ตอนต้น ป.4 เทอมสอง มีคณะคุณหมอจากกระทรวงสาธารณสุขมาสำรวจข้อมูลนักเรียนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานหรือมีแนวโน้มจะน้ำหนักเกินมาตรฐานในโรงเรียนของผม
ผมเป็นหนึ่งในตัวแทนของเด็ก ป.4 ที่ถูกส่งตัวไปพบคุณหมอ
เมื่อไปถึงคุณหมอก็ลงมือวัดส่วนสูง-ชั่งน้ำหนักของบรรดาตัวแทน ป.4 ที่มีอยู่ประมาณ 4-5 ราย
พอลงมือวัดขนาดร่างกายของพวกเราครบทุกคน คุณหมอผู้ชายใส่แว่นหนาเตอะ ก็เอ่ยชมและให้คำแนะนำผมว่า
"เธอนี่ตัวสูงที่สุดในกลุ่มเลยนะ สูงตั้ง 145 ถือว่าตัวโตมาก ส่วนน้ำหนัก 47 กิโลกรัม ถือว่ายังไม่เกินเกณฑ์เยอะนัก คือถ้าสูง 145 หนัก 45 นี่ถือว่าโอเค แต่พอหนัก 47 ถ้าอยากสมาร์ตก็ต้องสูงซัก 147"
หลังให้คำแนะนำรายบุคคลเสร็จ คุณหมอก็บรรยายเรื่องหลักโภชนาการและอาหารห้าหมู่ให้พวกเราทราบอีกเล็กน้อย ระหว่างนั่งฟังการบรรยายแบบไม่ค่อยตั้งใจ เพื่อนผู้หญิงชื่อ "น้ำแข็ง" ที่มีส่วนสูง 142 ซม. แต่หนัก 47 กก. เท่าผม ได้แอบชื่นชมผมเบาๆ ว่า
"นายนี่ตัวสูงดีนะ น้ำหนักเท่าชั้น แต่สูงกว่าชั้นตั้ง 3 เซนฯ ยอมรับเลยว่าเจ๋งจริง"
ผมได้แต่ส่งยิ้มให้น้ำแข็งแทนคำตอบใดๆ
---
ผมเริ่มต้นสัปดาห์แรกของการเป็นนักเรียนชั้น ป.6 ด้วยอาการเสียขวัญและหวาดผวา!
ที่เสียขวัญ ก็เป็นเพราะเมื่อไปวัดส่วนสูงครั้งแรกประจำปีการศึกษาในชั่วโมงพละ ผมพบว่าตนเองยังคงสูง 151.5 ซม. เช่นเดิม เหมือนกับเมื่อตอนปลาย ป.5 เทอมสอง หรือเมื่อสามเดือนก่อนแบบเป๊ะๆ
ผมขอให้ครูพลศึกษาวัดส่วนสูงของตัวเองซ้ำใหม่ถึง 3 รอบ แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาเท่าเดิม
เหตุเสียขวัญเพราะตนเองตัวไม่สูงขึ้นเลย ถูกกระหน่ำซ้ำเติมด้วยภาวะหวาดผวาเมื่อเห็นพัฒนาการส่วนสูงของเพื่อนคนอื่นๆ โดยเฉพาะบรรดาเพื่อนผู้หญิง
นั่นคือปีแรก ที่ผมเริ่มตั้งคำถามในใจว่า "นี่เรากำลังจะกลายเป็นคนเตี้ยหรือเปล่า?"
---
ตอน ป.6 โรงเรียนจะจัดแบ่งห้องเรียนออกเป็น 3 ห้อง ห้องหนึ่งๆ มีนักเรียนราว 30 คน
เมื่อแรกทราบข่าวว่าตัวผมเองต้องเรียนที่ห้อง 6/1 ร่วมกับโย แป้ง แอน ผมก็ทำใจล่วงหน้าได้ว่าตนเองจะต้องเตี้ยกว่าสามสาวแน่ๆ และคงเป็นแค่เพียงคนตัวสูงอันดับสี่ของห้อง
แต่พอเปิดเทอมแรกขึ้นมาจริงๆ ผมกลับพบเรื่องเซอร์ไพรส์หนักกว่านั้น
ขอเริ่มจากเรื่องไม่เซอร์ไพรส์ก่อน คือ โย แป้ง และแอน เป็นนักเรียนที่สูงที่สุดสามคนแรกของห้องตามคาด ยิ่งพอส่วนสูงของผมแน่นิ่งอยู่กับที่ พวกเธอก็ยิ่งนำห่างผมไปไกลสุดกู่
โยเป็นเด็กคนแรกของรุ่นที่สูง 160 ซม. ตัวสูงกว่าผมถึง 8.5 ซม.
ส่วนแป้งมีความสูง 157 ซม. สูงกว่าผม 5.5 ซม. และแอนสูง 156.5 ซม. สูงกว่าผม 5 ซม.
แล้วก็มาถึงเรื่องเซอร์ไพรส์ เมื่อจู่ๆ ก็มีเพื่อนผู้หญิงอีกสองคนที่ตัวสูงแซงหน้าผมไป
คนแรกคือน้ำแข็งที่เคยตัวเล็กกว่าผม 3 ซม. สมัย ป.4 แต่พอถึงต้น ป.6 เธอกลับมีส่วนสูง 153 ซม. ออกนำผมไป 2 ซม.
อีกคนคือเพื่อนชื่อ "อึ่ง" ที่ไม่เคยมีประวัติตัวสูงโดดเด่นมาก่อน แต่พอรู้ตัวอีกที อึ่งก็มีความสูง 152 ซม. เฉือนชนะผมไปครึ่งเซนติเมตร
เพื่อนสองรายที่ล้อเลียนผมหนักมาก ก็ได้แก่ แป้งและแอนที่เคยมีส่วนสูงสูสีกับผมช่วง ป.3 เทอมสอง
เวลาเข้าแถวเคารพธงชาติตอนเช้า สองสาวโย่งจะชอบแสร้งพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวด้วยเสียงอันดังฟังชัด เพื่อให้ผมที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กันได้ยิน
"แกๆ ผู้ชายที่สูงที่สุดในห้องเรานี่สูงเท่าไหร่นะ?" แอนถามแป้ง
"ได้ข่าวว่าเกิน 150 มาหน่อยเดียวเองนะ" แป้งตอบ
"เฮ้ย แต่ตอนเด็กๆ หมอนี่เคยสูงเท่าๆ พวกเราไม่ใช่เหรอ? ชั้นจำได้ว่าเค้าเคยสูงกว่าชั้นด้วย" แอนขยี้
"เนอะ ทำไมถึงไม่มีพัฒนาการก็ไม่รู้ เดี๋ยวนี้ เตี้ยกว่าพวกเราตั้ง 5-6 เซนฯ" แป้งซ้ำ
"แล้วดูสิ พอเค้าต้องไปยืนเข้าแถวคู่กับโยนี่ดูไม่จืดเลย หัวแถวผู้หญิงสูงกว่าหัวแถวผู้ชายเกือบ 10 เซนฯ" แอนพูดจาจี้ใจดำผมอย่างถูกจุด
"ที่ตลกคือถ้าหัวแถวผู้ชายต้องมาเข้าแถวผู้หญิง เค้าต้องไปยืนเป็นคนที่หกเลยนะ เพราะตอนนี้ เค้าเตี้ยกว่าน้ำแข็งกับอึ่งแล้ว" แป้งจี้ใจดำจุดที่สองของผมเข้าอย่างจัง
อีกด้านหนึ่ง แม้จะเป็นอย่างที่แอนบอกว่าผมยังเป็นหัวแถวนักเรียนชายของห้อง 6/1 อยู่ แต่เพื่อนๆ ที่ยืนอยู่ในลำดับถัดไปก็ไม่ได้เตี้ยกว่าผมขาดลอยเหมือนเมื่อปีก่อนๆ
เช่น "พงศ์" และ "อ่ำ" คนยืนอันดับสองและสามในแถว ที่มีส่วนสูง 150.5 ซม. เตี้ยกว่าผมแค่ 1 ซม.
---
ห้องเพื่อนบ้านอย่าง ป.6/2 ก็มีเพื่อนผู้หญิงที่ตัวสูงกว่าผมอีกห้าคน
คนแรกคือพิมพ์ เพื่อนเก่าแก่ที่เคยตัวเล็กกว่าผมช่วง ป.1-ป.3 ซึ่งโตวันโตคืน จนมีส่วนสูง 157 ซม. เข้าให้แล้ว
"นี่ชั้นสูงเกินไปหรือนายเตี้ยเกินแกงเนี่ย?" พิมพ์เอ่ยทักทายในวันแรกที่เรากลับมาเจอหน้ากันตอน ป.6
คนถัดมาคือหมวยที่สูง 156 ซม.
ผมได้ยินมาว่าหมวยยอมรับไม่ได้ที่เธอตัวเตี้ยกว่าพิมพ์ 1 ซม. เพราะสมัย ป.1-ป.4 หมวยเคยตัวสูงกว่าพิมพ์ นอกจากนั้น หมวยยังเป็นนักวิ่งทีมโรงเรียนที่ไม่เชื่อว่าเชียร์ลีดเดอร์อย่างพิมพ์จะมีส่วนสูงมากกว่านักกีฬาเช่นเธอ
คนที่สามคือเพื่อนเก่าสมัย ป.4-ป.5 ของผมอย่างแจน ที่สูง 153 ซม. ตัวโตกว่าผมชัดเจนขึ้นไปอีก
คนที่สี่และห้าเป็นเพื่อนผู้หญิงหน้าใหม่สองรายที่เพิ่งมาสูงกว่าผมตอน ป.6 พวกเธอมีชื่อว่า "เอ้" และ "นุ่น" โดยทั้งคู่ต่างสูง 153 ซม. เท่ากับแจน
เอ้เป็นเพื่อนอีกคนที่เคยต้องไปพบคณะแพทย์ร่วมกับผมและน้ำแข็งช่วง ป.4 ในฐานะเด็กที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน เธอเป็นเด็กหญิงรูปร่างค่อนข้างสูงใหญ่มาตั้งแต่เล็กๆ แต่ที่ผ่านมา เอ้จะมีส่วนสูงตามหลังผมในระดับ 3-5 ซม. อย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งเธอมาพลิกขึ้นนำผมในการเรียนชั้นประถมปีสุดท้าย
กรณีของนุ่นคือเคสที่แปลกมาก เพราะ 5 ปีแรกของการเรียนชั้นประถม เธอเป็นเด็กหญิงหน้าสวยคมผิวเข้มที่มีรูปร่างปานกลางค่อนข้างเล็กมาโดยตลอด แต่จู่ๆ เธอก็มาสูงขึ้นเยอะจนแซงผมไปอย่างน่าประหลาดใจ กระทั่งเธอเองยังเดินเข้ามาถามผมแบบงงๆ ว่า "ทำไมปีนี้ นายเตี้ยกว่าชั้นแล้วล่ะ?"
ห้อง 6/2 ยังมีเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าจับตา ประกอบไปด้วยเพื่อนผู้หญิงชื่อ "กุ้ง" กับ "อร" และเพื่อนผู้ชายชื่อ "บัง" กับ "ศักดิ์" ที่สูงในระดับ 150-151 ซม. หรือตัวเกือบเท่าผม ทั้งที่ในปีก่อนๆ พวกเธอและเขายังตัวเล็กกว่าผมแบบขาดลอย
---
ห้องที่มีคนสูงกว่าผมไม่เยอะ คือ ห้อง 6/3
คนตัวสูงที่สุดในห้องนี้และเป็นคนเดียวที่สูงกว่าผมในช่วงเทอมแรก คือ ปอ
แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนผู้หญิงร่างโย่งคนอื่นๆ ส่วนสูง 155 ซม. ของปอ กลับเป็นรองหมวย แอน พิมพ์ แป้ง และโย อยู่พอสมควร
อย่างไรก็ดี กลับมีเพื่อนๆ ห้องนี้ถึงสามคนที่ตัวสูงไล่เลี่ยกับผม
เริ่มจาก "เบิ้ล" เพื่อนผู้ชายที่ยืนเข้าแถวถัดจากผมมาตลอดตั้งแต่ช่วง ป.1-ป.5 โดยสมัย ป.3 เบิ้ลยังสูงแค่ระดับสายตาผมเท่านั้น ส่วนตอน ป.5 เขาก็ยังเตี้ยกว่าผม 3 ซม. แต่พอเปิดเรียน ป.6 เบิ้ลกลับตัวเล็กกว่าผมแค่ 1 ซม.
เพื่อนผู้ชายห้องทับสามอีกคนที่เตี้ยกว่าผมแค่ 1 ซม. คือ "โปรด" ซึ่งตัวสูงขึ้นถึง 6-7 ซม. ในช่วงปิดเทอมใหญ่ที่ผ่านมา
ที่รบกวนจิตใจผมไม่น้อย ก็คือ เพื่อนผู้หญิงร่างผอมบางชื่อ "เก๋"
เก๋เคยเรียนหนังสือห้องเดียวกับผมช่วง ป.4-ป.5 แต่ระหว่างสองปีนั้น เธอจะยังตัวเล็กกว่าปอ ผม และแจน แบบชัดเจน
จนตอนปลาย ป.5 เทอมสอง ที่ผมสูง 151.5 ซม. เก๋ก็ยังมีส่วนสูงราวๆ 148-149 ซม.
แล้วพอเริ่มเรียน ป.6 เก๋ก็มีส่วนสูง 151.5 ซม. เท่าผมที่ตัวไม่โตขึ้นเลยแม้เพียงครึ่งเซนติเมตร
อาจพอสรุปความได้ว่า สมัย ป.6 สถานภาพความเป็นคนตัวสูงประจำรุ่นของผมกำลังถูกสั่นคลอนอย่างหนักหน่วง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in