คุณรู้ไหมครับว่าสัตว์ประหลาดมีอยู่จริง? อยู่ที่ไหนหรอครับ
พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในที่มืดๆเช่นใต้เตียงผม ใต้บันไดบ้านผมครับ
ผมจะตกใจกลัวพวกเขาอยู่บ่อยๆต้องคอยเรียกแม่กับพ่อมาช่วยอยู่เสมอ
พอพวกเขามาถึงพวกเขากลับหัวเราะบอกว่ามันไม่มีอะไร แต่สัตว์ประหลาดพวกนั้นอยู่ตรงนั้นไงครับ
พวกเขาไม่เห็นหรอ
แต่ในวันนี้ผมกลับมาแอบอยู่ใต้บันไดบ้านทั้งๆที่ผมรู้ว่ามีสัตว์ประหลาดอยู่ในนั้น
ทำไมเหรอครับ? ก็เพราะว่าวันนี้มีสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าสัตว์ประหลาดอยู่ข้างนอกนั่นไงครับ
พ่อกับแม่ของผมเอง พวกเขาตะโกนใส่กัน ปาข้าวของไปมา แล้วพูดจาคำที่ไม่ดีใส่กัน
และนั่นทำให้ผมกลัว กลัวยิ่งกว่าอะไรในโลกนี้อีก ผมพยายามเข้าไปหาพ่อ
ชวนพ่อเล่นให้พ่ออารมณ์ดี แต่นั่นกลับทำให้พ่อผมหันมาตวาดใส่ผมแล้วไล่ผมไปไกลๆ
แม่เองก็ตวาดใส่พ่อทันที บอกพ่อว่าอย่าไปพาลใส่ลูกนะ แต่แม่เองก็น่ากลัว ผมร้องไห้
ร้องไห้ แล้วก็ร้องอีก แต่วันนี้กลับไม่มีใครมาปลอบผม
ไม่มีใครมาหัวเราะแล้วบอกว่ามันไม่มีอะไร ไม่มีใครคอยอยู่ข้างผมแล้ว
พวกเขาไม่รักผมแล้วหรอครับ
แต่ในตอนนั้นก็มีมือคู่หนึ่งมากอดผมไว้จากด้านหลัง
แล้วก็มีอีกคู่หนึ่งกอดมาจากข้างหลังเช่นกัน เธอคือสัตว์ประหลาดที่ผมเคยเห็นครับ
ผู้หญิง ที่มีแขน 4 แขนและขา 4 ขาเธอมีดวงตาดำสนิททั้งดวง ผม... ขน...
ของเธอเต็มตัวไปหมดเธอกอดผมไว้ โดยไม่พูดอะไร ผมจึงร้องไห้
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความกลัวหรือความเสียใจ ผมจึงเผลอหลับไป
เมื่อผมตื่นขึ้นผมอยู่ในที่ๆหนึ่งที่มืด ไม่ใช่มืดแต่ทุกอย่างเป็นสีดำไปหมดทั้งท้องฟ้า
พื้นดิน ทุกสิ่งเป็นสีดำไปหมด ยกเว้นพื้นที่ผมนอนอยู่ ผมนอนอยู่บนเสื่อสีขาว สัมผัสที่ผมรู้สึกนั้นนิ่มมาก
และในที่นั้นเองผมได้พบกับสัตว์ประหลาดตัวอื่นๆ
เด็กชายตัวเล็กในชุดนอนที่ไม่มีหน้า ผู้ชายตัวสูงที่ไม่มีผมและมีดวงตาอยู่ในปาก พวกเขาใจดีมากและคอยชวนผมเล่นพร้อมทั้งดูแลผมอยู่เรื่อยๆ
ผู้หญิงที่มี4แขนเองก็อยู่ที่นั่นพวกเขาทุกคนไม่มีชื่อและไม่เคยต้องการ
พวกเขามีวิธีการมองโลกที่แตกต่างไปจากพ่อกับแม่ผม เรียบง่ายมากกว่ามนุษย์มาก
พวกเขาพูดถึงครั้งหนึ่งที่มนุษย์เองก็เป็นเหมือนพวกเขา
ในยุคหนึ่งที่มนุษย์ยังอยู่ในสวนสีดำอันสงบนี้
ผมอยากรู้ ผมอยากเข้าใจพวกเขา
พวกเขาดูมีความสุขไม่ต้องคอยหวาดกลัว ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องสนใจอะไร
ผมบอกพวกเขาว่าผมอยากเป็นเหมือนพวกเขา
พวกเขาจึงพาผมไปหาสัตว์ประหลาดที่จะช่วยให้ผมเข้าใจได้ ผมเดินผ่านผืนป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้สีดำไร้ใบ
ที่ออกผลมาเป็นตะเกียงสีขาวนวล ภายใต้ดวงจันทร์ดวงใหญ่
เมื่อผมพบพวกเขา
ผมรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ของพวกเขา คนที่จะช่วยให้ผมเข้าใจ งูที่มีขนาดใหญ่ราวกับภูเขา
เขาดึงผมเข้าไปแล้วมอบความรู้ให้ผม และในวินาทีนั้น ผมเข้าใจทุกอย่าง
มันไม่มีอยู่จริง ความร้อนและความหนาว
แสงสว่างและความมืด ความดีและความชั่ว ผู้ชายและผู้หญิง มนุษย์และสัตว์
ชีวิตและความตาย ทุกสิ่งที่มนุษย์เชื่อล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมต่อมนุษย์
ไฟแห่งสวรรค์ ผลไม้แห่งความรู้ มีหลายเรื่องราวที่พูดถึงที่มาของความเชื่อนี้
แต่ผมได้เห็นแล้วถึงเส้นทางที่จะหยุดการต่อสู้
เส้นทางที่เราจะไม่ต้องโดดเดี่ยวอีกต่อไป การเริ่มต้นใหม่ของจักรวาล ความจริง
ความเที่ยงธรรม เส้นทาง...เส้นทางสู่การเป็นหนึ่งเดียว
จากนั้นดวงจันทร์ ผลไม้ ทุกสิ่งที่มอบแสงขาวนวลก็ดับไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in