- ได้นั่งYufu กับ Yufuin no moriสำเร็จ วิวสวยประทับใจมาก

- ข้าวกล่องรถไฟที่สุ่มมาไม่อร่อย

-ยุฟุอินถ้ามีเวลา อยากให้จัดแพลนเที่ยวทั้งวันเลยยิ่งดี

____________________________________________________________________________________________

วันนี้ตื่นสายจนเกือบขึ้นรถไฟไม่ทัน ด้วยความที่เราจองรถไฟรอบเช้ามากๆ แล้วลืมคิดว่าจะต้องเดินทางจากโรงแรมไปสถานีอีก แถมต้องแบกกระเป๋าสัมภาระต่างๆมาอีก คือถ้าตกจะเป็นยังไงรู้ป่ะ

….ตั๋วที่จองมาวันนี้โละทิ้งทั้งหมดครับ….. 

Yufuเอย Yufuin no moriเอย จุดประสงค์ของทริปนี้หายไปครึ่งหนึ่งเอ๊งงงงง

จนในที่สุดก็แบกกระเป๋ามาสถานีHakataจนได้ เราวิ่งขึ้นมาปุ๊ป สองนาทีรถออกปั๊ป…. จะจังหวะซิตคอมมากถ้ามียายสักคนขึ้นอยู่แล้วประตูปิดที่เราพอดี… โชคดีที่พระเจ้ายังไม่อยากเอาฮากะชีวิตตูขนาดนั้น….

Yufu เป็นรถไฟที่มีแต่งสีน่ารักๆ แต่งเรียบๆแต่ลงตัว(นี่ยังไม่ใช่มาสเตอร์พีชนะเนี่ย) เราขึ้นขบวนนี้มาก่อนเพราะว่ายิ่งมาเช้า เวลาที่เดินในยุฟุอินจะยิ่งมากขึ้น(ยืนยันว่ามีเวลาเท่าไหร่ก็เดินไม่พอ) ใช้เวลาเดินทางประมาณสามชั่วโมง ระหว่างทางมีวิวสวยๆให้ดูตลอด 

พอจอดสถานีไหน ลุงๆป้าพนง.ก็จะโค้งส่งตลอด มีอยู่ที่หนึ่งซึ่งเราจำไม่ได้ว่าที่ไหน ระหว่างรถไฟวิ่งนี่แหละ มีชาวบ้านอยู่7-8คนอ่ะ แต่งตัวเต็มยศออกมาเรียงหน้ากระดานโบกมือรถไฟที่วิ่งผ่านอ่ะ คือเขาใส่ใจกับทุกคนที่มาเยี่ยมเยียนเมืองเขามากเลยนะ สุดยอดจริงๆ(เหมือนรถไฟจะแอบชลอให้ช้าลงด้วย)

พอถึงสถานียุฟุอินก็พบว่า...เป็นสถานีเล็กๆที่ค่อนข้างใหม่ เมืองนี้ที่พอจะโด่งดังก็คือหุบเขากับถนนคนเดินที่มีแต่ของน่ารักๆขายเต็มไปหมด เราว่าอากาศหนาวคงจะฟินน่าดู แต่กลับมาสู่ความจริงกันค่ะ อุณหภูมิ33องศา! ยุฟุอินเวอร์ชั่นนรก!!

เดินมาอีกนิดจะเจอbus terminalของเขา จากนั้นร้านค้าก็จะไปในแนวเดียวกันหมดคือ ของหวานที่อร่อยวัวตายควายล้ม ร้านติสต์เข้าไม่ถึง และร้านขายของแนวอินดี้ๆหน่อย

ร้านของที่ระลึกจากจิบลิ! ห้าม!เข้า!เด็ดขาด! โดยเฉพาะติ่งจิบลิหรือคุณผู้หญิง เข้าไปปุ๊ปเงินคุณจะหายไปอัตโนมัติ ขั้นต่ำคือห้าพันเยนกับเวลาอีกสองชั่วโมง เหมือนโดนป้ายยา ของน่ารักเพียบบบบบบบบ (มีอีกสาขาที่ศาลเจ้าดาไซฟุด้วยนะคะ เผื่อใครเดินไม่ทัน)

จนเดินไปสุดทะเลสาบคิรินก็เดินกลับค่ะ เรามีเวลาเดินไม่มาก(อยากได้เวลาเพิ่มเวรี่มัชTwT ยั่งกะชะโงกทัวร์) แต่ถ้าไม่รีบก็จะพลาดขึ้น Yufuin no mori ที่อุตส่าห์จองมา ก็เลยตัดใจเดินกลับอย่างรวดเร็ว แงงงงงงงงง

เข้ามาในชานชลาต้องตรวจตั๋วก่อน เพราะเขากั้นไว้พิเศษสำหรับคนที่จองรถไฟขบวนนี้เท่านั้น(คนไม่ได้จองเนียนขึ้นไม่ได้นะคะ!)

...รอได้ไม่นาน Yufuin no mori ก็เข้าเทียบชานชลา!

พอได้ขึ้นรถไฟ ภารกิจแรกที่ตั้งใจไว้คือวิ่งไปที่โบกี้ขายอาหาร5555555 เก็บท้องไว้กินสุดๆอ่ะ คือสั่งเหมือนกินกันสามคน มีทั้งข้าวกล่อง ครีมโรลของB-Speak แล้วก็Yufuin cider จนพนง.ให้แก้วมาสองใบเลย5555555555(มาคนเดียว แต่ปริมาณของกินเหมือนมาเป็นครอบครัว)

อ่อม...นี่รถยังไม่ออกเลยนะเนี่ย นั่งกินข้าวสะแล้ว

ข้าวกล่องอันนี้ถูกสุดเลยซื้อมา แต่หาได้รู้ไม่ว่ามันไม่มีเนื้อเลย555555555555555 พลาดมาก สุ่มมาแบบไม่ได้อ่านรีวิว ส่วนมากจะเป็นผัก ไข่ แป้ง แต่โดยรวมมันอร่อยทุกอย่างนะ แค่เรากินยากกว่าคนปกตินิดหน่อยเลยรู้สึกฝืนๆนิดๆ สุดท้ายก็หมดอยู่ดี ...ส่วน Yufuin cider ถ้านึกไม่ออกก็รสเหมือนสไปร์ทเลย ซื้อมากินแทนกันได้แถมราคาถูกกว่าด้วย-.- 

...ส่วนเค้ก B-Speak เราเก็บไว้กินที่โรงแรมในBeppu (ก็ปริมาณสามคนกินขนาดนี้ จะไปกินหมดได้ยังไงวะ55555)

พอกินอิ่มแล้วเราก็กลับมานั่งที่ พบว่าวิวตรงนี้ก็สวยไม่แพ้โบกี้ชมวิวเลย พอเริ่มมีชายฝั่งทะเลให้เห็นก็ทำให้รู้ว่าเราเข้าเขต Beppu แล้ว ไม่กี่นาทีรถไฟก็พาเรามาถึงสถานีBeppu เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็นเป็นอันดับหนึ่งของเกาะคิวชู ดูเหมือนรูปปั้นลุงแกหน้าสถานีจะโดนแกล้งด้วยนะ :)