……….
ตอนที่ 15 : การจู่โจมที่ไม่มีวันเลิกรา
“ดูท่าฝั่งนั้นจะหนักเอาการแฮะ”ไบรอันพูดขึ้น เมื่อเกิดเสียงปืนดังต่อเนื่องจากถนนที่พวกริกกำลังต่อกรกับเจ้ายักษ์อยู่ตามมาด้วยเสียงกึกก้องของโครงตึกที่ถล่มลงมา เสียงมันดังอึกทึกครืนโครมทำเอาทั้งกลุ่มรู้สึกได้จากพื้นถนนที่สั่นสะเทือน
ตูม ! เสียงเหมือนของหนักพุ่งเข้าปะทะกับกำแพงอย่างแรงดังขึ้นทั้งกลุ่มพากันหันหลับไปยังทางที่พวกตนเพิ่งเดินมา ก่อนเห็นอาคารถัดจากตัวตรอกที่พวกตนวิ่งออกมากำลังถล่มลงมาช้าๆมีร่างชายหญิงสองคนวิ่งหนีตายออกมาทันหวุดหวิด และที่ตามมาติดๆ ก็คือเจ้าซอมบี้ยักษ์ที่ค่อยๆเดินออกมาจากซากตึกที่กำลังถล่ม
“คงต้องวิ่งกันแล้วล่ะ” ผมบอกกับทุกคนไบรอันเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นอีกแต่ก็ยังอยู่ในระดับที่อลิซยังตามไหว อลิซอาการค่อนข้างหนักจากการโดนระเบิดอัดเมื่อกี้ผมกระโดดกระชับตัวแคลให้มั่นทั้งๆ ที่แรงจะทรงตัวยืนอยู่กับที่ยังไม่ค่อยจะมี แต่ผมก็ต้องไปต่อ
อ๋องกระโดดพุ่งตัวไปข้างหน้าสุดแรงเมื่อเจ้ายักษ์ทุบกำปั้นลงพื้นถนนแตกเป็นเสี่ยงๆ นอร่าใช้จังหวะนั้นวิ่งเข้าไป ใช้มีดปาดเข้าที่แขนเลือดพุ่งเป็นทางยาว ก่อนเธอจะพุ่งหลบออกมาทันหมัดที่สองของมัน
ข้างหน้าพวกเราไม่ถึงห้าร้อยเมตรเหล่าเจ้าหน้าที่เริ่มมาออหน้ากำแพงกั้น ซึ่งน่าจะเห็นเราตั้งนานแล้วล่ะ
“ช่วยพวกเราด้วยครับ !” ไบรอันตะโกนสุดเสียง บรรดาเจ้าหน้าที่พากันมองหน้ากันเลิกลั่กเหมือนกำลังรอคำสั่งไม่นานเจ้าหน้าที่ติดอาวุธในชุดเครื่องแบบสีขาวปนเทาก็วิ่งมาทางพวกเรากลุ่มหนึ่ง
“มีคนเจ็บ !” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตะโกนกลับไปยังฐานที่ตนจากมาก่อนหลังกำแพงกั้นจะวุ่นวายกันยกใหญ่และช่วยกันหามร่างอลิซไป แต่แคลดึงดันให้ผมเป็นคนพาเธอไปซึ่งผมก็ต้องการอย่างนั้นเหมือนกัน
“อดทนอีกนิดนะ” ผมก้มหน้าลงไปบอกแคล
“เธอก็เหมือนกันเจค” แคลตอบกลับ
พวกเราถึงกำแพงกั้นที่ทำจากปูนหนาเดินตามเจ้าหน้าที่เข้าไปข้างใน ตัวตึกรามอาคารต่างๆ ได้รับการปรับปรุงและตกแต่งใหม่มีคนงานหลายร้อยคนง่วนอยู่กับการก่อสร้าง พนักงานหลายสิบคนนั่งอยู่บนนั่งร้านสูงขึ้นจากพื้นหลายเมตร
เจ้าหน้าที่พาเราเข้าไปยังสถานพยาบาลที่ดูเหมือนจะสร้างเป็นกรณีฉุกเฉินสำหรับคนงานที่ได้รับบาดเจ็บหรือป่วย
มันเป็นบ้านชั้นเดียวที่ข้างในมีแต่เตียงนอนคนไข้เฟอร์นิเจอร์ถูกรื้อถอนออกไปหมด ห้องสมุดเล็กๆ กลายเป็นห้องเก็บยาและอุปกรณ์รักษาคนไข้อลิซนอนอยู่บนเตียงเนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลจากรอยถลอกและล่าสุดจากการกระแทกของระเบิดไบรอันนั่งอยู่บนเตียงข้างๆ เธอ ผมค่อยๆ วางแคลลงบนเตียง
นางพยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามาเธอไม่ได้ใส่ชุดนางพยาบาล เพียงแค่ชุดกราวน์เหมือนกับหมอและสวมหมวกพยาบาลไว้บนหัวเธอยื่นขวดยาระดับล่างให้กับเราทุกคน
“ทนอีกสักหน่อยนะ ที่นี่มีแต่ระดับล่างเท่านั้นแหละ ต้องรอคนจากข้างบนมารับไปที่นั่นเธอไม่ต้องกลัวว่าจะมีรอยช้ำเลยล่ะ” เธอพูดเสียงอ่อนโยนแบบนางพยาบาลใจดีทั่วไป
ไบรอันแทบจะเป็นปกติหลังกินยาเข้าไปเขานั่งเฝ้าอลิซที่หลับอยู่ข้างๆ บาดแผลโดนยิงของแคลดูตื้นขึ้นเมื่อได้กินยาอีกขวดหลังจากที่ริกให้กินไปตอนแรกแต่สำหรับผมมันเป็นเพียงแค่การห้ามเลือดเท่านั้น
“เธอน่าจะนอนพักซะหน่อยนะ” ผมบอกกับแคล
“อื้อ แล้วเธอล่ะเจคไม่พักบ้างเดี๋ยวก็แย่เอาหรอก” แคลถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“อยากออกไปเดินเล่นสักหน่อยน่ะ” ผมปัดเส้นผมที่บดบังใบหน้าเธอเบาๆ
“รีบกลับมานะ”
“แน่นอน” ผมเดินออกจากห้องพยาบาล ไบรอันหลับไปซะแล้วก็แน่ล่ะ ทุกคนต่างเหนื่อยกันมาทั้งนั้น และทุกคนก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ยิ่งไม่น่าแปลกใจเท่าไร
เหล่าคนงานต่างพากันมองมายังผมคงเป็นเพราะคราบเลือดที่อยู่บนเสื้อผ้าล่ะมั้ง ผมคิด มองออกไปยังนอกกำแพงกั้นเห็นเจ้ายักษ์กำลังไล่ฆ่านอร่าที่ทะยานไปมารอบๆ เธอไวกว่าเจ้ายักษ์หลายขุมแต่ก็ไม่มีพลังมากพอจะจัดการมันได้ส่วนอ๋องก็คอยยิงสนับสนุนเธอ ส่วนฝั่งของริกนั้นได้ยินเพียงแค่เสียงปืนที่ดังเป็นพักๆเท่านั้น
..........
ปัง ! เสียงลั่นปืนไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไรแต่นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่อ๋องยิงเพราะเจ้ายักษ์ตรงหน้าได้ล้มลง หน้ากระแทกพื้น เลือดท่วมตัวที่ใหญ่โตแข็งแรงของมัน
“ถ้าไม่ได้เธอฉันคงแย่นอร่า” อ๋องบอกกับนอร่าที่คอยทะยานไปรอบๆเพื่อเป็นตัวล่อ เธอเพียงแค่ดึงความสนใจให้
“เหมือนกันแหละ” นอร่าตอบ ท่าทางเหนื่อยหอบ ทั้งคู่ยืนพักหายใจอยู่ข้างๆศพเจ้ายักษ์ที่นอนคว่ำหน้าในแอ่งเลือดตัวเอง
“ฝั่งนั้นมันยังไม่จบอีกรึเนี่ย” อ๋องเดินผ่านร่างเจ้ายักษ์บนพื้นถนน สองมือถือปืนบาเร็ตอันโตไว้กับตัวพร้อมกับสายคล้องกระสุนที่แนบตัวตลอดเวลาอ๋องเดินไปจนถึงตรอกที่สามารถทะลุไปยังถนนอีกเส้นที่กำลังเกิดการปะทะกันอยู่ตอนนี้โดยมีนอร่าเดินตามอยู่ติดๆ
เสียงยิงตอบโต้ไปมาดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อทั้งคู่ใกล้จะถึงปลายทางแต่อ๋องยังไม่ทันจะชำเลืองมองออกไปก็ปรากฏร่างเพื่อนของตนวิ่งพรวดเข้าปะทะกันเต็มๆ
“โห่ ! ตกใจหมด”
“เกิดอะไรขึ้น?” อ๋องถามเมื่อเห็นริกรีบวิ่งเข้ามา
“พวกมันดันมีกำลังเสริมน่ะสิ” ริกพูด “พวกเราต้องถอยร่นมาเรื่อยๆ เจ้าพวกนี้ก็ไม่ธรรมดากันซะด้วย”
“พวกชุดสูท?” นอร่าถาม
“อือ มาเป็นสิบเลย” ริกรีบเปลี่ยนแม็กกระสุนโดยไว “อ่าวเฮ้ย ! ถอยมาเด้ ! อยากตายกันรึไง”ริกหันไปตะโกนสั่งลูกทีมของตน เหล่าหน่วยจู่โจมพากันวิ่งผ่านตรอกไปหลบข้างรถยนต์ที่ถูกปล่อยร้างไว้ตามถนนจะเจอแทบทุกๆ ร้อยเมตร ซึ่งเป็นบังเกอร์ที่ดีที่สุดในตอนนี้
“หัวหน้า พวกมันแยกออกไปชุดหนึ่งครับ” เสียงลูกทีมดังขึ้นในหูฟังไร้สายของริก
“พวกมันกลุ่มหนึ่งมุ่งไปเขตก่อสร้างแล้ว” ริกบอกกับอ๋องและนอร่า
“ให้มันได้อย่างงี้สิน่า” อ๋องพูด น้ำเสียงเหนื่อยเต็มที
“ต้องกลับไปลุยต่อละ สองคนก็รีบไปช่วยทางโน้นละกัน” ริกพูดเสร็จก็วิ่งพรวดออกไปพลางสาดกระสุนตอบโต้ไปด้วยก่อนพุ่งถลาเข้าข้างตัวรถที่ลูกทีมตนใช้เป็นที่กำบังอยู่
“พวกเราก็รีบไปกันเถอะ” นอร่าหันหลังวิ่งออกไปทางเดิมที่ทั้งคู่วิ่งมา
“ฉันไม่เหมือนกับเธอนะ จะเอาแรงที่ไหนมาวิ่งต่อล่ะเนี่ย” อ๋องบ่นกับตัวเองก่อนวิ่งตามออกไป
……….
เสียงหวอของสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ในชุดสีขาวอมเทาคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาแจ้งข่าวว่ามีรถตู้สีดำสองคันกำลังมุ่งมาทางนี้ซึ่งผมคิดว่าเป็นพวกมันแน่นอนแบบไม่ต้องสงสัยผมรีบวิ่งกลับไปห้องพยาบาลอย่างรวดเร็ว
“อีกนานมั้ยกว่าทางนิวเคลโอจะมารับ” ผมถามทันทีเมื่อเท้าเหยียบข้างในตัวอาคาร
นางพยาบาลคนเดิมยกหูโทรศัพท์บนเคาน์เตอร์ขึ้นมากดเลขเธอคุยกับทางปลายสายสองสามประโยคก่อนจะวางลง
“ใกล้ถึงแล้ว บางทีเธอน่าจะรีบไปปลุกเพื่อนเธอนะ” เธอตอบผมกล่าวขอบคุณเธอก่อนวิ่งผ่านผ้าม่านประตูจนมันพันกันยุ่งเหยิง ผมปลุกไบรอันตามด้วยอลิซและแคล
“เกิดอะไรขึ้นเจค” ไบรอันถามก่อนจะนั่งนิ่งๆ ฟังเสียงรอบตัวราวกับว่ากำลังซึมซับสถานการณ์รอบตัวอยู่
“รถกำลังจะมารับแล้ว รีบออกไปรอข้างนอกเร็ว” ผมตอบ
“พวกมันคงมาถึงที่นี่แล้วสินะ” อลิซที่ลุกขึ้นช้าๆ ถามขึ้นสภาพเธอดูดีขึ้นจากตอนแรกเล็กน้อย
“ใช่ พวกมันกำลังมา” ผมค่อยๆ พยุงตัวแคลลุกขึ้นจากเตียงจับมือเธอไว้ก่อนออกเดินตามหลังอลิซและไบรอันที่กำลังจะออกจากห้อง
“พวกมันต้องการอะไรหรอเจค?” อยู่ๆ แคลก็ถามขึ้น
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน” ผมตอบเธอ ซึ่งอันที่จริงเป็นเพราะผมเนี่ยแหละพวกมันถึงได้รุมแห่กันมาขนาดนี้เราเดินมาถึงหน้าเคาน์เตอร์ตรงทางเข้า
“รถมาแล้วแหนะ จอดอยู่ถนนฝั่งตรงข้าม” นางพยาบาลชี้ไปยังรถที่มีตราสัญลักษณ์พยาบาลแปะอยู่ข้างตัวรถมีอักษรที่เขียนว่านิวเคลโออยู่ข้างล่าง
ตูม ! เสียงระเบิดดังขึ้นข้างหลังผม หันกลับไปเห็นห้องพยาบาลที่ทุกคนนอนเมื่อตะกี้เละเป็นเสี่ยงๆกำแพงอิฐแตกพังทลายลง ข้าวของพังเสียหาย เกิดเพลิงไหม้ขนาดย่อมไปทั่วบริเวณ
“ไปที่รถเร็วเข้า !” ผมตะโกนบอกกับทุกคนเกรงว่าลูกที่สองมันจะตามมา
ไบรอันรีบประคองอลิซที่ยังไม่หายดีไปที่รถผมจูงมือแคลฝ่าเหล่าแรงงานที่เริ่มแตกตื่นจากการโจมตีของพวกมัน
“เร็วเข้า !” เจ้าหน้าที่ในรถตะโกนออกมานอกหน้าต่าง
ไบรอันดึงประตูท้ายรถพยาบาลออกก่อนรีบพาอลิซขึ้นไป ผมพาแคลเดินได้ครึ่งถนน ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่คนหนึ่งตะโกนขึ้นว่า“อาร์ พี จี !” ก่อนที่ผมจะแหงนหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าและเห็นมันลอยลิ่วไปชนกับตึกฝั่งตรงข้ามทำเอานั่งร้านพังทลาย คนงานต่างพากันจับนั่งร้านไว้แน่นแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดีเพราะทั้งนั่งร้านถล่มลงมาราวกับโดมิโน ผมรีบโอบแคลไว้แน่นก่อนทะยานหลบไปด้านข้างเมื่อนั่งร้านกำลังจะหล่นลงมา
“ไม่เป็นไรนะ” ผมถามเธอ
“ฉันไม่เป็นไรหรอก” แคลตอบ ไบรอันรีบวิ่งปรี่ฝ่าฝูงชนที่วุ่นวายเข้ามาหาเราทั้งคู่ที่นอนอยู่บนพื้นถนนตอนนี้แทบจะเต็มไปด้วยซากนั่งร้านและอุปกรณ์ก่อสร้างมากมาย
เสียงการปะทะเกิดขึ้นใกล้ๆก่อนที่ผมจะเห็นพวกชุดสูทเดินดาหน้าเข้ามาสองสามคน กำลังฆ่าคนบริสุทธิ์อย่างเลือดเย็นมันกำลังเดินมาทางผมอย่างไม่ต้องสงสัย
“ไบรอันพาแคลไปซะ”
“แล้วนายล่ะ” ไบรอันถาม
“ฉันต้องหยุดไอ้พวกบ้านี่ซะก่อน”
“เจค...”
“ฉันไปหาเธอแน่แคล ฉันสัญญา”ผมหันไปพูดกับเธอ ดึงตัวเธอเข้ามาสวมกอดแน่นในใจก็รู้อยู่ว่าตนเองไม่สามารถเข้าไปในนิวเคลโอได้
“สัญญาแล้วนะ” แคลถามย้ำ ไบรอันจับมือเธอ พาเธอเดินไปยังรถพยาบาล
“ต้องมาให้ได้นะเจค” แคลตะโกน ขณะไบรอันกำลังพยุงเธอขึ้นท้ายรถ
“ฉันสัญญาแคล !” ผมตะโกนกลับไปก่อนที่ประตูท้ายรถจะปิดลง
ผมหันหน้ากลับไปยังเจ้าชุดสูทสามคนที่เดินเรียงกันกลางถนนพวกมันเดินมาหาผมช้าๆ ท่ามกลางผู้คนที่หนีตายอลหม่านระเบิดและจรวดยังคงระดมยิงเข้ามาไม่หยุดหย่อนอาคารก่อสร้างที่เพิ่งจะปรับปรุงต้องพังทลายลงอีกครั้ง
ผมชักมีดสั้นออกมากำแน่นสายตาจ้องไปที่พวกมัน คราวนี้พวกมันทำเกินไปแล้ว รถพยาบาลเคลื่อนออกไปช้าๆ เพราะอุปสรรคจากข้าวของที่เสียหายก่อนเร่งความเร็วจากไป ผมเดินก้าวเข้าไปหาพวกมัน ถึงคราวที่พวกมันจะต้องชดใช้ความเสียหายที่มันได้ก่อไว้แล้ว
..........
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in