……….
ตอนที่ 14 : ต้องรอด #2
ผมอุ้มแคลวิ่งตามหลังอลิซมีไบรอันนำขบวน พ้นตรอกออกมาเป็นถนนโล่งๆ ไร้ซอมบี้ แต่เดี๋ยวพวกมันคงตามมาไม่ช้าก็เร็วพวกเราเลี้ยวขวาเพื่อไปยังทิศที่นิวเคลโอกำลังกั้นบริเวณไว้เป็นเขตปรับปรุงขยายพื้นที่เดิมที่เคยร้างให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
ปัง ! ไบรอันลั่นกระสุนใส่ซอมบี้ข้างหน้าตน
“พวกมันเริ่มมากันแล้ว” อลิซพูดผมคิดในใจว่าเพราะผมหรือเปล่าที่ดึงพวกมันตามมา เพราะถ้าเป็นงั้นเจ้ายักษ์มันตามมาแน่ๆ
ฉึก ! อ้ากก ! ผมร้องออกมาเมื่อโดนลูกธนูที่ไม่รู้พุ่งมาจากทิศไหนปักคาไหล่ซ้ายตัวผมเอียงไปตามแรงของลูกธนูที่วิ่งมา หงายหลังล้มกระแทกพื้นไบรอันและอลิซรีบหันกลับวิ่งเข้าหาผม
“เจค !” ทั้งสามคนตะโกนแทบจะพร้อมกัน อลิซหันกลับไปฟาดซอมบี้ด้วยขวานด้ามเล็กของเธอแวบแรกที่ผมคิดเลย ‘พิษอีกแล้วใช่มั้ย’ ผมพยุงตัวขึ้นนั่งพยุงแคลลงจากตัวช้าๆ
“นายยังไหวใช่มั้ย?” แคลถาม เธอยังไม่รู้ว่าผมเพิ่งจะโดนธนูยิงเข้าจังๆ
“ไหวดิ เสียเลือดมากไปหน่อย เริ่มมึนๆ น่ะ” ผมบอกแคล ไม่อยากให้เธอรู้
ผมพยุงแคลลุกขึ้นลูกธนูยังคงคาอยู่ไหล่ซ้ายของผม เลือดที่โดนยิงยังไม่หยุดไหลดีที่ริกยังมียาติดตัวอยู่บ้าง ไม่งั้นแคลคงแย่กว่านี้ แต่สิ่งที่ผมคิดตอนนี้ก็คือทำไมพวกมันเว้นช่วงเวลาในการโจมตีปกติพวกนี้มันจะจู่โจมเป็นชุดตลอด
ครึ่ก ! เสียงเหมือนก้อนหินกลิ้งขลุกๆ อยู่ที่ไหนสักแห่งใกล้ๆไบรอันกับอลิซกวาดสายตามองหารอบๆ แต่ด้วยความรู้สึกที่ไวกว่า ผมเห็นวัตถุคล้ายๆลูกระเบิด อันที่จริงมันก็คือลูกระเบิดเลยล่ะ
“หมอบ !” ผมตะโกน ไบรอันและอลิซต่างก็เห็นมันแล้วเหมือนกัน ผมดึงตัวแคลเข้ามากอดบิดตัวจะเอาตัวเองกันแต่สายไปแล้ว
เสียงระเบิดดังขึ้นมันห่างพวกเราไปไม่ถึงสิบเมตร ร่างทุกคนโดนแรงอัดของมันกระแทกใส่ไบรอันกระเด็นลอยไปนอนอยู่บนทางเท้าฝั่งตรงข้ามอลิซกระแทกเข้ากับกำแพงข้างหลังเต็มๆ ก่อนกระดอนไปตามแรงอีกที
ผมกับแคลลอยไปกระแทกกับพื้นถนนคราวนี้ไม่ใช่ระเบิดทำลายล้างแต่เป็นระเบิดลม ลมที่อัดไว้แน่นก่อนระเบิดมันออกมาอาณุภาพมันไม่สามารถฆ่าใครได้ ถ้าไม่โดนเข้าจังๆ แต่ก็แรงพอที่กระจกจะแตก และกำแพงที่อลิซพุ่งไปกระแทกเป็นรอยร้าวเศษปูนร่วงกราวลงบนพื้น
แคลอยู่ห่างจากผมไปสองสามเมตรเธอนอนนิ่งไม่ขยับ ผมคลานไปยังร่างของเธอ ชำเลืองมองไปทางไบรอันที่ก้าวเดินอย่างยากลำบากไปทางอลิซเธอนอนอยู่หน้าตรอกที่เราวิ่งผ่านออกมา ผมยังไม่เห็นพวกคนที่ลอบทำร้าย
“เจค !” ไบรอันตะโกนลั่นผมเห็นสายตาไบรอันมองไปข้างหลัง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าพวกมันมาแล้ว ผมรีบหันหน้ากลับไปข้างหลัง ชายชุดสูทยืนตระหง่านอยู่ข้างๆมันเตะผมไถลพื้นไปหลายหลา ผมได้ยินแคลร้องเรียก
ผมตั้งหลักลุกขึ้นหักด้ามธนูตรงหน้าอกทิ้งลงพื้นก่อนดึงส่วนข้างหลังออกตามผมสะบัดปลายลูกศรธนูที่คาอยู่ตรงหัวไหล่ใส่ มันเพียงแค่เอี้ยวหัวก็หลบได้
ผมวิ่งเข้าไปปล่อยหมัดตรง มันหลบ ผมใช้มืดอีกข้างที่กำมีดปาดเป็นวงกว้าง มันยังหลบได้ผมยกขาขึ้นเตะ มันก็ยกเข่าขึ้นกัน ตามแผนผมปักมีดลงไปอย่างรวดเร็วและรุนแรงมีดจมเข้าไปบนน่องขามันจนสุดด้าม มันชักขากลับ ร้องลั่นพลางเอามือกุมขาที่มีมีดปักอยู่
ผมใช้จังหวะนี้ถีบซ้ำเข้าไปที่ด้ามมีดมันทรุดฮวบลงด้วยความเจ็บปวด มาดแข็งแกร่งตอนแรกหายไป ผมเดินเข้าไปหาด้วยร่างกายที่แย่พอกัน
ผมคว้าคอเสื้อ ยกมันขึ้นลอยพื้นใช้มือขวาที่ว่างอยู่ดึงมีดออกจากต้นขาของมัน เลือดสดๆ พุ่งออกจากบาดแผลพร้อมกับเสียงร้อง
“เมื่อไหร่ถึงจะเลิกตามราวีสักทีฮะ !” ผมปักมีดทะลุหัวใจพร้อมกับบิดด้ามมีดปล่อยร่างไร้ชีวิตของมันนอนกองบนพื้น ก่อนเดินไปหาแคลที่ยันตัวลุกขึ้นนั่งอยู่บนพื้นถนนไบรอันกำลังพยุงร่างอลิซมาทางพวกเรา อลิซได้สติแล้วแต่ดูท่าจะไปต่อไม่ไหวเหมือนกัน
“เราต้องรีบไปก่อนที่พวกมันจะมากันอีก” ไบรอันว่า ขณะผมพยุงร่างแคลขึ้นก่อนออกแรงอุ้มเธอ
“งั้นก็รีบเดินเถอะ” ผมกล่าว
“เจค...นายไหวแน่นะ?” แคลถามน้ำเสียงเป็นห่วงราวกับตนเป็นภาระผมอยู่
“ไหวดิ มาตั้งขนาดนี้แล้ว สบายๆ นิวเคลโออยู่ข้างหน้าเรานี่เอง” ผมบอกขณะอุ้มเธออยู่ ก่อนเดินตามไบรอันที่พยุงอลิซเอยู่ข้างหน้าพวกเราห่างจากเขตกั้นไม่ถึงกิโลด้วยซ้ำ
“อีกนิดเดียวเราก็ถึงแล้ว” ผมบอก แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเมื่อได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์บินมาจากฝั่งนิวเคลโอมุ่งหน้าไปยังที่ที่พวกริกกำลังต่อสู้อยู่
..........
“ถอยไปตั้งหลักข้างหลังโน่นไป !” นอร่าตะโกนไล่ริกให้วิ่งไปเพราะเจ้ายักษ์สองตัวข้างหน้าเริ่มจะรับมือยากขึ้น อีกทั้งอาวุธก็ยังมาไม่ถึงสักที
“กว่าจะมา กูจะตายก่อนแล้วเนี่ย” ริกกระโดดข้ามกระโปรงรถที่พวกไบรอันขับก่อนวิ่งต่อ มีนอร่าตามหลังริกไปติดๆเฮลิคอปเตอร์บินนำหน้าริกไปสิบกว่าเมตรก่อนลดเพดานบินลงต่ำ เกือบจะติดพื้นถนนมีเจ้าหน้าที่สองสามคนยิงซอมบี้ที่แห่เข้ามา แต่ก็ไม่มากนัก เจ้าหน้าที่คนหนึ่งโยนกระเป๋าสีดำใบใหญ่ลงกับพื้นเสียงกระแทกของมันบ่งบอกถึงน้ำหนักของสิ่งที่บรรจุข้างใน
เฮลิคอปเตอร์ค่อยๆทะยานสูงขึ้นจนพ้นระดับซอมบี้ เหล่าเจ้าหน้าที่สี่คนไต่เชือกลงมา ยืนพร้อมอาวุธเส้นเชือกถูกม้วนขึ้นอย่างอัตโนมัติ ก่อนที่คนขับจะทะยานเฮลิคอปเตอร์หายลับกลับไปทางนิวเคลโอ
“ยืนเท่ห์อยู่นั่นแหละไปจัดการมันก่อนไป” ริกตะโกนสั่งลูกทีมชุดใหม่ลูกทีมพากันขานรับก่อนวิ่งไปตั้งแนวรบยิ่งสกัดความเร็วเจ้ายักษ์สองตัวไว้
“นอร่าเธอเอากระสุนนี่ไปให้อ๋องบนดาดฟ้าที ที่มันไม่ยิงสักทีคงไม่มีกระสุนแล้วแน่ๆ”ริกส่งกระเป๋าสะพายทรงกระบอกที่ข้างในบรรจุกระสุนสไนเปอร์แบบพิเศษสำหรับยิงทะลุเหล็กหนาซึ่งเหมาะสำหรับการฆ่ายักษ์ในตอนนี้
นอร่าก้าวเท้าสองสามก้าวร่างของเธอก็หายลับไปริกบรรจุกระสุนปืนกลของตนอย่างรวดเร็วขณะลูกทีมของตนร่นถอยหลังมาเรื่อยๆ
“มาเปลี่ยนเป็นกระสุนเจาะเกราะเร็วเข้า !” ริกตะโกนสั่งลูกน้อง
ปัง ! เสียงสไนดังลั่นไปทั้งละแวกเลือดสดๆ พุ่งกระฉูดตรงหัวไล่เจ้ายักษ์ตัวหลัง มันคำรามลั่นหันไปทางทิศที่ลูกกระสุนพุ่งใส่
“งานเข้าแล้วมึงไออ๋อง แต่ก็ดี เอาไปคนละตัว” ริกกราดกระสุนไปยังยักษ์อีกตัวคราวนี้พวกตนใช้กระสุนเจาะเกราะ พวกมันคงทนได้ไม่นานหรอก ซึ่งนั่นเป็นดังคาดเจ้ายักษ์ออกอาการคลั่งมากกว่าปกติ ก่อนวิ่งมาทางกลุ่มริก
“งานเข้าแล้วหัวหน้า” หนึ่งในลูกทีมพูดขึ้นกำลังสะพายเป้อาวุธขึ้นหลัง
“รู้แล้วก็วิ่งสิวะ !” ริกออกตัววิ่งไปพร้อมๆ กับลูกทีมของตน
“ตึกข้างหน้าๆ” ริกตะโกน
“ร้านมินิมาร์ทหรอครับ” ลูกทีมที่อยู่ใกล้สุดถามขณะวิ่ง
“จะเข้าไปทำไมเล่ามินิมาร์ท เข้าห้างโน่น ตรงโน้นเลย” ริกตะโกนพลางชี้ไปยังห้างที่อยู่ถัดไปจากมินิมาร์ท มันใหญ่พอสมควร
..........
“มันมาแล้ว” อ๋องตะโกนบอกนอร่าพลางลั่นกระสุนเท่าที่จะทำได้ใส่ร่างยักษ์แต่ดูท่ามันจะอึดเอาการถ้าไม่ยิงจุดสำคัญหรือจุดหลักๆ
ครึ่กก ! ครืน พื้นดาดฟ้าพลันยวบลงเหมือนจะตกลงไปยังชั้นล่างเจ้ายักษ์มันทุบเสาตึกซะแล้ว
“โดดไปตึกข้างหลังเร็ว !” นอร่าตะโกนบอกก่อนกระโดดข้ามไปอย่างสบายๆ มันห่างร่วมสามเมตรได้
“ไม่ไกลเท่าไรเล้ย !” อ๋องถอยหลังเตรียมวิ่ง
“เร็วเข้า !” นอร่าตะโกนเร่ง
อ๋องสาวเท้าวิ่งบนพื้นดาดฟ้าที่กำลังจะถล่มลงอันที่จริงเกือบจะทั้งตึกนั้นแหละที่กำลังจะถล่ม เมื่อสุดขอบตึก อ๋องโยนปืนบาเร็ตไปยังตึกอีกฟากก่อนออกแรงกระโดดข้ามไป ทันฉิวเฉียดกับพื้นที่ยวบลงไปข้างล่างพอดี
“ให้ตายสิ เป็นหน่วยจู่โจมพิเศษจริงๆ เปล่าเนี่ย” นอร่าพูดรีบดึงมืออ๋องที่จับขอบตึกไว้ขึ้นมา
“ฉันไม่ได้แรงเยอะแข็งแรงเหมือนพวกเธอนี่ แล้วนั่นมันไม่โดนตึกทับไปแล้วเราะ”อ๋องกับนอร่ามองลงไปยังซากตึกทีก้ำกึ่งจะถล่ม ครืน ! เสียงผนังกำแพงหล่นลงกระแทกกันไปมาก่อนจะมีหินก้อนใหญ่ที่เกิดจากการแตกของกำแพงพุ่งเข้าชนชั้นล่างของอาคารที่พวกตนพึ่งจะโดดข้ามมา
เจ้ายักษ์ยืนอยู่ที่ที่เป็นหลังร้านแหงนหน้ามองขึ้นมาด้วยสายตาบ้าคลั่ง มันยกก้อนอิฐข้างตัวขึ้นมาก่อนเงื้อแขนจะเหวี่ยงใส่อ๋องและนอร่าที่อยู่ข้างบน
“ก้มเร็ว !” อ๋องหันไปกระแทกตัวนอร่าล้มลงนอนกับพื้นก้อนอิฐพุ่งขึ้นกระแทกระเบียงตึกด้านหลังจังๆ ระเบียงแตก ซากอิฐซากปูนร่วงกราวหล่นไปข้างล่าง
“รีบลงข้างล่างเถอะ !” นอร่ายันตัวลุกขึ้น
“เป็นความคิดที่ดี” อ๋องเห็นด้วย กระแทกประตูชั้นดาดฟ้าวิ่งลงไปข้างล่างก่อนที่เจ้ายักษ์มันจะคิดทำลายตึกนี้ไปอีกตึกซะก่อน
..........
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in