ผู้หญิงคนนึงน้ำตาไหลพราก ร้องไห้จริงจังอยู่ในโรงหนัง ใช่ค่ะเราเอง นั่นคือสภาพหลังจากที่ได้ดูหนังเรื่อง Tomorrow I will date with yesterday’s you จบ หนังรักญี่ปุ่นไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลย
สำหรับใครที่เป็นคอหนังรักญี่ปุ่นแต่ยังไม่เคยดูเรื่องนี้ เราแนะนำเลยค่ะลองไปซื้อแผ่นมาดู (เค้าออกแผ่นแล้วนะคะ) เตรียมกระดาษทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้าไว้ข้างตัวด้วยนะคะ หรือถ้าใครจะดูกับเพื่อนหรือแฟน ก็แนะนำให้ใช้เครื่องสำอางค์กันน้ำสักหน่อยในวันนี้
ว่าแล้วก็ดูเหมือนมาโปรโมทหนังใหอเค้า แต่จริงๆไม่ใช่นะคะ แต่เราเหมือนโดนหนังหลอกล่อ หรือจะใช้คำว่าล่อลวงดี เพราะทริปญี่ปุ่นล่าสุดของเราโดนหนังเรื่องนี้ดูดไป 1 วันเต็มๆ ซ้ำยังต้องไปเดือดร้อนเรียเพื่อนชาวญี่ปุ่นว่า เธอไปเป็นเพื่อนเราหน่อยเถอะนะ ...... ใช่ค่ะ เราไปตามรอยหนังกันเถอะ
"วันที่ 1"
เริ่มต้นด้วยฉากเปิดหนังมา ที่ทาคาโทชิเจอกับเอมิครั้งแรก...แต่มันเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับเธอ
ฉากนี้เกิดขึ้นที่รถไฟ Eizan-Densha ค่ะ เริ่มต้นจากสถานี Demachiyanagi-Eki ด้วยรถไฟสายนี้สามารถนั่งไปอุโมงค์ใบไม้แดงที่สวยมากๆได้ด้วยค่ะ พอได้มาขึ้นรถไฟเราก็รู้สึกน้ำตามันจะไหลออกมาอีกทีเลย จะร้องไม่ใช่เพราะซึ้งอะไรเลยแค่คิดว่าเอ้อชีวิตมาถึงจุดนี้แล้ว จุดที่บ้าหนังจนมายืนตรงนี้
แต่ไหนๆก็มาแล้วเราเลยนั่งรถไฟผ่านอุโมงค์ใบไม้แดง ซึ่งบอกได้คำเดียวว่ารู้สึกคุ้มค่ามาก เรารู้สึกตกหลุมรักรถไฟสายนี้ไปเลยค่ะ ด้วยความเป็นสายที่ออกมานอกเมือง บรรยายกาศรอบข้างเลยดูเงียบสงบไปหมดเลย
"เจอกัน พรุ่งนี้"
"เจอกัน พรุ่งนี้" คำที่เอมิพูดด้วยตาที่เศร้าที่สุด
คำว่า "เจอกัน พรุ่งนี้" ดูเป็นคำพูดธรรมดาที่เราใช้กันอยู่บ่อยๆ แต่หนังเรื่องนี้เอามาทำให้เราคิดอีกครั้งว่า จริงๆพรุ่งนี้มันอาจจะไม่มีก็ได้นะ อาจจะไม่ต้องตีความหมายในแง่ของตายจากกัน แต่มันก็ยังไม่แง่อื่นอีก ดังนั้นเวลาของเราทุกคนมีค่ามากเดินหน้าแล้วถอยกลับไม่ได้ ดังนั้นจงใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่า
ฉากนี้อยู่ที่ สถานี Takaragaike ที่ดูจะเป็นสถานีรถไฟธรรมดาๆ ที่คนพื้นที่ใช้กัน ดังนั้นคนต่างด้าวอย่างเราแทบหาไม่มีเลยล่ะ จุดนี้เรายืนกรี๊ดกร๊าดอยู่นานพอสมควรเพราะที่เก้าอี้มีลายเซ็นของนักแสดงอยู่ด้วย (มายืนลูบลายเซ็นของนานะจังอยู่สองสามที) จากสถานีสามารถเดินไปสวนสาธารณะ Takaragaike ที่เป็นอีกฉากสำคัญของเรื่องได้ค่ะ แต่เรามีเวลาจำกัด เลยข้ามตรงนั้นไป เสียดายเหมือนกันแหะ
"เอมิมาสร้างความทรงจำกันเถอะ"
ฉากนี้ทั้งสองคนออกมาสร้างความทรงจำกัน เป็นฉากที่มีความสุขเพราะทั้งคู่ตกลงกันแล้วว่าจะใช้เวลาที่มีอยู่ใช้มีค่ามากที่สุด เอมิก็เลือกที่จะพกกล้องมาถ่ายรูปทาคาโทชิเอาไว้
สำหรับสถานที่ในฉากคือบริเวณ Kamo-gawa Delta Area เป็นจุดที่แม่น้ำคาโมะและทาคาโนะมารวมกัน สถานที่อยู่ตรงข้ามสถานี Demachiyanagi-Eki ค่ะ ข้ามถนนมาก็เจอเลย วันที่เราไปเค้ามีถ่ายพรีเวดดิ้งเลยไม่กล้าจะยกกล้องมาถ่ายกลัวเป็นการรบกวน ตรงทางแยกสวยมากเลยค่ะยังไงลองไปหาภาพจากที่อื่นดูนะคะ (เอ๊ะ ฮ่าๆๆ) มีเด็กมานั่งตักปลา คนมาเดินเล่น เป็นจุดที่เหมาะกับทุกคนมากๆ
"เราไม่ได้เดินสวนกันแล้วผ่านเลย ปลายทางจะหวนมาบรรจบกันอีกเพื่อเชื่อมเราเป็นหนึ่งเดียว"
Shirakawa Bridge จริงๆเราจะเดินหาสะพานที่ทาคาโทชิกับเอมิจับมือกันครั้งแรก แต่สรุปกลายเป็นมาเจอสะพานของฉากที่คุยกันหลังจากไปสังสรรค์กับเพื่อนๆแทนค่ะ ตำแหน่งอยู่หน้าวัด Chion-in
ถ้าไม่นับว่าเป็นฉากในหนังก็ต้องบอกเลยว่าเราชอบตรงจุดนี้มากเลย ต้นไม้ย้อยๆสองข้างทางสวยมาก แต่เพื่อนคนญี่ปุ่นเราบอกว่าตอนเด็กๆเค้ากลัวต้นไม้นี้มากเพราะมีเรื่องเล่าว่ามีผีสิงอยู่ แซวกันอีกว่าถ้าเธอยังกลัวอยู่สงสัยเราจะเดินผ่านแถวนี้ไม่ได้แน่เลย ต้นไม้ยาวเป็นแนวเลย
เดินข้ามสะพานหินเล็กๆนี้ไปก็จะเป็นอีกหนึ่งฉากค่ะ ที่บอกได้เลยว่าเจอโดยบังเอิญ จริงๆเราแค่เดินตามคนอื่นเค้าไป ฮ่าๆๆ
ทางเดินทางซ้ายมือคือย่าน Furukawa-cho ที่เป็นย่านร้านค้าที่ทาคาโทชิและเอมิเคยมาเดินกันค่ะ พอเห็นร้านขนมหวานที่อยู่ตรงหัวมุมถนนนี้ก็อดหันไปคุยกับเรียจังไม่ได้ว่า เนี่ยรู้มั้ยว่าบ้านเราอ่ะถ้าตำแหน่งแบบนี้เค้าว่าไม่ดีแหละ เค้าว่าเป็นที่ๆมีผีอยู่ แล้วก็ยิ้มๆกัน จริงๆความเชื่อมันก้เปลี่ยนไปแล้วแต่พื้นที่แหละเนอะ เป็นเรื่องที่น่าสนใจดีจริงๆ
นี่ไงย่านการค้าที่ว่า เป็นย่านที่เงียบๆดีค่ะ ดูเป็นที่เก่าๆที่เป็นโลคอลอยู่สุดโต่ง เดินมาตั้งนานยังไม่เจอต่างด้าวอย่างเราๆเลย ชอบจัง
"มินะมิยามะคุง"
"มินะมิยามะคุง" เรียกเอมิจังเรียกทาคาโตชิในวันเดทแรก สำหรับฉากนี้คือที่สะพาน Sanjo Ohashi เป็นสะพานธรรมดาๆที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง ในเรื่องเอมิสดใสร่าเริงมากทั้งๆที่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ฉากนี้ก็ทำเราซึมไปเลย บอกตรงๆว่าเสียงเรียกของเอมิอยู่ในหัวตลอดเลย จนดูหนังจบแม้ว่าจะเป็นรอบแรกเราก็จำฉากนี้ได้ขึ้นใจ
เราชอบที่นี่มากเพราะน้ำใส อากาศดี มองลงไปข้างล่างสะพานแล้วก็รู้สึกสดชื่ออย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ ถ้ามีเวลามากกว่านี้สักหน่อยก็อยากลงไปนั่งปล่อยอารมณ์อยู่ที่ริมแม่น้ำเหมือนกัน
"โรลชาเขียว"
ร้านอาหารที่กินในวันเดทครั้งแรก อะไรๆก็ดูราบรื่นไปหมดเพราะทั้งคู่ดูใจตรงกันทุกอย่าง สั่งโรลชาเขียวเหมือนกัน รอยยิ้มของเอมิจังในฉากนี้เราลืมไม่ลงเลยค่ะ
สถานที่คือคาเฟ่ Sarasa Nishijin ที่เดิมทีเป็นโรงอาบน้ำสาธารณะแต่มาปรับปรุงใหม่เป็นร้านอาหาร วันนั้นเราหิ้วท้องกันมาถึงบ่ายสองเพราะว่าหาร้านนี้ไม่เจอสักที หลงแล้วก็หลงอีกไม่รู้ว่าร้านหายากหรือผิดที่ความสามารถของเรา ฮ่าๆ
เกรงใจเรียจังมากที่หิ้วท้องเป็นเพื่อนเรา แต่ในที่สุดหลังจากหลงมาเป็นชั่วโมงเราก็เจอ ร้านนี้ขายอาหารสไตล์ฟิวชั่นค่ะ รสชาติดีเลย(อร่อยจริงๆไม่ได้เกี่ยวกับที่เราหิวเลย) เสียดายที่วันนั้นไม่มีโรลชาเขียว และเราก็หิวเกินกว่าจะสั่งของหวานได้ด้วยสินะ
ตอนที่เราไปโต๊ะที่เอมิจังนั่งในฉากไม่ว่างค่ะเลยได้นั่งข้างในแทน แอบเสียดายเล็กๆ แต่ว่าสไตล์ของร้านนี้เราชอบมาก เก่าๆวินเทจแบบบอกไม่ถูก คุยกันกับเพื่อนว่าทำไมคนเยอะจังเลยทั้งๆที่ร้านก็อยู่ลึกมาก แต่ตลอดเวลาที่เรานั่งคนเข้าๆออกๆกันตลอดเลย
ที่ร้านมีลายเซ็นของนักแสดงด้วยค่ะ จริงๆเราอยากจะให้ภาพที่เราวาดฉากในร้านนี้กับเจ้าของร้านไว้ แต่ความอายมันมากกว่าค่ะ ถ้าวาดสวยกว่านี้ก็อาจจะกล้าอยู่หรอก ฮ่าๆ
สำหรับการตามรอยเอมิกับทาคาโทชิของเราทั้งวันนั้นก็จบเพียงเท่านี้ค่ะ เสียดายที่ไม่ได้ไปอีกหลายฉาก แต่ด้วยเวลาที่มีจำกัดแค่นี้ก็ดีใช่มากๆแล้ว ไม่คิดว่าชีวิตจะมาถึงจุดนี้จริงๆนะคะ ฮ่าๆ
ต้องขอบคุณหนังเรื่องนี้ที่ทำให้เรามีความสุขตั้งแต่เริ่มวางแผนเริ่มวาด มาตามรอย จนถึงตอนนี้พอนึกถึงก็ยังรู้สึกสนุกอยู่เลยค่ะ ที่ดียิ่งกว่าคือเราได้ไปตามสถานที่ที่ไม่ใช่จุดท่องเที่ยวหลักไม่ต้องเจอคนเยอะ ดื่มด่ำกับธรรมชาติสุดๆ
เรื่องที่เราจะแชร์ก็มีอยู่เท่านี้ค่ะ หวังว่าคนที่บังเอิญหลงมากดอ่านหน้านี้จะมีความสุขไปกับเรานะคะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in