อยากลองมานานแล้วกับกล้องฟิล์มเนี่ย จริงๆจะเรียกว่าลองครั้งแรกก็ไม่ถูก เพราะเคยไปลองแล้วที่ฮ่องกงแต่ไปไม่รอดเพราะขึ้นฟิล์มผิด น้องเลยไม่ได้เดบิวต์เลย เสียใจ
ทีนี้ก็เลยมาแก้ตัวใหม่ที่ญี่ปุ่น เห็นเค้าว่ามีแบบใช้ทีเดียวทิ้ง เราก็เลยซื้อมาลอง ตอนนี้ล้างมาแล้วก็เลยอยากเอามาอวดแหละ :)
บรรยากาศมันก็จะญี่ปุ่นไม่หน่อย...เอาล่ะถึงเวลาอวดละ ตื่นเต้นจัง
สถานี Demachiyanagi-Eki ของรถไฟ Eizan-Densha ค่ะ เวลาน่าจะประมาณ 9 โมงเช้าหน่อยๆ แดดยังไม่แรงมาก ตอนนั้นกำลังต่อแถวขึ้นรถไฟ กลุ่มหน้าเราเป็นกลุ่มทัวร์เหล่าคุณป้าญี่ปุ่นกลุ่มใหญ่ ไม่รู้ว่าแกจะนั่งไปไหนกันแต่คุยกันสนุกเชียว
อันนี้เป็นภายในรถไฟตรงหน้าห้องคนขับ ในภาพเป็นอุโมงค์ใบไม้แดงค่ะ(ตอนนั้นยังไม่แดงมาก เรียกอุโมงค์ใบไม้เหลืองๆแดงๆก็ได้) สวยมากๆ เสียดายที่เข้าไปถ่ายในห้องคนขับไม่ได้เนอะ แต่เราชอบแสงสะท้อนของกระจกมากเลยล่ะ
ภาพแอบถ่ายคุณรถไฟ
สถานี Ninose เงียบกริบเลย ตอนนั้นมีแค่เรากับเรียจัง แล้วก็คุณลุงในภาพ อ่อมีผู้ชายอีกคนที่หลบมุมถ่ายรูปใบไม้แดงอยู่
นี่เป็นที่แห่งหนึ่งในเกียวโตค่ะ บอกไม่ถูกว่าอยู่ไหน ฮา แต่สะพานนั้นข้ามมาเป็นร้านแกแฟค่ะ เป็นร้านคูลๆบรรยากาศเงียบๆ ดีมากเลย
มันคือรูปอีกฝั่งของรูปเมื่อกี้ ใบไม้สีแดงกับร้านอาหารที่ทำด้วยไม้
อันนี้เป็นสะพานหน้าวัด Chion-in ค่ะ ใครอ่านโพสต์ที่ผ่านมาจะรู้ว่ามาตามรอยหนังนั่นแหละ พอถ่ายมาจากฟิล์มให้อีกบรรยากาศไปเลย
ชอบโทนสีแบบนี้จังเลยน้า ตอนที่เดินผ่านไปกำลังมีรายการทีวีอะไรก็ไม่รู้ถ่ายทำอยู่พอดี ทั้งๆที่ร้านมาอยู่ในย่านซอกหลืบขนาดนี้ สงสัยจะเป็นร้านดังแน่เลยแหะ (เดามั่วไปอีก)
กว่าจะได้ภาพนี้ข้างหน้ามีป้าจีนแย่งกันยืนถ่ายรูปอยู่เต็มไปหมด จะว่าไปก็ทุกชาติแหละ คนเยอะมากเพราะเป็นจุดดัง แต่โชคดีที่มีส่วนสูง 171 เป็นอาวุธ เลยถ่ายมาแบบเคลียร์ๆเหมือนอยู่คนเดียวทั้งวัด ฮา ตอนนั้นก็ประมาณสี่โมงเย็นค่ะพระอาทิตย์เริ่มต่ำลงแล้ว สะท้อนตัวอาคารกับพื้นน้ำได้เจ๋งมากเลย
ต้นไม้ต้นนี้เป็นเดอะเบสของเรา มันค่อยๆไล่สีจากข้างล่าง เขียว เหลือง ส้ม แดง ในต้นเดียว ชอบมากชอบกว่าแดงทั้งต้นอีก
ร้านชาเขียวแถวที่พักที่ไปกินสองวันติด ตลกมากที่คนขายถามเราว่าเป็นคนญี่ปุ่นหรอ เดี๋ยวเธอแค่สีผิวเราก็ไม่ใช่แล้ว หน้าก็ด้วยไม่มีอะไรแตะคำว่าคนญี่ปุ่นได้เลย ฮา อาจจะเป็นเพราะเค้าถามอะไรก็ทำหน้าเหมือนเข้าใจที่เค้าพูดไปหมดด้วยมั้ง ไม่ได้หรอกไปคนเดียวเราต้องทำตัวกลมกลืน
ย่าน Nakazaki แหล่งรวมร้านน่ารักไว้ในตรอกเล็กๆ ไปเยือนในวันอ่อนล้าตั้งใจว่าจะไปเอาพลัง สรุปก็ได้พลังมาจริงด้วย
ร้าน JAM POT ที่ตั้งใจไว้ว่าจะไปนั่ง แต่ดันมาปิดวันนี้ ทำม้ายยยยยยยย
แกลลอรี่เล็กๆที่เราตั้งใจไป จริงๆเราไม่รู้จักศิลปินคนนี้เลย แต่เข้าไปเดินแล้วเห็นงานเค้าน่ารักมากเลยอุดหนุน ได้คุยกันเล็กน้อย พอรู้ว่าเราเป็นต่างด้าวก็ถามใหญ่ว่ารู้จักที่นี่ได้ไง จะแถมของให้อีกเราเลยบอกไม่เป็นไรไม่เอาดีกว่าค่ะ สุดท้ายเค้าเลยขอถ่ายรูปด้วย ไอ่เราก็ขอถ่ายบ้าง สรุปล้างมาได้รูปแบบนี้มา ตลกดี นั่นคือความทรงจำที่ดีอีกหนึ่งอย่างของทริปนั้นเลย
พอจะเห็นหน้าคุณยูกิอยู่ แต่หน้าเรานี่เห็นแต่ฟัน..อืม คุณยูกิไม่ได้ตัวเล็กหรอกเราแค่ตัวยักษ์ไปหน่อย
รวมร้านน่ารักๆแถวย่านนั้น เดินเพลินเลย คนก็น้อยมาก น้อยแบบเดินสวนกันไม่ถึงสิบคน หลายๆคนก็เดินมาถ่ายรูป จริงๆภายในร้านตกแต่งน่ารักทั้งนั้นเลยค่ะ แต่เราเลือกไม่ได้ผลสุดท้ายก็ไม่ได้เข้าเลยสักร้าน สงสารตัวเอง ฮ่าๆๆๆ
สถานีอุเมดะ ความญี่ปุ่น วันที่เราไปยังแค่ 10 พฤศจิกายน แต่ความคริตส์มาสเต็มไปหมดแล้ว เป็นประเทศที่สนุกสนานกับการจัดงานเทศกาลจริงๆ
ร้าน BIOTOP อันเลื่องลือ ว่าจะเข้าไปนั่งสักหน่อยแต่คนเต็มร้านเลย เลยได้แต่กดน้ำอัดลมกระป๋องฝั่งตรงข้ามแล้วมายืนกินมองหน้าร้านเค้าแทน..ทำไมรันทดล่ะ
ลานกิจกรรม ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะว่าเค้าเรียกที่นี่ว่าอะไร แต่ตอนเราไปกำลังมีร้องเพลงเลย เพราะดี บรรยากาศชิลๆ ผู้คนมานั่งพักผ่อนกันเต็มไปหมด เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นๆในอากาศหนาว เราเลยรู้สึกชอบภาพนี้เป็นพิเศษ
หมดแล้วฟิล์มม้วนที่ 1 ผลที่ได้คือติดใจมากเลย เพราะเราจำไม่ได้เลยจริงๆว่าตอนนั้นกดถ่ายอะไรไปบ้าง พอไปล้างแล้วเห็นภาพที่ได้ออกมา ความจำมันก็ค่อยๆกลับมา เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดีสำหรับเรา
สงสัยต้องไปถอยกล้องฟิล์มแล้วล่ะ!!
เราอาจจะโพสต์เรื่องญี่ปุ่นรอบนี้ไม่จบไม่สิ้นสักที แต่ก็อยากแชร์เรื่องราวดีๆให้คนที่ไม่รู้จักกันให้ฟังบ้าง แต่การที่ใครกดเข้ามาอ่านจนตรงนี้คุณก็รู้จักเราแล้วล่ะเนอะ
ไว้โพสต์หน้าเราจะหาเรื่องมาเล่าอีกนะคะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in