อะไรที่เป็นครั้งแรกมักจะตื่นเต้นเสมอนั่นแหละ ไม่ว่าจะรักครั้งแรก ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก หรือไปต่างประเทศครั้งแรก ขึ้นชื่อว่าครั้งแรกน่ะนะ
ฝึกงานวันแรกก็เหมือนกัน ตื่นเต้นน่าดูเลยล่ะ..อีกอย่าง มันออกจะแปลกๆสักหน่อยที่เราเริ่มฝึกงานทั้งๆที่ยังเปิดเทอมอยู่ เราจึงไม่สามารถเม้ามอยแชร์ประสบการณ์ฝึกงานกับเพื่อนคนอื่นได้
เราเซ็นสัญญาการเป็นเด็กฝึกงานไปตั้งแต่อาทิตย์ก่อน โดยสัญญาได้ระบุไว้ว่าเวลาเริ่มงานคือเก้าโมงครึ่ง เราจะได้ค่าเดินทางหนึ่ง150บาทต่อวัน พร้อมกับได้ส่วนลดเสื้อผ้าของทางแบรนด์อีก80%ทุกเดือน (ลดได้สูงสุด2,500บาท) มีข้าวกลางวันให้กินฟรีจันทร์ พุธ ศุกร์
เราได้อ่าน benefits ก็ได้แต่กระหยิ่มยิ้มในใจ ลด80%สินะ..หึหึ เสร็จกูแน่นอน ถึงจะไม่ได้เงินเดือนก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยให้สาวน้อยบ้าแฟชั่นคนนี้ได้ช้อปให้หนำใจก็พอ มีข้าวให้กินฟรีตั้งสามวัน โฮะๆๆ
อ..เอ๊ะ..เดี๋ยวนะ
แต่เราเริ่มทำพาร์ทไทม์วันพฤหัส นั่นหมายความว่าเราจะไม่ได้กินข้าวฟรีจนกว่าเราจะเริ่มฝึกงานฟูลไทม์...?
ว่าแล้วก็ขอกรีดร้องให้กับแต้มบุญของน้องที่มีไม่ถึงด้วยเถอะนะคะ :'(
***
วันแรกที่ไปถึง เราแต่งตัวด้วยเดรสสีดำประมาณเข่าคาดเข็มขัดเส้นเล็กเสียเต็มยศ ตามสไตล์สาวออฟฟิศมากๆ ยังไงไปทำงานวันแรกก็ต้องเรียบร้อยไว้ก่อนอ่ะเนอะ ยังไม่อยากเปรี้ยวตีนมาก
เราไปถึงประมาณ9.20 ก็คิดไว้ว่าเออคนคงทยอยมาถึงแล้วล่ะเนอะ แต่ทันทีที่เราเดินไปเข้าไปในออฟฟิศ... คือมันไม่มีใครเลยเว้ย คนน้อยมากๆ
พี่แผนกการตลาดคนนึงเลยบอกให้เรานั่งรอพร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่า
"ปกติเข้างานสิบโมงแหละ นั่งรอไปก่อนละกันเนอะ"
แล้วไอ้9.30ที่ระบุในสัญญามันคืออะไรครับมึง?
ระหว่างนั่งรอให้คนมา เราเลยแชะรูปโต๊ะทำงานมาซะเลย ออฟฟิศที่นี่จะเป็นแบบเปิด ไม่มีการนั่งทำงานเป็นบล็อคๆแต่จะเป็นโต๊ะตัวยาวแบ่งไว้เป็นแผนกๆ ทุกคนสามารถคุยกันได้อย่างสนุกสนาน นั่นหมายความว่าคุณจะไม่สามารถแอบดูหนังโป๊ได้เลยเพราะทุกคนมองเห็นกันหมด (เดี๋ยวนะมึง)
ออฟฟิศที่นี่ค่อนข้างสวยทีเดียว จะมีกระจกบานใสใหญ่ๆที่มองออกไปเห็นถนนใหญ่ ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ มีต้นไม้วางประดับอยู่ประปราย เป็น office environment ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราเลือกที่ทำงานไม่ผิด เราชอบบรรยากาศแบบนี้
พอสิบโมงคนก็ทยอยกันเข้ามาจริงๆ พี่ในแผนกเข้ามาครบทุกคนแต่ก็ยังไม่มีวี่แววของหัวหน้าที่ควรจะเป็นคนสั่งงานและแนะนำเราให้ทุกคนรู้จัก
ประมาณสิบโมงครึ่งหัวหน้าถึงเดินเฉิดฉายเข้ามาพร้อมเสื้อยืดเอวลอยและกางเกงยีนส์ทรงบอยเฟรนด์ขาดๆ เซอร์เสียจนผมต้องก้มลงมองชุดสาวออฟฟิศของตัวเองเลยทีเดียว
เพราะว่าวันที่เราเข้าไปทำงานดันเป็นวันที่เขากำลังจะ launch summer collection สุดยิ่งใหญ่อลังการ ทุกคนจึงดูยุ่งมากจนไม่มีเวลาจะสอนงานเรา
แต่พอผ่านไปสักพักก็มีพี่ในแผนกมาสอนและให้เราลองเขียน product description ของคอลเลคชั่นที่กำลังจะปล่อยนี้ เราต้องเขียนประมาณว่าเสื้อตัวนี้ทำมาจากเนื้อผ้าอะไร มีดีเทลอะไรบ้าง (ซิปหน้า ซิปหลัง แต่งระบาย เปิดไหล่ ฯลฯ) ซึ่งบอกตรงๆ เราสนุกมากเว้ย...ไฟแรงมากๆ นั่งทำไปแบบไม่หยุดจนพักเที่ยง
เพราะว่าวันนี้เป็นวันแรก..หัวหน้าก็เลยพาออกไปเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวเป็ดใกล้ๆบริษัท แต่เขาบอกเราว่าปกติคนที่ออฟฟิศเขาสั่งข้าวมากินกัน ไม่ก็นั่งแท็กซี่ออกไปกินเพราะแถวนี้มีแค่ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดนี่แหละ มันไม่ค่อยมีอะไรกิน (หลังจากวันนั้นเราก็แบกข้าวมากินเอง ไม่ก็ตามพี่ๆเขาไปกินแถวเควิลเลจตลอด)
เราแฮปปี้กับการฝึกงานวันแรกนะ เรารู้สึกว่าพี่ๆเป็นกันเองและบริษัทค่อนข้างให้อิสระในการเดินไปเดินมา ไม่ได้ต้องนั่งติดกับโต๊ะทั้งวัน จะออกไปซื้อน้ำซื้อขนมก็แว้บออกไปได้ ส่วนเรื่องงานก็ยังไม่มีอะไรที่เหนือบ่ากว่าแรง
จริงๆวันแรกเราก็ไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากเขียน product description นั่นแหละ..เรานั่งเขียนทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยอย่างแข็งขันจนกระทั่งทำเสร็จ
...เพื่อค้นพบว่าเขาไม่ได้สั่งให้เขียนภาษาอังกฤษ เขาให้เขียนภาษาไทยเฉยๆ
โอ้โหเดซี่ เธอมันโคตรเด๋อ.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in