16 กันยายน 2560
วันนี้เป็นอีกวันที่พายุแห่งความทรมานเริ่มพัดพาเข้ามาหาฉัน ฉันเจ็บปวด แต่ยังคงความปกติ ปกปิดมันไว้ราวกับมันไม่เคยมีตัวตน ราวกับมันไม่เคยเกิดขึ้นปล่อยให้มันทับถม ตกตะกอน แและรวมกันไปเรื่อยๆ จนตกผลึกกลายเป็นหิน
ความปวดร้าวโดยสมองสั่งการ ความทรมานโดยไร้ซึ่งความเสียใจ ความหดหู่วิตกกังวลภายในกำลังกัดกร่อนสร้างร่องรอยให้ฉันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นเหมือนรอยร้าวที่รอวันแตกสลาย ซ้ำแล้วซ้ำเล้า ผ่านวันคืนล่วงเลยยาวนานมาเกือบปีที่ฉันอยู่กับมันและเริ่มชินชา แต่ก็อดที่จะทรมานไม่ได้ และถึงแม้ตัวตนของฉัน จิตใจของฉันของฉันจะเต็มไปด้วยรอยร้าว หากแต่ฉันยังคงมองดูมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มองดูรอยร้าวที่คงความงามในตัวเอง
ณ ช่วงเวลานี้ฉันก็เหมือนกับหิน ถ้าคุณเคยรู้กระบวนการการเกิดหินแต่ละชนิดมาบ้างคงพอจะเข้าใจฉัน ฉันกำลังเผชิญทุกสิ่งอย่างที่เข้ามาในชีวิต เผชิญพายุ เผชิญฝนแห่งความเศร้าซึม และค่อยๆ เปลี่ยนตัวเองให้เป็นหิน หินที่ผ่านร้อนหนาว หินที่ผ่านแรงกดดัน หินที่ผ่านการพัดพาไปเรื่อยๆ หินที่เกิดจากการทับถมและกัดกร่อน เพื่อสักวันมันหนึ่งมันแข็งแรงพอที่เป็นหินตามชื่อเรียกของมัน ตามคุณสมบัติของมัน
เพราะหินแต่ละก้อนแต่ละชนิดยังมีความเป็นตัวของมันเอง แข็งแรงในตัวมันเอง มีลวดลายเฉพาะในตัวมันเอง และเปราะบางในรูปแบบของมันเอง ก็เหมือนกัับฉันในเวลานี้ฉันเข้มแข็งหรืออย่างน้อยก็พยายามจะเข้มแข็ง หายป่วยในรูปแบบของฉันเอง ความเจ็บปวดทรมานก็สร้างรอยร้าวจนทำให้ฉันเต็มไปด้วยร่องรอยที่แทบจะแตกสลาย รอเพียงเวลาที่มันจะแตกร้าวสลายหายไปในที่สุด เหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกที่มีเวลาของมัน ทุกอย่างล้วนอนิจจังไม่มีสิ่งใดเป็นนิรันดร์ หรืออย่างน้อยก็อาจจะเป็นแค่ตัวฉันเองที่ไม่เชื่อในนิรันดร์ เพราะฉันคงหมดลมหายใจไปก่อนที่จะรู้จักกับมัน
แต่สิ่งที่ฉันอยากจะบอกคุณคือ " ไม่ว่าความเจ็บปวดทรมานจะสร้างรอยร้าวบาดแผลที่หลงร่องรอยไว้กับคุณมากเพียงใดก็ตาม จงมองมันอย่างก้อนหินที่งดงาม เพราะมันทำให้เราเป็นเรา เป็นเราที่ไม่เหมือนใคร "
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in