เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Look a Breathe (Series 1 - 2)nimon
#546 บทเรียนสุดท้ายที่ผู้ตายไม่ได้บอก (DEATH)


  • “ทุกการจากไป มักมีเรื่องราวทิ้งไว้เสมอ”คำพูดนี้ล้วนเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นภายใต้หนังสือเล่มนี้ เพราะความตายไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว แต่การตั้งใจที่จะเผชิญหน้ากับความตายนั้นต่างหากที่น่ากลัว เพราะทุกคนล้วนเกิดมาต้องตายด้วยกันทั้งนั้น


    “ความตายคือสิ่งสวยงามเสมอ

    เพราะคือการบอกเล่าเรื่องราวไว้

    คนทุกคนเกิดมาต้องตายใน

    สักวันหนึ่งที่ยมทูตมารับไป

    ถึงแม้ว่าคนจะกลัวตายแค่ไหน

    ก็ไม่มีทางหนีพ้นความตายได้

    มีแต่เพียงทำใจยอมรับไป

    เพื่อจะได้ไปสู่สุคติภูมิ”



    คิมแซบยอล นักเขียน ทำหน้าที่เก็บกวาดของผู้ตายมานานถึง ๕ ปี และหน้าที่นี้หลายคนก็รู้สึกไม่พอใจหรือขยะแขยง แถมยังเป็นหน้าที่ๆคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยยอมรับ แต่ก็ต้องพึ่งพา และเพราะเหตุที่ว่า เขาได้เห็นคนตายมาจำนวนมาก ได้ฟังเรื่องราวของคนตายมามากพอ เขาจึงตัดสินใจเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา เพื่อให้คนอ่านรู้ว่า “ความตายเป็นสิ่งที่ต้องเผชิญเข้าสักวันหนึ่ง และความกลัวไม่ได้ทำให้คนๆนั้นไม่ตายแต่ด้วยประการใด” และเรายกตัวอย่างเรื่องเล่าของความตายแต่ละหนึ่งเรื่องจากในจำนวน ๔ บทมาเล่าสู่กันฟัง


    ถ้าหากเรารู้จักรักกันให้มากกว่านี้อีกสักนิด


    เมื่อแม่ได้เปลี่ยนไป และกลายร่างเป็นแม่ที่รักแต่หน้าตาของตัวเอง รักความรู้สึกของตัวเอง จนลืมความรู้สึกของลูกและสามี แม่ที่ได้กลายเป็นคนที่ใช้ความรุนแรงกับลูก จนทำให้ลูกทนความกดดันนี้ไม่ไหว และกลายเป็นฆาตกรกระทำอนันตริยกรรมกับแม่ของตัวเอง เพราะเพียงแค่ว่า เขาไม่เข้าใจแม่ และเขาโหยหาความรักของแม่และพ่อ เพราะคำพูดสุดท้ายของเขายังสะท้อนอยู่ในหูของคิมแซบยอลว่า


    “พ่อ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น 

    พ่อจะไม่ทิ้งผมใช่ไหม

    พ่อจะอยู่เคียงข้างผมใช่ไหม”


    พระพุทธเจ้าได้กล่าวไว้แล้ว ว่า การฆ่าบุพการีคืออนันตริยกรรม (กรรมขั้นหนัก คือ การตกสู่ขุมนรกที่เรียกว่า มหาขุมนรกอเวจี ที่ทรมานแสนสาหัส จนหาทางหลุดพ้นจากความทรมานนี้ไม่ได้เลย) เพราะถ้าหากลูกคนนี้ย้อนกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะคิดขึ้นมาได้ก็ได้ว่า เขาไม่ควรฆ่าแม่ตัวเอง แและเขาควรหนีไปหาพ่อ เพื่อขอให้พ่อให้ความช่วยเหลือแทน ทุกอย่างจะดีขึ้น เป็นต้น


    ไม่ว่าจะมีชีวิตแบบใด เราคือคนมีคุณค่า


    พ่อที่เดินไม่ไหวตัดสินใจบอกกับลูกว่า ขอมาอยู่ตัวคนเดียว เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของลูก โดยครั้งแรก ลูกจะมาเยี่ยมบ่อยๆ แต่เมื่อลูกงานยุ่ง ก็เปลี่ยนเป็นโทรศัพท์มาแทน ก่อนที่ลูกจะมารู้ทีหลังว่า พ่อของเขาเดินไม่ได้แล้วนั้น ก็หลังจากที่พ่อเขากลายเป็นศพไปเรียบร้อยแล้ว 


    “คุณค่าของความเป็นพ่ออยู่ที่ไหน

    ถ้าไม่ใช่อยู่ที่กลัวว่าจะเป็นภาระของลูก”


    ความหวังที่เบ่งบาน ณ จุดต่ำสุด


    ครอบครัวนี้ประกอบด้วยแม่และลูกสาวสองคนที่อาศัยอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งวันหนึ่ง ลุกสาวคนโตรักชายผู้หนึ่ง และชายผู้นั้นก็เข้ามาอยู่ในบ้าน และเอาแต่เล่นเกม ให้ผู้หญิงเลี้ยง โดยที่แม่ก็ทุกข์ใจ และทำทุกวิถีทางจนไล่ผู้ชายคนนั้นออกไปได้ และผู้ชายคนนั้นก็กลับมาเผาบ้านหลังนี้ โดยทำให้ลูกสาวคนเล็กตายในที่เกิดเหตุทันที ส่วนลูกสาวคนโตก็ปางตาย และมีแม่ที่หนีรอดออกมาที่เป็นไม่เจ็บหนักเท่าที่ควร


    “การที่คนๆหนึ่งอ้างว่ารักคนหนึ่ง

    จนถึงกลายเป็นมาทำลายชีวิตของคนอื่นนั้น

    เรียกว่า “รัก” ได้จริงหรือเปล่า

    เพราะถ้ารักจริง คงไม่ทำแบบนี้”


    สิ่งที่หลงเหลือไว้ในวาระสุดท้ายของชีวิต


    การที่มีคนๆหนึ่งตายลง โดยที่ตอนมีชีวิตอยู่นั้น ไม่ได้รับการดูแลจากรัฐบาลเป็นอย่างดี และสุดท้ายต้องมาตายกลายเป็นผีไร้ญาติ และต้องนำศพไร้ญาติเหล่านี้ไปเป็นอาจารย์ใหญ่บ้าง หรือทำอย่างอื่นบ้าง และนี่คือสิ่งที่ควรได้รับจากคนตายเหล่านี้จริงหรือเปล่า


    บัญญัติ ๗ ประการที่ควรทำตอนยังมีชีวิตอยู่


    บัญญัติเจ็ดประการเหล่านี้จะช่วยให้คนที่มีชีวิตอยู่สามารถจัดการชีวิตของตัวเอง ก่อนที่ตัวเองจะตาย เพราะความตายไม่รู้ว่า จะมาเยือนเมื่อไหร่ ก็ไม่มีใครรับรู้ได้



    เรื่องราวทั้งหมดจบลง ให้เราเห็นถึงรูปแบบการตายของแต่ละรูปแบบ และเราไม่ได้ลงรายละเอียดถึงเกี่ยวกับหน้าที่ของคิมแซบยอล อย่างเช่น การทำความสะอาด การเปลี่ยนวอลเปเปอร์ การจัดเก็บของผู้ตาย และอื่นๆอีกมากมาย เพราะเราอยากคงไว้ถึงเรื่องราวของผู้ตายว่า แต่ละคนล้วนเกิดมาต้องตาย และการตายของแต่ละคนเป็นแบบไหน โดดเดี่ยว อ้างว้าง หรือมีความสุขแต่ด้วยประการใด



    LOOK A BREATHE

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in