เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แดดเผาที่มัลดีฟส์Ekk
การเดินทาง
  • ลมเย็นๆที่พัดพาเอาความเย็นเข้ามากระทบตัว พร้อมกับเสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขอยู่เสมอเมื่อได้เดินทางไปนั่งพักผ่อนที่ทะเล  
    จิตใจที่ร้อนรุ่มจากความเครียดที่ทับถมสะสม จิตใจที่พุ่งพล่านจากความรวดเร็วของการดำเนินชีวิต ความอ่อนล้าจากทั้งเรื่องงานและครอบครัวสามารถทำให้หายไปได้แค่ #ไปนั่งโง่ๆที่ริมทะเล 


    เชื่อว่าหลายๆคนมีจุดหมายปลายทางของการพักผ่อนอยู่ที่ทะเล ไม่ว่าจะเป็นที่ชายหาดหรือที่เกาะใดเกาะหนึ่งในท้องทะเลหรือมหาสมุทรตามรสนิยมทางการท่องเที่ยวของแต่ละคน

    ทะเลเป็นจุดหมายหนึ่งที่ผมนึกขึ้นมาทุกครั้งเมื่อต้องการท่องเที่ยวพักผ่อน เติมพลังงานให้ร่างกายและจิตใจ รวมถึงจิตวิญญาณที่เหนื่อยล้า
    ทุกครั้งที่ได้ไปนั่งริมทะเลปล่อยใจให้ว่างเปล่า งดการติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอกทุกอย่าง  ฟังเสียงลม เสียงใบไม้ปลิวไหว เสียงคลื่นกระทบฝั่ง   ปล่อยใจให้เป็นอิสระจากเรื่องราวต่างๆ ให้จิตวิญญาณได้รับการชำระล้าง ได้รับการรีสตาร์ทใหม่เหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เริ่มดูทำงานช้าๆ เพี้ยนๆ ก็เพียงแค่กดปุ่มรีสตาร์ทให้กลับมาทำงานได้ลื่นไหลตามเดิม เมื่อกลับจากการพักผ่อนริมทะเลเหมือนกับการได้รีสตาร์ทสมอง ได้ชาร์ตพลังงานให้ร่างกาย และได้พักจิตวิญญาณให้พร้อมกลับมาเผชิญโลกที่สับสนวุ่นวายอีกครั้ง
  • ผมเป็นคนที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ชอบได้พบเจอผู้คนที่แปลกหน้า สภาพบ้านเรือน ความเป็นอยู่ วิถีชีวิตที่แตกต่าง 
    การได้ออกเดินทางทำให้มุมมองต่อชีวิตของเรามีมิติที่ทั้งกว้างและลึกยิ่งขึ้น ทุกครั้งเมื่อกลับจากการเดินทางเราจะกลายเป็นเราคนใหม่ คนที่ไม่เหมือนกับคนที่เราเป็นเมื่อก่อนออกเดินทาง

    โชคดีที่เราอยู่ในยุคที่การเดินทางไปท่องเที่ยวตามจุดหมายปลายทางต่างๆ สามารถเป็นไปได้ง่ายๆ ทั้งเรื่องการเดินทาง เรื่องที่พัก เราสามารถจัดการวางแผนการเดินทางได้เองเพียงแค่เปิดแอพพลิเคชั่นยอดนิยมต่างๆ เท่านั้น
    เพราะถ้าหากมองย้อนกลับไปเมื่อ 20-30 ปีที่ผ่านมานั้นการเดินทางโดยเครื่องบินของเด็กชายที่มีชีวิตเจริญเติบโตในครอบครัวชนชั้นกลางมีพ่อแม่เป็นข้าราชการครูธรรมดาๆ แบบผมนั้น ดูจะเป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อมเสียเหลือเกินเมื่อราคาตั๋วเครื่องบินเที่ยวเดียวจากเชียงใหม่ไปกรุงเทพฯ ราคาประมาณ 3-4 พันบาท รวมราคาไปกลับก็น่าจะพอๆกับเงินเดือนข้าราชการครูในยุคนั้น  การเดินทางท่องเที่ยวไกลๆโดยเครื่องบินจึงเป็นเรื่องของผู้มีอันจะกินทั้งหลายเท่านั้น  ในเวลานั้นเด็กชายตัวน้อยๆจึงได้แค่ฝันและ เป็น #หมามองเครื่องบิน เท่านั้น


    เมื่อถึงวันที่สามารถทำงานหาเงินได้เองและการเดินทางด้วยเครื่องบินก็มีราคาโปรโมชันยั่วยวนใจมากมายทั้งศูนย์บาท ทั้งไม่กี่บาท การเดินทางท่องเที่ยวที่ดูจะไกลเกินฝันของเด็กน้อยในวันนั้นกลายเป็นฝันที่เอื้อมถึงในวันนี้  แต่ด้วยความที่รู้ตัวเองดีว่าเป็นคนที่ค่อนข้างจะเข้าข่ายอินดี้พอสมควร  ผมจึงเลือกการท่องเที่ยวด้วยตัวเองแบบ  #เที่ยวไปหลงไปไม่ง้อทัวร์
    การเที่ยวแบบนี้จำเป็นที่จะต้องทำการบ้านด้วยการอ่านหนังสือ การอ่านรีวิว การดูคลิปรีวิวในยูทูป ก่อนการเดินทางอยู่พอสมควร  แต่ต่อให้เตรียมศึกษามาดีขนาดไหนก็ตามก็ต้องมีการหลงทาง มีการงงๆ มีเรื่องเซอร์ไพรส์กับบ้าง  ซึ่งผมว่าตรงนี้แหละเป็นเสน่ห์ของการท่องเที่ยว
    อย่างเช่น ตอนไปเที่ยวภูเขาฟูจิ ผมได้ดื่มด่ำเต็มอิ่มกับการปั่นจักรยานรอบทะเลสาบคาวาคูชิโกะ ไปแวะกินอุด้ง เทมปุระร้อนๆในร้านของคนท้องถิ่น ผ่านป่าที่มารู้ทีหลังว่าเป็นป่าแห่งความตายที่เป็นทำเลยอดนิยมของการฆ่าตัวตายอันดับต้นๆของญี่ปุ่น แถมด้วยขากลับเข้าเมืองดันนั่งรถไฟผิด ไปนั่งรถไฟหวานเย็นเป็นรถไฟท้องถิ่นที่จอดทุกสถานีเล็กสถานีน้อยได้เห็นชีวิตของชาวญี่ปุ่นแบบที่ไม่เคยเห็นในรีวิวไหนๆ

  • การเดินทางที่ผมกำลังจะออกเดินทางไปครั้งนี้เป็นการเดินทางเติมความฝันของผมและอาจเป็นฝันของใครอีกหลายๆคนไปในดินแดนแห่งความโรแมนติก มัลดีฟส์ 


    ที่มัลดีฟส์มีภาพลักษณ์ของดินแดนแห่งความโรแมนติกนั้นก็คงจะมาจากเป็นจุดหมายที่หลายๆคนเดินทางไปเพื่อฮันนีมูน ไปเพื่อพรีเว็ดดิ้ง ไปเพื่อฉลองครบรอบต่างๆนานาๆ
    ภาพของมัลดีฟส์ที่ออกมาให้เราได้เห็นกันคือหมู่เกาะที่มีน้ำทะเลสีฟ้าใส มีหนุ่มสาวไปพักผ่อนบนบ้านพักที่ตั้งอยู่ในทะเล

    มีเพียง หาดทราย สายลม สองเรา


  • มัลดีฟส์ หรือชื่อเต็มคือ สาธารณรัฐมัลดีฟส์ 
    สังเกตมั้ยครับว่ามัลดีฟส์ มี “ส์” ต่อท้าย อาจเพราะชื่อในภาษาอังกฤษเป็น Maldives เนื่องจากมัลดีฟส์เป็นประเทศที่ประกอบขึ้นมาจากเกาะเล็กเกาะน้อยมากมายถึง 1,190 เกาะ ในจำนวนนี้เป็นเกาะที่มีคนอาศัยอยู่จริงเพียง 200 เกาะ และเป็นเกาะที่ให้สัมปทานสร้างรีสอร์ทสำหรับการท่องเที่ยว 74 เกาะ
    ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ใกล้กับประเทศอินเดียและศรีลังกา
    การเดินทางจากประเทศไทยทำได้โดยทางเครื่องบิน มีให้เลือกเดินทางได้หลายสายการบินตามแต่ความสะดวกของนักเดินทางเลยครับ ใช้เวลาบินจากกรุงเทพฯถึงมาเล่ เมืองหลวงของมัลดีฟส์ประมาณสี่ชั่วโมงครึ่ง แค่นั่งพอให้ได้เมื่อยก้นก็ถึงแล้วครับ  ไม่ถือว่าไกลเท่าไหร่


    เมื่อเดินทางจริงแล้วจะเห็นว่ามัลดีฟส์ไม่ได้เป็นจุดหมายของการเดินทางแบบคู่รักเท่านั้นครับ ยังจะเห็นการเดินทางที่ลูกๆวัยทำงานพาพ่อแม่ที่เริ่มจะมีอายุมาเที่ยว มีพ่อแม่ที่พาลูกๆที่ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆมาเที่ยว  มีกลุ่มหนุ่มสาวที่มาเที่ยวด้วยกันเป็นกลุ่ม 4-5 คน  มีชาวยุโรปและอเมริกาที่มาแวะเที่ยวเมืองไทยก่อนต่อไปมัลดีฟส์ และก็แน่นอนว่าเดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะเดินทางไปเที่ยวที่ไหนก็จะต้องเจอกับทัวร์จีนครับ
    ทั้งหมดต้องไปลงเครื่องที่มาเล่ก่อนจะแยกย้ายกันเดินทางไปตามรีสอร์ทที่ได้จองกันมาก่อนเดินทางตามแต่กำลังทรัพย์ของแต่ละคนว่าจะเลือกความหรูหราของรีสอร์ทขนาดไหน

    ไม่ว่ารีสอร์ทแต่ละแห่งจะตกแต่งหรูหราสวยงามแตกต่างกันเพียงใด แต่สิ่งที่นักท่่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือนที่นี่จะได้รับกลับไปคือประสบการณ์ของการได้มาใกล้ชิดธรรมชาติที่หาไม่ได้จากการใช้ชีวิตในเมือง ได้กลับมาให้ธรรมชาติของมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลโอบกอดมนุษย์ตัวเล็กๆอย่างเรา

    เราไม่ได้เป็นเจ้าของสิ่งใดเลย ธรรมชาติต่างหากที่เป็นเจ้าของเรา
    เมื่อเราเคารพธรรมชาติ ธรรมชาติจะมอบรางวัลตอบแทนคืนให้กับเรา

    นี่คือสิ่งที่มัลดีฟส์มอบให้กับนักเดินทาง


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in