เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกการเดินทางของวิวNita
เชียงใหม่ครั้งนี้ฉันรัก
  • "ไปเชียงใหม่กัน" ใครสักคนในกลุ่มที่ทำงานพูดขึ้นมา และในวันเดียวกันการจองตั๋วข้ามปีก็เกิดขึ้น

    ก่อนจะไปเรายอมรับว่าไม่ได้คาดหวังอะไรกับทริปนี้เลย แค่อยากไปเที่ยวกับพี่ๆที่ทำงานเพราะที่ทำงานเราไม่มีเอ้าท์ติ้ง ฮ่าๆ พูดง่ายๆคือหาเรื่องเที่ยว แต่มันกลับเป็นทริปที่ประทับจิตประทับใจยิ่งนัก 

    อ่ะเริ่มเลยเนอะ เชียงใหม่สำหรับเราดูเป็นจังหวัดที่คึกคักแต่ยังสงบอ่ะ จะอธิบายยังไงดี มันดูเป็นความเจริญในความยังคงเป็นเชียงใหม่ (เอ่างงแล้ว) ซึ่งเรามองว่ามันน่ารักจัง

    เริ่มต้นด้วยสไตล์วัยรุ่นคือไปหาร้านกาแฟชิคๆนั่งกันเถอะ แล้วผลที่ได้คือร้าน Fern Forest Cafe เพราะเปิดกูเกิลมาแล้วมันแนะนำ มารอบนี้สนุกอีกอย่างคือทุกคนไปไหนไปกัน แบบเอ่าอันนี้หรอ เออได้ แวะเล้ย รีวิวเบาๆแบบร้านไม่ได้จ้างมา คือร้านนี้อร่อยทุกอย่างที่สั่งมาเลย พนักงานก็น่ารัก น่ารักจนออกปากชมว่าพี่พนักงานน่ารักจัง

    พี่เก๋ (ผู้ที่ซึ่งเคยแบกเป้มาเชียงใหม่คนเดียวเมื่อปีก่อน) โดนแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหมู่พาอีกสี่ชีวิตเที่ยว แต่วันแรกพี่เก๋ก็พาเราเดินรอบเมืองไป 9 กิโลด้วยระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง ขอบคุณค่ะ ฮ่าๆๆ ก็เดินวนรอบๆเมืองแล้วจบด้วยถนนวัวลาย (ที่เราไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะมัวแต่กิน) เรากินตั้งแต่ต้นถนนยันท้ายถนน อิ่มจนบรรยายไม่ถูก เราชอบนะ ก่อนมามีคนบอกว่าตอนนี้ถนนคนเดินมันเปลี่ยนไปแล้วไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก แต่พอเรามา เอ้าไม่นี่ ทำไมเราเอ็นจอยอ่ะ มีโชว์วัฒนธรรมเยอะแยะเลย อาหารแปลกๆก็มี จริงอยู่ที่อาจจะหาได้น้อยลง แต่มันยังมีอยู่นะ ใครมาก็อย่าลืมแวะมานะคะ พ่อค้าแม่ค้าก็น่ารัก อ้างอิงจากลุงคนขายเสื้อที่แอบป้าลดราคาให้เรา

    ก่อเดินถึงวัด พี่ตาลไปถามราคากำไลเงินเส้นนึง คำตอบคือห้าพันบาท แต่พอเดินมาถึงวัดนี้ที่ทำด้วยเงินทั้งหมดเราเห็นแล้วขนลุก กำไลยังห้าพัน แล้วหมดนี่เท่าไหร่นะ ต้องสร้างมาด้วยความศรัทธามากๆ อีกอย่างที่เป็นความชอบส่วนตัวคือลวดลายศิลปะที่วัดทางเหนืออ่ะ สวยมาก สวยมากๆ

    วันที่สอง เริ่มต้นที่วัดพระธาตุดอยคำที่ลุงคนขับรถตู้บอกว่าถ้าไม่ได้มาเค้าเรียกว่ามาไม่ถึงนะ คนเยอะมากด้วยความใกล้วันหวยออกคนมาขอพรกับหลวงพ่อทันใจเยอะแยะเลย บ้างก็มาแก้บน ส่วนเรานั้นก็ไม่ได้ขออะไรเลย พอกลับมาแม่รู้ แม่ทำหน้าเสียดายใหญ่ แม่บอกแม่อยากไปมากแต่เรามีโอกาสได้ไปทำไมไม่ขอ ฮรือรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ฮ่าๆ 

    ต่อด้วยน้ำตกวชิรธาร ที่ของจริงสวยและใหญ่มาก ยืนอยู่ริมน้ำตกรู้สึกเหมือนมีสเปรย์น้ำแร่ธรรมชาติ รู้สึกสดชื่อสุดๆ งานนี้กรุ๊ปช้อตก็มาดีที่มีฝรั่งใจดีช่วยถ่ายให้ ขอบคุณค่ะ

    มื้อเที่ยงวันนั้นก็น้ำตกส้มตำ อีกอย่างที่ดีคือร้านอาหารในอุทยานราคาไม่ได้แรงเหมือนที่วาดภาพไว้เลย

    ทีนี้เซอร์ไพรส์แรกคือ เราจองที่พักอุทยานดอยอินทนนท์ไว้ แต่พอรถมาถึงแค่นั้นแหละทุกคนก็แตกตื่นด้วยความว้าวเพราะมาตรงจังหวะดอกพญาเสือโคร่งกำลังออกพอดีเลย ก่อนหน้านี้ไม่ได้คิดไว้ในหัว ด้วยความที่จองตั๋วแบบไม่ได้กะเวลาให้ตรงอะไร 
    แล้วคุณลุงก็พาไปที่ขุนวาง บานเต็มไปหมดเลย คนก็ไม่เยอะมาก ฟินแบบว่าฟิน ฟินกว่าตอนกินข้าวหน้าปลาไหล


    วันนั้นก็เย็นที่ขุนวาง ตบท้ายด้วยหมูกระทะที่ไปกันห้าคนแต่ล่อไปสองชุด อากาศตอนกลางคืนก็หนาว ประมาณ 11 องศาได้ เราผิดเองที่ดูถูกเชียงใหม่ ด้วยความที่เพิ่งไปญี่ปุ่นมาไง เลยคิดว่าเห้ยแค่เชียงใหม่เองแก ชิว ชิวมาก สั่นกึกๆ

    เช้าวันที่สาม คุณลุงนัดพวกเรา 6 โมงเช้าเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น มาถึงก็มีเสียงประกาศว่าวันนี้ได้เห็นแน่นอนครับเพราะท้องฟ้าเปิด นั่นคือเซอร์ไพรส์ที่สอง หลังจากรู้ว่าอาทิตย์ก่อนฟ้าปิดเกือบทุกวัน

    เปิดการชมพระอาทิตย์ขึ้นครั้งแรกในรอบปี จริงๆก็รอบหลายปีแหละ น้อยมากที่เราจะได้ตั้งใจยืนมองพระอาทิตย์ขึ้นอย่างใจเย็นแบบนี้ บอกเลยว่าเป็นเช้าที่ดี พอจะเข้าใจอารมณ์ของรายการ The Sun Hunter ที่เราติดตามมาตลอดตั้งแต่ปีที่แล้วเลยว่าการได้ยืนดูพระอาทิตย์แบบนี้มันดีจริงๆ

    พี่ตาลเป็นช่างกล้อง รูปรวมเลยมีพี่ตาลอยู่ด้วยน้อยมากเลย พี่ตาลบอกไม่เป็นไร แต่หนูกับทุกคนจำได้ว่าพี่ตาลเป็นคนถ่าย รูปนี้ฟิลกู๊ดสุดๆ พี่เก๋ใส่หมวกกันแดดทั้งๆที่ไม่มีแดดด้วยแหละ

    ต่อด้วยการเดินเท้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานไปกับพี่เจษ ไกด์ของพวกเราเอง ขอพื้นที่โฆษณาว่าพี่เจษน่ารักมาก อธิบายครบทุกจุด ให้ความรู้และดูแลเราอย่างดี

    น้ำตกกับความสมบูรณ์ของป่า ตลอดเส้นทางยังเป็นป่าที่สมบูรณ์ พี่เจษบอกว่าที่ต้องมีไกด์เพราะบางคนก็ชอบมาขโมยเอาของป่าไป บางคนก็มาทิ้งขยะทำลาย ระหว่างทางถ้าพี่เจษเจอขยะแกจะเก็บเข้ากระเป๋าเพื่อเอาไปทิ้งเลย รู้เลยว่าแกรักที่นี่มาก
    ในส่วนของกิ่วแม่ปานก็เป็นเซอร์ไพรส์ที่สามคือฟ้าเปิด เห็นวิวทิวทัศน์ได้ชัดเจน เราอธิบายไม่ค่อยจะถูกนัก แต่พอเราผ่านต้นไม้ที่พี่เจษบอกว่าต่อไปเราจะเข้าสู่เขตอีกโลกนึง หัวใจเรามันพองโตอ่ะ แบบว้าววว สวยจังเลยนะ ประทับใจสุดๆ เรารู้ว่าคุณก็คงเคยเป็น อาการประทับใจแต่อธิบายไม่ถูก มันเหมือนกับว่าเราจะจำโมเม้นนี้มันไปได้ตลอด เราเคยเป็นแบบนี้หลายครั้ง 

    สุดท้ายทริปเชียงใหม่นี้เป็นอีกทริปที่เรามีความสุขกับมันมากจริงๆ ไม่มีจังหวะไหนที่เบื่อเลย มั่นใจได้ว่าเรื่องราวทริปเชียงใหม่นี้จะถูกเก็บไว้ในเกาะแห่งความสุขของเราแน่นอน ในฐานะน้องเล็กสุดก็อยากขอบคุณพี่ๆแหละที่ดูแลดีมากเลย สนุกมากๆค่ะ หวังว่าเราจะได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกเยอะๆ

    คุณล่ะคะออกไปเติมความสุขกันเถอะน้าาา ไว้เจอกันใหม่ในทริปหน้านะคะทุกคน




เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in