้แล้วครับ"

    จอห์นนี่ปล่อยเจ้าชายตัวแสบให้เป็นอิสระ แล้วกลับมาสนใจเตาที่โดนดับไฟไปจนใกล้จะหายร้อน สวนทางกับหน้าเขาที่เริ่มร้อนขึ้นมาเสียแล้ว

    มื้อเที่ยง (รวมเช้า) ของพวกเราผ่านไปอย่างสงบสุข แจฮยอนตั้งหน้าตั้งตากินอย่างที่บอกว่าหิวจริง ๆ จนซอสไก่เลอะมือเลอะแก้มไปหมด เดือดร้อนคนร่วมโต๊ะอาหารต้องคอยเช็ดให้ แล้วก็จะได้รับรางวัลตอบแทนเป็นรอยยิ้มสดใส ตาขีดโค้ง และรอยบุ๋มข้างแก้ม ภาพนั้นตอกย้ำกับจอห์นนี่ว่า เขาอยากเห็นแจฮยอนแบบนี้ไปตลอดชีวิตจริง ๆ

    "วันนี้อยากไปไหนไหมครับ"

    เขาถามหลังจากเราช่วยกันทำความสะอาดจานชามเรียบร้อยแล้วกลับมานั่งที่หน้าทีวีอีกรอบ ได้ยินเสียงรายการข่าวใกล้จบ แต่เขาไม่ได้สนใจนัก

    แจฮยอนทำท่าคิด ก่อนจะยักไหล่

    "คงมีคู่รักเต็มถนนแน่"

    "อยากไปเพิ่มประชากรคู่รักไหมครับ"

    "อยากอยู่กับพี่สองคนมากกว่าอีกนะ"

    จอห์นนี่ยิ้มค้างพอโดนเด็กหยอดกลับ

    "ขอโทร.หาท่านพี่ก่อนได้ไหมครับ เห็นข้อความมา"

    "ตามสบายเลยครับ"

    แจฮยอนหันไปกดโทรศัพท์มือถือ จอห์นนี่เลยถือโอกาสนี้ดึงตุ๊กตาหมีที่เจ้าตัวกอดไม่ปล่อยไปวางไกล ๆ แล้วเปลี่ยนตัวเองไปแทนที่ตุ๊กตาแทน

    สายตาของคนที่ยกโทรศัพท์รอปลายสายเป็นประกายขบขันกับท่าทางของเขา จอห์นนี่กอดเอวของอีกคนไว้หลวม ๆ วางคางไว้ที่ไหล่ พิงศีรษะกับคอขาว ๆ นั้นอย่างสบายใจ

    "ท่านพี่"

    เสียงแจฮยอนคุยกับพี่ชายแท้ ๆ รัชทายาทแห่งราชบัลลังก์ที่ผู้คนยำเกรง เจ้าฟ้าชายแทยง ชายที่จอห์นนี่เคยพบเพียงครั้งเดียวคือวันที่อีกฝ่ายเสด็จมาเยือนสหรัฐฯ ​แล้วเขาต้องออกไปต้อนรับในฐานะรัฐมนตรีฯ เป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าราวกับเทพเจ้า และท่าทางน่าเคารพนับถือคนหนึ่งเลยทีเดียว

    "อากาศเย็น ๆ ครับ แต่ไม่มีปัญหาอะไร ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะครับ"

    เขาเคยถามแจฮยอนเรื่องคำพูดที่ใช้กับคนเป็นพี่ชาย อีกฝ่ายเล่าว่า ถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่นก็จะใช้ราชาศัพท์ แต่ปกติคุยกันเองก็ใช้คำทั่วไป เพราะพี่ชายไม่อยากให้รู้สึกห่างเหินกัน

    "ขอบคุณพี่โดยองด้วยนะครับ เหนื่อยแย่เลย"

    "แจฮยอนก็รีบกลับมาสิ พี่คิดถึงจะแย่แล้ว"

    อ่า จริง ๆ จอห์นนี่รู้สึกมาตลอดแต่ไม่กล้าพูดออกไป

    องค์ชายแทยงน่ะ ติดแจฮยอนมากทีเดียว

    อาจจะเพราะเป็นน้องชายคนเดียว อยู่กันสองพี่น้องมาตลอด เลยทั้งรักทั้งหวงน้อง เป็นคนแรกที่รู้เรื่องเขากับแจฮยอนด้วย แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีโอกาสได้คุยกันอย่างเป็นทางการ

    "ไว้หมดหน้าหนาวจะกลับไปนะครับ" แจฮยอนว่า "คิดถึงท่านพี่เหมือนกันนะ"

    จอห์นนี่กระชับอ้อมกอดที่โอบล้อมอีกคนไว้แน่น แจฮยอนลูบหลังมือเขาเบา ๆ ขณะเปลี่ยนมาวางศีรษะพิงไหล่เขาอย่างสบายใจ

    บทสนทนาทางโทรศัพท์ดำเนินต่อไปไม่นานก็สิ้นสุดลงเพราะแจฮยอนไม่อยากทรมานปลายสายให้อดหลับอดนอน แต่กว่าที่จะได้สานต่อเรื่องที่คุยกันไว้ก่อนหน้า ก็เป็นเวลาคล้อยบ่ายเต็มที เพราะคนที่วางโทรศัพท์หันมากดจูบลงบนริมฝีปากเขา พร้อมกับมือที่เปลี่ยนจากวางบนแขนเขาเป็นหน้าขา

    ให้ตายเถอะ เจ้าชายแจฮยอน

    จอห์นนี่ได้แต่ถอนหายใจให้กับความซุกซนขององค์ชายตัวน้อยในอ้อมแขน


    *********


    อาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว สุดท้ายพวกเขาก็ไม่ได้ออกไปไหนในวันวาเลนไทน์ –– และวันเกิดของแจฮยอน

    เค้กก้อนเล็กที่ซื้อมาจากร้านขนมวันก่อนประดับด้วยเทียนเล่มเล็กที่ถูกเป่าดับไปแล้ว แจฮยอนไม่ได้ต้องการเรื่องเซอร์ไพรส์ ตลอดมาเจ้าชายที่อยู่สูงกว่าใคร ๆ คนนี้ ต้องการใครสักคนมาจับมือให้ความมั่นคงแก่เขามากกว่า

    "เค้กร้านนี้อร่อยจัง ไม่ค่อยหวานดี" เจ้าของวันเกิดเคี้ยวไปวิจารณ์ไป "แต่ถ้าท่านพี่กินต้องไม่ชอบแน่เลย รายนั้นชอบของหวาน"

    "พี่กินบ้างสิ"

    เขายื่นหน้าไปหา แจฮยอนตัดเค้กด้วยส้อม แล้วจิ้มป้อนเขา

    เนื้อเค้กแน่นกำลังดี หอมกลิ่นวานิลลา และไม่หวาน "อืม อร่อยจริงด้วย"

    "ดีจังที่ทั้งพี่ทั้งเราไม่ค่อยกินหวาน"

    "แต่แจฮยอนชอบไอติมมากเลยนะ"

    "ก็ไอติมหวาน ๆ มันอร่อยนี่นา"

    เขาหัวเราะ ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธท่าทางซุกซนนั้น

    จัดการเค้กเสร็จพวกเขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้ามานั่งริมหน้าต่างห้องนอน ไม่ได้ออกไปที่ระเบียงเพราะอากาศเย็นเกินไป แจฮยอนห่อตัวในผ้าห่ม มีหนังสือเล่มหนึ่งวางบนตักเหมือนกับเขา เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ราวครึ่งชั่วโมงก่อนเราจะจบวันที่เตียง

    "พี่ว่าเราแต่งงานกันเมื่อไหร่ดี"

    จอห์นนี่ถึงกับลืมว่าตัวเองอ่านถึงบรรทัดไหนแล้ว

    เขาเงยหน้ามามองเจ้าชายหนุ่มที่ยังคงไม่ละสายตาจากหน้ากระดาษ และถามคำถามนั้นเหมือนถามเขาว่าพรุ่งนี้กินอะไรดี

    "...ฝ่าบาทจะไม่ว่าอะไรเหรอครับ"

    แจฮยอนส่ายศีรษะ

    "สารภาพก็ได้ ก่อนมาหาพี่รอบนี้ เราบอกเสด็จพ่อแล้ว"

    "...ครับ????????"

    จู่ ๆ จอห์นนี่ก็นึกถึงความสามารถในการกำจัดศัตรูของประเทศชาติของประเทศเกาหลีใต้ขึ้นมา

    "เสด็จพ่อแรก ๆ ก็ช็อกนิดหน่อย ทำท่าเหมือนจะรับไม่ได้ แต่เพราะท่านพี่กับราชเลขาคิมช่วยพูด" แจฮยอนไล้มือไปตามหน้ากระดาษ บอกเล่าเรื่องเหล่านั้นเหมือนเล่านิทาน "ถ้าท่านแม่ยังอยู่ก็คงช่วยอีกแรง สุดท้าย หลังจากผ่านความไม่เข้าใจหลาย ๆ อย่าง เราคิดว่าเราพร้อมแล้วนะ"

    แล้วก็เงยหน้ามาสบตากับเขา

    "พี่พร้อมหรือยังครับ"

    จอห์นนี่ ซอ วางหนังสือลงบนโต๊ะใกล้ ๆ ลุกจากเก้าอี้ไปหาคนที่มองตามเขาอย่างรอคอย

    ก่อนจะคุกเข่าลงข้างหนึ่ง คว้ามือซ้ายของคนตรงหน้ามากดจูบลงบนหลังมืออย่างนุ่มนวล

    "นี่จะขอแต่งงานหรือปฏิญาณตนเป็นอัศวินครับ"

    จอห์นนี่หัวเราะ

    "ฝ่าบาท ไม่สิ องค์ชายแจฮยอน"

    เขากุมมือที่ตนเองจับไว้แน่น

    "ขอบคุณนะครับ"

    แจฮยอนเลิกคิ้วกับคำพูดนั้น ก่อนจะยิ้ม เป็นยิ้มแบบที่จอห์นนี่หลงรักทุกครั้ง และอยากเห็นมันตลอดไป

    "เหมือนกันครับ เราก็ขอบคุณพี่เหมือนกัน"

    เขาคุกเข่าทั้งสองข้าง หยัดตัวขึ้นเพื่อกดจูบลงบนริมฝีปากอิ่มนั่น

    "ให้พี่ได้เห็นรอยยิ้มนี้ตลอดไปนะ"

    แจฮยอนพยักหน้ารับ ยกมือสองข้างขึ้นทาบแก้มเขา

    "เป็นคนที่ทำให้เรายิ้มตลอดไปเหมือนกันนะครับ"


    กลางเมษายนปีนั้น ราชวงศ์เกาหลีประกาศข่าวใหญ่ถึงการลาออกจากฐานันดรของเจ้าฟ้าชายแจฮยอน

    และหลังจากนั้นไม่กี่เดือน รัฐมนตรีจอห์นนี่ ซอ ก็ประกาศแก่สาธารณชนว่าเขาเป็นเกย์ ที่จดทะเบียนสมรสกับคนรักซึ่งไม่ขอเปิดเผยนาม

    เจ้าฟ้าชายแทยงเสด็จประพาสสหรัฐอเมริกาหลายครั้งในปีนั้น และมีสองครั้งที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จด้วย –– ไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองพระองค์ไปทำไม เพียงแต่ประกาศว่าเป็นการประพาสส่วนพระองค์ จนมีข้อครหาทางการเมืองกับประเทศอื่น ๆ ทว่าก็จบลงด้วยดี


    ในปีนั้น 'แจฮยอน' ชายหนุ่มสามัญชนเชื้อชาติเกาหลีใต้ที่อาศัยอยู่ที่ชิคาโกคิดขึ้นมาได้ว่า

    เขาช่างโชคดีเหลือเกิน และวันเกิดปีนี้ เขาก็ได้รับของขวัญที่ล้ำค่าที่สุด


    FIN

    200214

    พิมพ์จบตอนตีหนึ่งครึ่ง แม่เจ้า 555 ดีนะพรุ่งนี้ไม่ต้องไปออฟฟิศ

    เรื่องนี้เขียนเพราะอยากเห็นแจฮยอนมีความสุขค่ะ––คือมันก็เป็นเรื่องพื้นฐานเนาะ 555 แต่พอมาไล่คิดว่ามีเรื่องไหนที่อยากหยิบมาเขียนต่อก็คิดว่าเรื่องนี้แล้วกัน ส่วนเพลงที่ให้ฟังนั่น เราติดมากช่วงนี้ ได้ฟังมาจาก OPV JohnJae ในงาน PEACH OF CHICAGO แล้วชอบเพลงมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก็เลยคิดว่าเหมาะกับไวบ์ฟิกเรื่องนี้แหละ (มั้ง)

    OPV อันนี้



    ชอบไม่ชอบคอมเมนต์กันได้เช่นเคย ที่นี่ หรือ #wrficnct นะคะ

    ขอบคุณที่อ่านค่ะ :) 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in