“อย่ากินเยอะดิอ้วน”
“ในปากยังเคี้ยวไม่หมดเลย หยิบอันใหม่มากินอีกแล้วหรออ้วน”
“พักบ้างดิ เคี้ยวจนกรามจะค้างแล้วอ้วน”
สารพัดคำค่อนขอดจากจูฮอนที่พูดออกมาระหว่างทางที่กำลังเดินไปเรื่อยเปื่อยในห้างกับชางกยุน คนตัวเล็กกำลังง่วนอยู่กับการหยิบช็อคโกแลตสติ๊กขึ้นมาแกะออกจากถุงหลังจากที่ยัดชูครีมอันเท่ากำปั้นเข้าปากไปจนหมดแล้ว ซึ่งจริง ๆ แล้วทุกครั้งไม่ว่าชางกยุนจะหยิบอะไรขึ้นมากิน จูฮอนก็มักจะแซวเล่นแหย่ชางกยุนอยู่เสมอ แรก ๆ คนตัวเล็กก็ขำ ๆ อยู่หรอกนะ แต่หลัง ๆ มานี่ไอ้พี่ตัวดีชักจะเหิมเกริมขึ้นไปทุกทีแล้ว คำก็อ้วน สองคำก็อ้วน ทำไม? อ้วนแล้วไปทำให้พี่มึงตาตี่ขึ้นหรอวะ?
“หุบปากไปเลย กวนตีนแต่เช้าเลยพี่แม่ง”
คนตัวเล็กหันขวับไปมองค้อนใส่คนข้าง ๆ หนึ่งที รู้สึกหมั่นไส้ทุกครั้งที่มองหน้าจริง ๆ วัน ๆ ไม่เห็นทำไรอะนอกจากยิ้มตาเป็นขีดอยู่อย่างเดียว แถมตอนที่มาด่าตัวเขาว่าอ้วน ๆ ๆ ๆ หน้าแม่งก็ยิ้มระรื่นชิบ เห็นแล้วนี่เท้ากระตุกเลย
“โอ๋ ๆ อ้วนงอนแล้วอะ ไม่เอาน่าอ้วน ไม่งอนพี่นะคร้าบบบบบ”
จูฮอนพูดพลางยกมือขึ้นไปดึงแก้มชางกยุนที่กำลังเคี้ยวขนมปังตุ้ย ๆ จนแก้มป่อง สองมือของจูฮอนดึงแก้มทั้งสองข้างของชางกยุนโยกไปมาจนคนตัวเล็กทนไม่ไหวปัดมือออก
“ผมอ้วนแล้วมันไปหนักหัวพี่รึไงเล่า”
ชางกยุนพูดเสียงดังด้วยความโมโหก่อนจะหันหน้าหนีแล้วรีบเดินไปข้างหน้าอย่างไว จูฮอนมองตามคนตัวเล็กที่เดินจ้ำเอา ๆ ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ กับตัวเองแล้วรีบวิ่งขึ้นไปหาชางกยุน
“ก็ไม่ได้หนักหัวอะไรหรอก ก็น่ารักดี”
พูดจบก็เอานิ้วมาจิ้ม ๆ ที่แก้มของคนตัวเล็กก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นขยี้กลุ่มผมสีน้ำตาลนั่นเบา ๆ และเลื่อนมือไปคล้องคอชางกยุนแล้วออกตัวเดินไปพร้อม ๆ กัน
ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการเดินช้อปปิ้ง เอ่อ ถ้าจะให้พูดให้ถูกก็คงเป็นชางกยุนคนเดียวนั่นแหละที่เพลิดเพลิน จูฮอนได้แต่เดินตามต้อย ๆ เพราะคนตัวเล็กวิ่งเข้าร้านนู้น เดินออกร้านนี้มาร่วม ๆ 3 ชั่วโมงได้ คนที่ลำบากที่สุดนี่ก็คงจะเป็นจูฮอนนี่แหละที่ต้องคอยถือถุงข้าวของที่คนตัวเล็กซื้อมา
“ทำหน้าเป็นตูดเลย ให้ช่วยถือแค่นิดหน่อยเอง”
ชางกยุนบ่นหลังจากที่ยื่นถุงกระดาษสีน้ำตาลใบสุดท้ายของวันนี้ให้จูฮอน แต่ก็เพิ่งจะเห็นว่าพี่เขาไม่มีนิ้วจะเกี่ยวถุงเพิ่มแล้วนั่นแหละถึงได้เงยหน้าขึ้นไปมองแล้วพบว่าคนตาตี่กำลังทำหน้างอน ๆ
“ซื้อไรเยอะแยะอะอ้วน ให้พี่ถือคนเดียวแล้วอ้วนเดินตัวปลิวแบบนี้ได้ไง”
จูฮอนบนกระปอดกระแปดแต่ก็พยายามยกมือที่เต็มไปด้วยถุงพาสติกและถุงกระดาษของร้านรวงต่าง ๆ ไปรับถุงกระดาษใบสุดท้ายของคนตรงหน้า
“ก็เนี่ย พรุ่งนี้คริสต์มาสแล้ว ต้องตกแต่งห้องกับต้นคริสต์มาสกันหน่อยสิ”
“มันมีอะไรให้ตกแต่งนักหนาอะต้นคริสต์มาส ทำไมซื้อเยอะขนาดนี้ล่ะ”
“ก็แหม ไหนจะกล่องของขวัญ ถุงเท้าสวย ๆ ไฟประดับ ของตกแต่งนู่นนี่ นี่มีพวกของสดไปทำมื้อเย็นกับของที่เอาไว้ทำขนมด้วยนะ มันก็ต้องเยอะแบบนี้แหละ”
ชางกยุนไล่ชี้นิ้วไปตามถุงแต่ละถุงพร้อมอธิบายว่าอะไรเป็นอะไร เว้นเสียแต่ถุงพลาสติกซีลทึบสีดำใบหนึ่งที่ดูจะใหญ่แหละหนากว่าถุงอื่น ๆ เป็นพิเศษ
“แล้วนี่ถุงอะไรอะ ทำไมมันหนักจัง”
คนถือของกระดิกนิ้วที่เกี่ยวถุงสีดำใบนั้นขึ้นมาเป็นเชิงถามคนตัวเล็ก ชางกยุนอมยิ้มเล็กน้อย
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้เองแหละ คึคึ”
คนตัวเล็กทำท่าขำ จูฮอนนึกอยากจะยกมือขึ้นไปดีดเหม่งชางกยุนซะเหลือเกิน ถ้าไม่ติดว่าหิ้วถุงอยู่เต็มมือทั้งสองข้างน่ะ
ปีนี้เป็นคริสต์มาสปีที่ 3 แล้วที่ทั้งคู่ได้อยู่ฉลองด้วยกัน และทุกครั้งก็จะเป็นชางกยุนนี่แหละที่คอยจัดห้องและทำอาหารเตรียมรอไว้ฉลองกับเขาหลังจากที่เขากลับมาจากทำงานที่สตูดิโอ และในวันพรุ่งนี้ก็เช่นกัน เพราะงั้นวันนี้เขาถึงได้พาคนตัวเล็กออกมาซื้อของเตรียมไว้สำหรับพรุ่งนี้
“พี่จูฮอน ผมอยากดูหนังอะ”
ชางกยุนพูดขึ้นหลังจากที่อยู่บนรถเรียบร้อยแล้ว
“อ้าว แล้วทำไมไม่บอกก่อน ขึ้นรถจนจะขับกลับบ้านอยู่แล้วเนี่ยเพิ่งมาอยากดูตอนนี้หรอ”
“ไม่ใช่ดูในโรงสิ ดูที่บ้าน วันก่อนซื้อหนังมาเรื่องหนึ่ง อยากดูมาก ๆ แต่ว่ายังไม่มีเวลาดูเลย”
“อ่า ก็เอาสิ กลับไปก็ดูด้วยกันก็ได้ ว่าแต่ซื้อเรื่องอะไรมาล่ะ”
“IT”
“อะ…อะไรนะ...”
“IT ไง ที่เป็นตัวตลกอะ หนังตลก คลายเครียด คึคึ”
ชางกยุนหันไปเห็นสีหน้าของจูฮอนแล้วก็ได้แต่ขำ เพราะตอนนี้คนที่กำลังขับรถอยู่หน้างี้ซีดเป็นกระดาษเลย แต่กะจะแกล้งสักหน่อย เห็นปกติไม่ชอบอะไรน่ากลัวก็นึกว่าจะไม่รู้ซะอีกว่าเรื่องนี้เรื่องเกี่ยวกับอะไร แต่เห็นหน้าซีด ๆ แบบนี้ก็คงจะรู้หมดแล้วล่ะมั้ง
“ทำไมต้องดูหนังผีด้วยอ้ะ” จูฮอนโวยวาย มันไม่ใช่ว่าเขากลัวผีนะ เขาแค่ไม่ชอบเวลาตัวเองตกใจเฉย ๆ พอตกใจทีสติก็แทบไม่อยู่กับตัว กว่าจะเรียกสติกลับคืนมาได้ก็ต้องใช้เวลาอยู่นานพอสมควร
“แต่หนูอยากดูนี่นา น้าาาาา พี่จูฮอนดูกับหนูนะ”
คนตัวเล็กรีบอ้อนทันที ชางกยุนเอื้อมมือไปคล้องแขนจูฮอนที่กำลังขับรถอยู่และโน้มตัวลงไปเอาหัวกลมถูไถกับไหล่ของร่างสูงเบา ๆ
“ไม่ต้องมาอ้อนเลย พี่ไม่หลงกลเราหรอกนะอ้วน”
จูฮอนยักไหล่ไปมาใส่หัวของชางกยุนที่ซบอยู่ คนตัวเล็กมีสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยพร้อมกับปล่อยแขนจูฮอนและหันกลับมานั่งตัวตรงกอดอก ที่ไม่พอใจไม่ใช่เพราะว่าร่างสูงไม่หลงกลมุกอ้อนหรอกนะ แต่ไม่พอใจตรงที่เรียกกันว่าอ้วนนี่แหละ
“เออ! คำก็อ้วน! สองคำก็อ้วน! จำไว้เลย!”
“อะ ๆ โอเค ไม่เรียกอ้วนแล้วครับ ถ้าหนูอยากดูพี่ดูด้วยก็ได้ แต่ต้องสัญญาก่อนว่าจะนั่งอยู่ข้าง ๆ พี่ไม่ลุกไปไหน ได้มั้ยครับ?”
จูฮอนพูดเสียงหวานก่อนจะหันไปมองเจ้าตัวดื้อที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ที่ทำหน้าดีใจเป็นลูกหมาได้ของเล่น
“เย้! หนูรักพี่จูฮอนที่สุดเล้ย!”
“ทำไงก่อน”
คนตัวสูงกว่าตีหน้านิ่งก่อนจะเอานิ้วจิ้มไปที่แก้มตัวเอง บอกใบ้เป็นนัย ๆ
“อะไรเล่า”
คนตัวเล็กเอียงคอถามพร้อมกับรอยยิ้มเขิน ๆ ที่ปรากฏบนใบหน้า
“พี่ตามใจหนูแล้ว หนูต้องทำยังไงต่อ”
จูฮอนชี้ไปที่แก้มตัวเองใหม่อีกรอบพร้อมกับทำแก้มป่องนิด ๆ รอให้คนตัวเล็กเป็นคนให้รางวัล
/จุ๊บ/
ชางกยุนจุ๊บแก้มของจูฮอนด้วยความเร็วแสง จุ๊บเสร็จก็ตีไหล่คนเป็นพี่ไปทีนึง ข้อหาทำให้เขิน
“เก่งมาก เด็กดีของพี่”
จูฮอนยกมือขึ้นไปขยี้หัวชางกยุนก่อนจะหันไปตั้งใจขับรถเพื่อกลับไปที่บ้าน เฮ้อ ไอ้ตอนนี้มันก็ยังโอเคอยู่หรอก แต่ตอนที่กำลังดูหนังอยู่เนี่ยไม่รู้ว่าจะโอเคแบบนี้หรือเปล่านะ
--------------------------------------------------------
“โอ้ยกว่าจะจบ พี่นึกว่าจะหัวใจวายตายตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว TT”
จูฮอนทำหน้าเบะใส่คนตัวเล็กที่ก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ไม่ต่างไปจากเขา แถมตลอดทั้งเรื่องชางกยุนก็กอดเอวเขาไว้แน่นจนลุกไปไหนไม่ได้เลย
“อย่าว่าแต่พี่เลย ผมยังกลัวเลยอ้ะ โอ้ย ดูดิขนแขนยังตั้งไม่หายเลย”
ชางกยุนบ่นก่อนจะยกแขนขึ้นมาให้จูฮอนดู
“กลัวแต่ก็ยังชวนพี่ดูนะ แล้วถ้าคืนนี้พี่ฝันร้ายขึ้นมาจะทำยังไง”
“เรื่องของพี่ดิ”
คนตัวเล็กยกมือขึ้นไปดึงแก้มของร่างสูงก่อนจะคลายอ้อมกอดที่ตัวเองกอดเอวพี่เขาไว้แน่นแล้วลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องครัว
“เออพี่ เดี๋ยวคืนนี้ผมต้องกลับไปหาแม่อะ พี่นอนคนเดียวได้ใช่มั้ย”
ชางกยุนตะโกนถามออกมาจากในครัว
“อ้าว ทำไมไม่บอกพี่ก่อนล่ะพี่จะได้ไปด้วย”
“ก็พรุ่งนี้พี่ต้องเข้าสตูไม่ใช่รึไงครับคุณโปรดิวเซอร์ใหญ่ จะไปกับผมได้ไง”
“ก็ถ้าเราบอกพี่พี่จะได้ไม่เข้าสตูไง นี่นัดซึงอูมาอัดเสียงแล้วด้วยเนี่ย แคนเซิลไม่ทันแล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอก ผมก็แค่ไปหาแม่เฉย ๆ อยู่กับพี่วันคริสต์มาสทุกปีจนแม่ผมจะงอนแล้วเนี่ย แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมก็กลับมาอยู่กับพี่แล้ว”
“อ้วนอ่า อ้วนจะทิ้งพี่ไว้คนเดียวทั้ง ๆ ที่พี่เพิ่งดูหนังผีกับอ้วนจบเนี่ยนะ ไม่ใจร้ายไปหน่อยหรอ TT”
จูฮอนบ่นด้วยน้ำเสียงแบบเด็ก ๆ แล้วเดินเข้ามาหาชางกยุนในครัว ก่อนจะสวมกอดคนตัวเล็กจากทางด้านหลังและถูคางไปมาบนไหล่แคบนั่น
“ผีอะไร นั่นตัวตลกหรอก ไม่ชอบหรอ อุตส่าห์เอาหนังตลกให้ดูนะเนี่ย”
ชางกยุนพูดแหย่
“อ้วนใจร้ายจริง ๆ ด้วย”
“ทำตัวเป็นเด็ก ๆ ไปได้น่าพี่ ผมไปละเดี๋ยวมันจะดึก อย่าลืมล็อคบ้านดี ๆ นะ”
ชางกยุนแกะมือของจูฮอนออกจากเอวก็จะหมุนตัวหลบออกมาและเดินตรงไปที่โต๊ะเพื่อหยิบกระเป๋าเตรียมตัวออกจากบ้าน ร่างสูงทำได้แต่มองตามตาละห้อย
“ถึงบ้านแม่แล้วโทรมาหาพี่ด้วยนะ”
“อื้อ ไปละ”
ชางกยุนผูกเชือกรองเท้าจนแน่นเรียบร้อยก่อนจะลุกขึ้นยืนเปิดประตูแล้วก้าวออกไป และก่อนจะปิดประตู คนตัวเล็กก็พูดขึ้นมา
“พี่จูฮอน..........ระวังตัวตลกนะ”
/ปั้ง/
คนตัวเล็กปิดประตูเสียงดังทันที
“ไอ้อ้วนนนนนนนนนนนนนนนน”
จูฮอนตะโกนไล่หลัง ฮึ่ย ร้ายนักนะเจ้าเด็กอ้วนนี่ หลอกเขาให้ดูหนังผีในคืนวันคริสต์มาสอีฟแบบนี้แล้วก็ทิ้งเขาให้อยู่กับความหลอนคนเดียว ร้าย ชางกยุนเป็นเด็กร้ายกาจ
จูฮอนจัดการเก็บถุงขนมและเศษป๊อปคอร์นที่กระจายอยู่ทั่วตรงโซฟาทิ้ง นี่ก็มืดแล้ว เขาควรจะรีบทำความสะอาด อาบน้ำ และรีบเข้านอนก่อนที่ตัวเองจะหลอนตัวตลกไปมากกว่านี้
‘กึก...กึก...กึก...’
‘สะ.......เสียง.....เสียงอะไรวะ ทำไมดังมาจากตรงระเบียง’
จูฮอนนึกในใจ เขาอยู่บ้านคนเดียวนี่ แล้วนั่นเสียงอะไร
ร่างสูงค่อย ๆ เดินไปหยิบไม้เบสบอลที่วางอยู่ตรงประตูหน้าก่อนจะค่อย ๆ ย่องไปที่ระเบียงที่มีผ้าม่านสีขาวหนาถูกปิดอยู่
‘กึก...กึก...กึก...’
อยู่ดี ๆ ประตูกระจกที่ระเบียงก็สั่นเหมือนมีใครพยายามจะเปิดเข้ามา ทันใดนั้นก็มีแสงไฟส่องมาจากข้างนอก ร่างสูงเห็นเงาที่อยู่เบื้องหลังม่านนั่น มันเป็นเงาของคนรูปล่างเล็ก ๆ แต่บริเวณหัวดูใหญ่ ลักษณะเหมือนผมหยิก ๆ ของตัวตลก ที่สำคัญ เงานั้นมันกำลังถือลูกโป่งอยู่ด้วย!!!!!
“SHIT!!! เพนนีไวซ์!!! อ๊ากกกกกกกกกก”
ลืมภาพความเป็นโปรดิวเซอร์สุดเท่ของอีจูฮอนไปได้เลย ร่างสูงขว้างไม้เบสบอลไปยังประตูระเบียงก่อนจะตะโกนลั่นและวิ่งหนีเข้าห้องตัวเองล็อคประตูทันที
--------------------------------------------------------
-วันต่อมา-
“อ้าวจูฮอน ทำไมหน้าตาอิดโรยขนาดนั้นวะเนี่ย”
กอนฮี เพื่อนสนิทที่เป็นโปรดิวเซอร์เช่นเดียวกันเอ่ยปากถามจูฮอนทันที่ที่เขาก้าวเข้ามาในบริษัท
“มึง เมื่อคืนกูเจอเพนนีไวซ์.......”
จูฮอนตอบกลับด้วยแววตาเหม่อลอย
“เดี๋ยวมึง ใจเย็นก่อน มึงต้องสติ เพนนีไวซ์อะไรของมึง“
“เพนนีไวซ์อะสัส ตัวตลกใน IT อะ เชี่ยยยย มันตามมาหลอกกู”
จูฮอนพูดพลางเขย่าไหล่เพื่อนรักเต็มแรง
“โว้ย ไอ้ปัญญาอ่อน มึงโดนตัวไหนมาเมื่อคืนทำไมหลอนแบบนี้”
กอนฮีผลักจูฮอนออก
“โดนห่าไรล่ะ เมื่อคืนกูดู IT กับชางกยุน พอดูจบน้องมันทิ้งกูให้นอนคนเดียว มันหนีไปหาแม่มัน ฮือออออออ”
จูฮอนบ่นรัว ๆ
“มึงนี่หลอนไปเองตลอด แค่หนังปะ มึงอะคิดมาก”
“ไม่มึง กูเห็นจริง ๆ นะ มันเขย่าประตูระเบียง.......ด้วย..........”
ท้ายเสียงประโยคของจูฮอนถูกกลืนเข้าไปเมื่ออยู่ดี ๆ เขาก็เห็นลูกโป่งสีแดงค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาจากหลังของกอนฮี
“มะ...มึง....ข้างหลัง.......”
จูฮอนพูดด้วยเสียงสั่น ๆ พร้อมกับชี้นิ้วไปยังหลังกอนฮี
“อะไรวะ”
กอนฮีหันไปมองทันที แต่ก็ไม่พบอะไรนอกจากความว่างเปล่าและแสตนดี้รูปผู้บริหารของค่ายที่ตั้งอยู่หน้าห้องอัด และอยู่ติดกับหลังของกอนฮี
“มึงตกใจแสตนดี้ท่านประธานหรอวะ”
“ไม่ มึงไม่เห็นจริง ๆ หรอ ลูกโป่งสีแดงเนี่ย”
“ลูกโป่งอะไรของมึง”
“ก็เนี่ยยยยยย”
จูฮอนชี้ไปข้างหลังของกอนฮีเหมือนเดิม แต่คราวนี้เขาต้องช็อคกว่าเดิมเพราะเขาเริ่มเห็นไรผมฟูฟ่องสีน้ำตาลแดงค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาจากด้านหลังของกอนฮี
“อ๊ากกกกกกกกกกกกก”
ร่างสูงตะโกนสุดเสียงก่อนจะหันหลังวิ่งหนีกลับไปทางเดิมด้วยความเร็วประหนึ่งนักกีฬาวิ่ง 4x100
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
“คึ ๆ ๆ ๆ”
ทันทีที่จูฮอนวิ่งไปจนลับสายตากอนฮีก็หัวเราะขึ้นมาด้วยความสะใจพร้อม ๆ กับร่างเล็กร่างหนึ่งที่เดินออกมาหลังจากที่หลบอยู่หลังสแตนของผู้บริหาร
“ชางกยุน เห็นหน้ามันปะ แม่งโคตรตลกเลย ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
กอนฮีหันไปขำกับน้องชายตัวแสบ
“เห็นปะผมบอกแล้ว พี่จูฮอนต้องกลัวแน่นอน”
ชางกยุนขำไปพร้อมกับกอนฮีพลางยกหน้ากากตัวตลกเพนนีไวซ์กับลูกโป่งสีแดงขึ้นมาแกว่งไปมา
“แต่มันดูกลัวมากเลยนะ แกล้งแบบนี้จะดีหรอ นี่คริสต์มาสนะไม่ใช่ฮาโลวีน“
“ก็ตอนฮาโลวีนพี่เขาแกล้งผมก่อน ไม่รู้แหละ ผมจะเอาคืน”
คนตัวเล็กพูดคาดโทษคนตาตี่ที่วิ่งออกไปเมื่อกี้
“งั้นผมกลับห้องก่อนนะพี่กอนฮี ต้องกลับไปแต่งต้นคริสต์มาสก่อน”
“เออ ๆ กลับดี ๆ แล้วก็อย่าไปแกล้งมันเยอะไอ้จูฮอนอะ มันขี้กลัว”
“น่าพี่ นิด ๆ หน่อย ๆ ไปละ”
คนตัวเล็กโบกมือลากอนฮีก่อนจะรีบตรงดิ่งกลับไปที่บ้าน
จริง ๆ แผนนี้เขาคิดจะเอาคืนจูฮอนมาตั้งหลายทีแล้วแต่ไม่ได้โอกาสเหมาะ ๆ สักที ก็ตอนฮาโลวีนที่ผ่านมา จูฮอนมาแกล้งหลอกผีใส่เขาตอนเขากำลังเคลิ้ม ๆ หลับ มาแกล้งดึงผ้าห่มแล้วก็ดึงขาตอนดึก ๆ เป็นใครก็ต้องตกใจทั้งนั้น ครั้งนี้เขาเลยเอาคืนซะเลย ที่บอกว่าไปนอนบ้านแม่นั่นจริง ๆ ก็ไม่ได้ไปหรอก แค่ต้องการให้จูฮอนอยู่คนเดียวก็เลยบอกไปแบบนั้นและแอบไปเข้าห้องข้าง ๆ ใส่หน้ากากตัวตลกแล้วปีนมาที่ระเบียงเองต่างหาก ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจูฮอนจะกลัวขนาดนี้ รู้สึกผิดอยู่นะแต่ก็รู้สึกสะใจดี หึหึหึ
--------------------------------------------------------
เวลาผ่านไปจนเกือบหกโมงเย็น จูฮอนทำเพลงจนเพลิน หันไปมองนาฬิกาอีกทีนี่ก็จวนจะค่ำอยู่แล้ว ร่างสูงรีบเก็บของและเตรียมตัวกลับบ้านเพื่อไปหาเจ้าอ้วนที่แกล้งเขาตั้งแต่เมื่อวานและวันนี้ก็ยังไม่ได้คุยกันเลย โทรไปก็ไม่รับอีก สงสัยคงแต่งห้องแต่งต้นคริสต์มาสจนเพลินแหละมั้ง
จูฮอนกระวนกระวายรีบเก็บของ จริง ๆ ก็ไม่ได้รีบ แต่วันนี้ทั้งวันเขาหลอนอยู่แต่กับไอ้ตัวตลกเพนนีไวซ์เนี่ย เดี๋ยวเถอะ กลับไปจะลงโทษไอ้อ้วนที่บ้านให้เข็ด มาแกล้งให้ดูหนังผีแล้วทิ้งเขาไว้คนเดียวจนหลอนแบบนี้
ร่างสูงรีบบึ่งรถตรงกลับบ้านทันที เมื่อขับมาถึงแล้วก็ต้องพบว่าที่บ้านนั้นเงียบผิดปกติ เงียบจนน่าตกใจ
“ชางกยุน........”
จูฮอนตะโกนทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในบ้าน ทั้งบ้านมืดสนิท มีเพียงแสงไฟจากไฟประดับต้นคริสต์มาสที่ตั้งอยู่กลางห้องนั่งเล่นเล็ดลอดออกมาเท่านั้น
ร่างสูงเอื้อมมือไปกดเปิดสวิตช์ไฟ แต่กดเท่าไหร่ก็ไม่ติด เอาล่ะสิ นี่ยังหลอนไม่พออีกใช่ไหม จูฮอนหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาจากกระเป๋าแล้วกดเปิดไฟฉาย เขาสังเกตเห็นเทียนหอมถูกจุดวางเรียงเป็นทางอยู่บนพื้นตรงเข้าไปยังห้องนั่งเล่น ร่างสูงเดินตามเทียนไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
เทียนนั่นพาจูฮอนเข้าไปยังโซฟาในห้องนั่งเล่น ร่างสูงเดินตามมาและนั่งลงบนโซฟาก่อนจะเห็นการ์ดใบเล็ก ๆ วางอยู่บนโต๊ะข้างหน้าโซฟา
'มาลอยไปด้วยกันมั้ย?'
ข้อความบนการ์ดว่าไว้อย่างนั้น.........ชิบหาย ไม่ตลกละ นี่เขาจะหลอนเกินไปรึเปล่า
“หมับ!” ในขณะที่จูฮอนกำลังอ่านข้อความบนการ์ดนั้นก็มีมือ ๆ หนึ่งเข้ามาจับไหล่เขาจากทางด้านหลัง ร่างสูงเหงื่อแตกพลั่กก่อนจะค่อย ๆ หันไปมอง ทันทีที่หางตาเห็นไรผมสีน้ำตาลแดง ตาตี่ ๆ นั่นก็เบิกกว้างขึ้นมาทันที
“เหี้ย!!!!”
'พลั่ก!'
'ตุ้บ!'
“โอ๊ยเจ็บบบบบบบ”
เสียงวุ่นวายดังขึ้นเมื่อจูฮอนตกใจจนอุทานออกมาเสียงดังและเหวี่ยงหมัดเข้าไปยังตัวอะไรก็ตามที่จับไหล่เขาอยู่จนมันล้มลงไปนอนกับพื้นแล้วร้องเจ็บดังลั่น........แต่เดี๋ยวนะ......เสียงร้องนั่นทำไมคุ้น ๆ
“โอยยยยย”
ร่างเล็กปริศนาที่นอนกองอยู่ที่พื้นค่อย ๆ ลุกขึ้นมานั่งก่อนจะถอดหน้ากากตัวตลกออก.......ชางกยุนนั่นเอง
“อ้าวเฮ้ย ชางกยุน เป็นไรมั้ยเนี่ย ขอโทษ ๆ”
ทันทีที่เห็นว่าเป็นเจ้าอ้วนของเขา จูฮอนก็รีบถลาเข้าไปประคองทันที
“ต่อยมาได้นะพี่ แม่ง ดีนะหลบทัน”
ชางกยุนยื่นมือไปให้จูฮอนก่อนที่ร่างสูงจะค่อย ๆ ดึงให้คนตัวเล็กลุกขึ้น ดีนะว่าหมัดของจูฮอนไม่โดนชางกยุนเลยสักนิด แต่ที่ร้องเสียงหลงแบบนั้นก็เพราะว่าหลบหมัดของคนเป็นพี่จนสะดุดขาตัวเองล้มนี่แหละ
จูฮอนพาชางกยุนมานั่งที่โซฟาก่อนจะค่อย ๆ ปัดผมหน้าม้าที่ลงมาปรกหน้าปรกตัวของคนตัวเล็กออกก่อนจะยิ้มให้
“ยิ้มไรของพี่ ทำผมเจ็บตัวแล้วจะมายิ้มแบบนี้หรอ”
“จะเซอร์ไพรซ์พี่หรอ”
จูฮอนถาม
“ไม่ต้องมาทำเป็นโรแมนติก ผมไม่ได้จะทำให้โรแมนติกเลย ผมจะแกล้งพี่ จะเอาคืนตอนพี่หลอกผมเมื่อฮาโลวีนที่ผ่านมาต่างหาก”
ชางกยุนพูดจบก็ทำหน้ายู่พร้อมกับแลบลิ้นใส่จูฮอน ร่างสูงยิ้มด้วยความเอ็นดูก่อนจะดึงแก้มคนตรงหน้าไปมา
“แกล้งพี่แรงนะอ้วนเดี๋ยวนี้อะ แบบนี้ต้องโดนลงโทษนะ”
ร่างสูงทำสีหน้ากรุ้มกริ่มก่อนจะค่อย ๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้ ๆ ร่างเล็ก จูฮอนค่อย ๆ เคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของร่างเล็กเรื่อย ๆ ชางกยุนพยายามเอนตัวหนี กำลังจะขยับตัวแต่ก็โดนจูฮอนล็อคเอวเอาไว้ก่อน ทำให้ร่างเล็กทรงตัวไว้ไม่อยู่กลายเป็นล้มตัวลงนอนราบไปกับโซฟาเสียดื้อ ๆ
“หมดทางหนีแล้วนะเด็กดื้อ”
ร่างสูงกระซิบข้างหูของคนที่อยู่ใต้ร่างก่อนจะเลื่อนมาประกบปากของตัวเองกับร่างบาง
“อื้อ”
เสียงของชางกยุนถูกกลืนหายเข้าไปในขณะที่กำลังจะร้องประท้วงการลงโทษของคนที่อยู่เบื้องบน
ร่างสูงผละออกจากปากของคนใต้ร่างหลังจากที่จูบกันเป็นรอบที่ห้าได้ คนตัวเล็กหน้าขึ้นสีมาเล็กน้อยก่อนที่จูฮอนจะโน้มตัวลงไปจูบอีกรอบและค่อย ๆ เคลื่อนลงมาบริเวณต้นคอขาว มือทั้งสองข้างของร่างสูงก็วุ่นวายอยู่แต่กับหน้าท้องและอกของคนตัวเล็กไม่หยุด
“อ๊ะ……พี่…….”
คนตัวเล็กครองออกมาด้วยความวูบไหว สัมผัสของคนตรงหน้าทำให้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่านจนไม่อาจหยุดได้
ไม่รู้ว่าทั้งคู่จูบกันอยู่นานแค่ไหน มารู้ตัวอีกทีก็ตอนเสื้อผ้าอาภรณ์ของคนทั้งคู่ไม่อยู่แล้วนั่นแหละ มือข้างหนึ่งของจูฮอนวุ่นวายอยู่กับส่วนอ่อนไหวของชางกยุน ร่างสูงขยับมือขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ คนใต้ร่างของบิดตัวรับสัมผัสนั้นอย่างช่วยไม่ได้
“พี่จูฮอน......อ๊ะ......ขอ.....จูบ.......อื้อ”
ชางกยุนหอบหายใจถี่และยกมือขึ้นไปโน้มคอของจูฮอนให้ก้มลงมารับจูบอันแสนหวานจากเขา จูฮอนก็จูบร่างเล็กอย่างว่าง่ายก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบเจลหล่อลื่นและถุงยางที่อยู่ในลิ้นชักบนโต๊ะวางของข้างโซฟานั้น
“อย่าเกร็งนะชางกยุน”
ร่างสูงค่อย ๆ บีบเจลหล่อลื่นลงที่นิ้วของตัวเองก่อนจะเลื่อนมือไปยังช่องทางเล็กของคนตัวเล็ก
“อ๊ะ…..พี่.......ผมเจ็บ.....”
ชางกยุนร้องเสียงหลงเมื่อคนตัวสูงส่งนิ้วเข้าไปยังช่องทางของเขา
“อย่าเกร็งสิเด็กดีของพี่”
จูฮอนพูดก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบเพื่อทำให้คนตัวเล็กผ่อนหลาย ร่างสูงขยับนิ้วเป็นจังหวะเมื่อตอนนี้คนใต้ร่างดูเหมือนจะผ่อนคลายขึ้นแล้ว
“พี่ขอเข้าไปนะครับเด็กดี”
ร่างสูงกระซิบที่ข้างหูของคนตัวเล็กหลังจากที่คนตัวเล็กเริ่มชินกับนิ้วของเขาแล้ว
“อือ” ชางกยุนตอบรับ จูฮอนแยกขาร่างเล็กออกก่อนจะค่อย ๆ สอดใส่แกนกายของตัวเองเข้าไปยังช่องทางสีหวานของคนตัวเล็ก
“อ่าาา.....”
ร่างสูงส่งเสียงทุ้มต่ำในลำคอออกมาเมื่อแกนกายของตัวเองเข้าไปเจอกับความคับแน่นของคนตัวเล็กเหงื่อเม็ดเล็กซึมอยู่ทั่วขมับของร่างสูงไปหมด
“ชางกยุน ช่วยพี่หน่อยนะ ขอเข้าไปหน่อย”
ร่างสูงพูดก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบคนใต้ร่างอีกที คนตัวเล็กจูบตอบอย่างว่าง่าย จูฮอนใช้มือของเขาเข้าครอบครองส่วนอ่อนไหวของชางกยุนก่อนจะขยับมือขึ้นลงตามจังหวะจนอารมณ์ของคนตัวเล็กพุ่งพล่าน นั่นเลยทำให้จูฮอนสามารถเข้าไปในตัวชางกยุนได้ง่ายขึ้น ร่างสูงขยับกายขึ้นลงตามแรงปรารถนาที่กำลังก่อตัวขึ้นในร่างกาย
“อะ….อ๊ะ…..อึก.....พี่...จูฮอน.....อ๊ะ”
ร่างเล็กส่งเสียงน่าอายออกมาอย่างไม่เป็นศัพท์ นั่นยิ่งทำให้คนบนร่างแทบคลั่ง
“จูบ….จะ….จูบผมหน่อย...พะ...พี่จูฮอน....อ๊ะ”
สารภาพตามตรงว่าจูฮอนจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว ทำไมเจ้าอ้วนของเขาถึงได้ทำให้เขาคลั่งได้ขนาดนี้กันนะ ร่างสูงไปรอช้ารีบลงไปมอบสัมผัสแสนหวานให้กับคนใต้ร่างทันทีพร้อม ๆ กับที่ส่วนล่างของเขายังขยับขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ และยิ่งเริ่มเร่งจังหวะขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อทั้งคู่เริ่มเข้าใกล้ฝั่งฝันกันเต็มที
“อ๊าาาา”
“อืมมมมม”
ทั้งคู่ส่งเสียงออกมาพร้อมกันหลังจากที่ได้ขึ้นไปยังสรวงสวรรค์ด้วยกัน ร่างสูงที่คร่อมอยู่บ้านบนค่อย ๆ โน้มตัวลงมานอนข้าง ๆ คนตัวเล็กกอดจะกอดเอวเอาไว้แล้วจูบไปที่หัวไหล่มน
“จำไว้นะว่าคราวหลังอย่าแกล้งพี่อีก ไม่งั้นพี่ไม่ทำโทษแค่นี้แน่”
จูฮอนกระซิบข้างหูชางกยุน คนตัวเล็กหันหน้ามาและเอาหัวกลมโขกเบา ๆ กับหน้าผากของร่างสูง
“คนฉวยโอกะ.....อื้อออ”
พูดยังไม่ทันจบประโยค เสียงของคนตัวเล็กก็โดนกลืนหายไปด้วยปากของอีกฝ่ายอีกแล้ว
“นอนตรงนี้มันหนาว เข้าห้องกันดีกว่า”
ร่างสูงพูดด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่มก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมาจากโซฟา
“ไม่เอาแล้วพี่ ผมเหนื่อย”
“อ้วนไม่เอาแต่พี่จะเอาอะ”
พูดจบร่างสูงที่กำลังอุ้มคนตัวเล็กอยู่ก็รีบเดินเข้าห้องไปทันที
สงสัยว่าคืนนี้เจ้าอ้วนคงจะโดนลงโทษทั้งคืนแน่นอน ซานต้าจ๋า บ้ายบายนะ คืนนี้คงไม่ได้อยู่รอรับของขวัญแล้วล่ะ...............
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in