11 กันยายน 2560
ฉันกลับเข้ามาบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตของฉันอีกครั้งทั้งที่ฉันตั้งใจว่าจะกลับเข้ามาในนี้หลังสอบมิดเทอมเสร็จ แต่สุดท้ายฉันทนไม่ได้ นี่คือหนทางการระบายออกของฉันในอีกด้านหนึ่ง ฉันซึ่งไม่มีสมาธิไปแล้ว การอ่านไปก็ไม่ช่วยให้ฉันจดจำได้มากขึ้น สู้ฉันกลับมาตั้งสติ ระบายสิ่งที่อัดอั้นไว้ภายในจะดีกว่า อย่างน้อยก้ให้ฉันได้ผ่อนคลายจากการอ่านหนังสือสอบบ้าง
"7 กันยายน 2560" คืออีกหนึ่งวันที่ฉันมีนัดตรวจอาการกับหมอ ฉันซึ่งตอนนี้อาการต้องสงสัยอยู่ระหว่างรอยต่อของโรคซึมเศร้าและไบโพลาร์ ( ฉันภาวนาขอให้ฉันเป็นแค่โรคซึมเศร้าก็เพียงพอแล้ว ) อาการของฉันดูภายนอกไม่เป็นอะไร ดูเหมือนจะดีขึ้นด้วยซ้ำ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ข้างในของฉัันกำลังแย่เหมือนฐานของภูเขาน้ำแข็งที่จมอยู่ใต้ทะเลลึกที่ไม่มีใครได้สัมผัส หมอ พยาบาล และแน่นอนตัวฉันเองรู้ดี เราตกลงนัดกันอีกครั้งทันทีที่ฉันสอบเสร็จ โดยฉันเป็นคนขอนัดหมอเอง
ถ้าถามถึงอาการภายในของฉันที่กำลังแย่น่ะหรือ มันคือการคิดวนเวียน มีความคิดทำร้ายตัวเองเข้ามาตลอดเวลาที่ฉันตื่นนอน ฉันต้องพยายามตั้งสมาธิกับการอ่านหนังสือสอบ จดจำมัน ในขณะเดียวกันก็ต้องประคองความคิดทำร้ายตัวเองให้ ฉันต้องควบคุมมันให้อยู่ แม้แต่ตอนนี้ตอนที่ฉันกำลังบอกเล่าเรื่องราวอยู่ สมองส่วนหนึ่งของฉันยังแสดงภาพการทำร้ายตัวเองด้วยวิธีต่างๆนานา ฉันยังคงคิดวนเวียนอยู่เรื่อยอย่างไม่รู้ที่สิ้นสุด สิ่งเดียวที่ฉันทำได้ในตอนนี้คืออดทนกับมัน
ฉันรู้ว่าตัวอักษรมันไม่สามารถแสดงความรู้สึก อารมณ์ใดๆออกมาได้ มันแห้งแล้งเหมือนชีวิตฉันในตอนนี้ ไร้ซึ่งอารมณ์ ความรู้สึก แต่เปล่าเลยฉันกลับคิดว่า "ถึงแม้ตัวอักษรมันจะแห้งแล้งแต่คนที่พิมพ์มันเขียนมันต่างหากที่ทำให้ตัวอักษรเหล่านี้มีคุณค่า"
เช่นกันยิ่งฉันป่วย ยิ่งสมองของฉันจะทำให้ฉันคิดว่าไร้คุณค่า อยากทำร้ายตัวเอง ไม่อยากที่จะตื่นแต่ก็ไม่อยากตาย ใช่แล้วมันอาจจะดูพิลึก "ไม่อยากตื่นแต่ก็ไม่อยากที่จะตาย" นี่คือสิ่งที่ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าส่วนใหญ่เป็น แน่นอนว่าฉันเองก็หนีไม่พ้นเหมือนกัน แต่ฉันจะพยายามสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง พิสูจน์ตัวเองว่าฉันก็สามารถที่จะหลุดพ้นจากพันธนาการนี้ไปได้ ถ้าฉันไม่ท้อจนทำร้ายตัวเองในช่วงสอบไปเสียก่อนนะ ฉันคงต้องรักตัวเองให้มากกว่านี้ มากพอที่จะเอาตัวรอดจนกว่าจะไปพบหมออีกครั้งหลังสอบล่ะนะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in