เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My Intership Diaryฉัตธิกร โพธิ์ทอง
สัปดาห์ที่ 4: ป่วยกระทันหัน
  • 12 มิ.ย. 2566

    เวลา 07.00-08.30

       วันนี้ผมมาถึงที่โรงเรียนเวลาเดิม เดินมาที่ห้องสมุด จัดระเบียบและทำความสะอาดคร่าวๆ ก่อนที่จะเดินทางไปที่เข้าแถวหน้าเสาธงเช่นเมื่อวาน นักเรียนทุกคนหน้าเสาธงก่อนจะเริ่มการเคารพธงชาติ ระหว่างกิจกรรมมีน้องคนหนึ่งวิ่งออกไปรอบๆ หน้าเสาธง ผมจึงต้องวิ่งตามน้องกลับ โชคดีที่มีคุณครูฝั่งเด็กมัธยมช่วยพาน้องกลับมาที่แถวได้ ก่อนการเข้าแถวหน้าเสาธงจะจบลง ผมพาเด็กๆ อนุบาลเดินกลับห้อง ผมมาประจำการเป็นผู้ช่วยครูอ้อยในการดูแลเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ซึ่งช่วงเช้านั้นก็ยังไม่มีอะไรมากเช่นเดิม

    เวลา 08.30-11.30

        ผมอยู่ที่ห้องเรียนของน้องๆ อนุบาล3 วันนี้ครูอ้อยให้น้องๆ ทำกิจกรรมทั่วไป เช่น ท่องตัวอักษร เต้นออกกำลังกาย แต่วันนี้มีกิจกรรมให้ทำคือ ฟังนิทานครอบครัว ก่อนจะให้น้องๆ วาดภาพครอบครัวของฉันเด็กๆ ดูจะชื่นชอบและตั้งใจทันอย่างสนุกสนาน ต่อด้วยการให้หยิบหนังสือนิทานไปอ่าน และจะให้เด็กๆมาอ่านให้ครูอ้อยฟังทีละคนที่โต๊ะครู ก่อนจะให้ทำการบ้านเป็นการคัดลายมือและจะให้เล่นดินน้ำมันได้หลังทำการบ้านเสร็จเรียบร้อย ส่วนผมก็ทำหน้าที่คอยช่วยงานบางส่วนของครูอ้อยและช่วยคุมเด็กๆ ไปด้วย รวมทั้งสำรวจพฤติกรรมเด็กๆ ไปด้วยว่าพวกเขาแต่ละคนนั้นเป็นแบบไหนเฉกเช่นสัปดาห์ที่แล้ว แต่ช่วงนี้ผมเริ่มจะมีอาการปวดหัวที่เป็นมาตั้งแต่เมื่อคืนวาน ก็เลยทำอะไรได้ไม่ค่อยเต็มที่เท่าไรนัก แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี

    เวลา 11.30-12.30

        เด็กๆ ไปพักกลางวัน กินข้าวกัน ส่วนครูอ้อยก็ให้ผมกลับไปที่ห้องสมุดแล้วไปพักผ่อนในช่วงพักกลางวันเช่นเดิม เพราะงานผู้ช่วยทำแค่ช่วงคาบเช้า ผมตอบตกลงแล้วบอกว่าถ้ามีอะไรให้โทรมาได้เลย ก่อนที่ผมจะกลับมาที่ห้องสมุดเช่นเดิม พักผ่อนและทานข้าวกลางวันจนกระทั่งหมดเวลาช่วงพักกลางวันไป

    เวลา 12.30-15.30

        หลังจากพักกลางวันไปแล้ว ผมก็หาอะไรทำต่อไป ทั้งระเบียบห้องและทำความสะอาดจุดต่าง หรือหาอะไรทำในไอแพตของผมอยู่อย่างนั้น แต่ผมเริ่มมีอาการปวดท้องหนักขึ้นมากกว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผมเลยคิดว่าอาจจะขอลาป่วยในวันถัดไป จนกระทั่งคาบสุดท้าย ผมก็ทำการปิดห้องสมุดให้เรียบร้อยทั้งหมดก่อนจะรีบกลับบ้านและแจ้งเรื่องขอลาป่วยให้กับครูอ้อยได้ทราบก่อน จะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง


    13 มิ.ย. 2566

       วันนี้ผมลาป่วยเนื่องจากอาการปวดท้องเมื่อวานนี้ แต่ว่าวันนี้คุณปู่ของผมต้องเดินทางเข้าตัวเมืองสระบุรีเพื่อไปที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีนัดตรวจเลือดประจำรอบเดือน ผมจึงไปกับท่านและคุณย่าของผมด้วย ซึ่งใช้เวลาไปร่วมค่อนวันกว่าที่จะได้กลับบ้าน เมื่อกลับมาถึง อาการปวดท้องของผมดูเหมือนจะดีขึ้น แต่ดันแทนที่ด้วยอาการไข้ขึ้นมาแทน ผมจึงรีบแจ้งทั้งครูธนชาติและครูอ้อยเอาไว้ก่อนว่าขอลาป่วยอีกวันหนึ่ง


    14 มิ.ย. 2566

       วันนี้ผมลาป่วยเนื่องจากอาการไข้ขึ้นเมื่อวานนี้ วันนี้โชคดีที่ไม่ได้ออกไปข้างนอกเหมือนกับเมื่อวานทำให้มีเวลานอนพักผ่อนมากกว่าเมื่อวาน อาการก็เลยดีขึ้นเรื่อยๆ อาการปวดท้องจากเมื่อวานหายดีแล้วส่วนอาการไข้ก็ดีขึ้นตามมา คิดว่าพรุ่งนี้คงไม่มีปัญหาอะไรแล้ว สามารถไปฝึกงานที่โรงเรียนได้ตามปกติ


    15 มิ.ย. 2566

    เวลา 07.00-08.30

       วันนี้ผมมาถึงที่โรงเรียนเวลาเดิม อาการป่วยดีขึ้นแต่ก็ยังมีอาการอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ผมเตรียมยามาสำรองไว้แล้ว ผมเดินมาที่ห้องสมุด จัดระเบียบและทำความสะอาดคร่าวๆ ก่อนที่จะเดินทางไปที่เข้าแถวหน้าเสาธงเช่นเมื่อวาน นักเรียนทุกคนหน้าเสาธงก่อนจะเริ่มการเคารพธงชาติ ระหว่างกิจกรรมผมกับครูอ้อยได้พูดคุยกันเรื่องของวันพรุ่งนี้ เพราะว่าครูอ้อยจำเป็นต้องไปหาหมอในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ แต่จะมอบหมายให้ผมสั่งการบ้านให้เด็กๆ ทำในห้อง แล้วค่อยปล่อยให้ทำอะไรก็ได้ไปก่อน ผมรับทราบต่องานที่ต้องทำในวันพรุ่งนี้ ก่อนการเข้าแถวหน้าเสาธงจะจบลง ผมพาเด็กๆ อนุบาลเดินกลับห้อง ผมมาประจำการเป็นผู้ช่วยครูอ้อยในการดูแลเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ซึ่งช่วงเช้านั้นก็ยังไม่มีอะไรมากเช่นเดิม

    เวลา 08.30-11.30

        ผมอยู่ที่ห้องเรียนของน้องๆ อนุบาล3 วันนี้ครูอ้อยให้น้องๆ ทำกิจกรรมทั่วไป เช่น ท่องตัวอักษร เต้นออกกำลังกาย แต่วันนี้มีกิจกรรมให้ทำคือ ให้น้องๆ วาดภาพบ้านของตนเองแล้วให้อธิบายว่าใช้ส่วนประกอบอะไรที่ใช้สร้างบ้านบ้าง ก่อนจะให้ทำการบ้านเป็นการคัดลายมือและจะให้เล่นดินน้ำมันได้หลังทำการบ้านเสร็จเรียบร้อย ส่วนผมก็ทำหน้าที่คอยช่วยงานบางส่วนของครูอ้อยและช่วยคุมเด็กๆ ไปด้วย รวมทั้งสำรวจพฤติกรรมเด็กๆ ไปด้วยว่าพวกเขาแต่ละคนนั้นเป็นแบบไหนเช่นเดิม

    เวลา 11.30-12.30

        เด็กๆ ไปพักกลางวัน กินข้าวกัน ส่วนครูอ้อยก็ให้ผมกลับไปที่ห้องสมุดแล้วไปพักผ่อนในช่วงพักกลางวันเช่นเดิม เพราะงานผู้ช่วยทำแค่ช่วงคาบเช้า ผมตอบตกลงแล้วบอกว่าถ้ามีอะไรให้โทรมาได้เลย ก่อนที่ผมจะกลับมาที่ห้องสมุดเช่นเดิม พักผ่อนและทานข้าวกลางวันจนกระทั่งหมดเวลาช่วงพักกลางวันไป

    เวลา 12.30-15.30

        หลังจากพักกลางวันไปแล้ว ผมก็หาอะไรทำต่อไป ทั้งระเบียบห้องและทำความสะอาดจุดต่าง หรือหาอะไรทำในไอแพตของผมอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งคาบสุดท้าย ผมก็ทำการปิดห้องสมุดให้เรียบร้อยทั้งหมดก่อนจะกลับบ้าน


    16 มิ.ย. 2566

    เวลา 07.00-08.30

       วันนี้ผมมาถึงที่โรงเรียนเวลาเดิม เดินมาที่ห้องสมุดเช่นเดิม จัดระเบียบและทำความสะอาดคร่าวๆ ก่อนที่จะเดินทางไปที่เข้าแถวหน้าเสาธงเช่นเมื่อวาน นักเรียนทุกคนหน้าเสาธงก่อนจะเริ่มการเคารพธงชาติระหว่างกิจกรรมผมก็เช็คระเบียบแถวของน้องๆ อนุบาล3ในระหว่างกิจกรรมเข้าแถวหน้าเสาธงเช่นเดิมก่อนการเข้าแถวหน้าเสาธงจะจบลง ผมพาเด็กๆ อนุบาลเดินกลับห้อง ผมมาประจำการเป็นผู้ช่วยครูอ้อยในการดูแลเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3

    เวลา 08.30-11.30

        ผมอยู่ที่ห้องเรียนของน้องๆ อนุบาล3 วันนี้ครูอ้อยไม่อยู่ ผมจึงให้น้องๆ ทำกิจกรรมทั่วไป เช่น ท่องตัวอักษร เต้นออกกำลังกาย แต่วันนี้มีกิจกรรมให้ทำคือ ให้น้องๆ ระบายสีและโยงเส้นจับคู่ตามงานที่ครูอ้อยทำให้ทิ้งไว้สำหรับน้องๆ ก่อนจะให้น้องๆ เล่นดินน้ำมันกับดูภาพยนตร์ไปด้วย และแน่นอนว่าผมก็ทำหน้าที่คอยสำรวจพฤติกรรมเด็กๆ ไปด้วยว่าพวกเขาแต่ละคนนั้นเป็นแบบไหนเช่นเดิม

    เวลา 11.30-12.30

        เด็กๆ ไปพักกลางวัน กินข้าวกัน ส่วนครูอ้อยก็กลับมาพอดี และให้ผมกลับไปที่ห้องสมุดแล้วไปพักผ่อนในช่วงพักกลางวันเช่นเดิม เพราะงานผู้ช่วยทำแค่ช่วงคาบเช้า ผมตอบตกลงแล้วบอกว่าถ้ามีอะไรให้โทรมาได้เลย ก่อนที่ผมจะกลับมาที่ห้องสมุดเช่นเดิม พักผ่อนและทานข้าวกลางวันจนกระทั่งหมดเวลาช่วงพักกลางวันไป

    เวลา 12.30-15.30

        หลังจากพักกลางวันไปแล้ว ผมจัดระเบียบต่างๆ และทำความสะอาดรอบๆ ห้องสมุด แล้วก็มานั่งเขียนไดอารี่ต่อ จนกระทั่งปิดห้องสมุดและเดินทางไปที่หน้าเสาธง เพราะวันนี้จะมีการสวดมนต์ประจำสัปดาห์ก่อนกลับบ้านของเด็กนักเรียนทุกคน แน่นอนว่าทุกอย่างก็ดำเนินไปด้วยดี ก่อนที่เด็กๆ และผมจะกลับบ้าน

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in