เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
JooKyun Fictionbubbleblu
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน [OS] F.U.




  • ไม่รู้ว่าเป็นคืนที่เท่าไหร่แล้วที่ชางกยุนนั่งรอจูฮอนกลับบ้าน ตากลมเอาแต่จ้องมองไปที่ประตู หวังเพียงแค่ให้ร่างสูงที่คุ้นตาปรากฎตัวขึ้นมาบ้าง แต่หลายวันที่ผ่านมานี้จูฮอนเอาแต่กลับบ้านตอนเขาเข้านอนแล้ว แถมพอตื่นมาจูฮอนก็ออกจากบ้านไปแล้วทุกที วัน ๆ นึงแทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเลยด้วยซ้ำมั้ง 


    บ้านที่เคยมีแต่ความสดใส ทุกวันนี้กลับมีแต่ความหมองหม่น อยู่ดี ๆ น้ำตามันก็มาจากไหนไม่รู้รื้นขึ้นที่บริเวณขอบตากลม ชางกยุนปาดมันออกอย่างไม่สนใจพร้อมกับหยิบรีโมททีวีเปลี่ยนช่องต่อไปเรื่อย ๆ

     

    ชั่วโมงผ่านไปที่ชางกยุนได้แต่เปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อย ๆ ความอดทนได้หมดลงแล้ว ชางกยุนลุกขึ้นเดินไปยังโต๊ะทานข้าวที่เขาได้รังสรรค์อาหารจานโปรดของจูฮอนไว้หลายอย่างและจัดการเทอาหารทุกอย่างทิ้งลงถังขยะ

     

    แกเป็นบ้าหรอชางกยุน พี่เขาเคยกลับบ้านมากินอาหารที่แกทำไว้รอมั้ย?’


    คนตัวเล็กหัวเราะแห้ง ๆ และส่ายหัวให้กับความหวังบ้า ๆ บอ ๆ ของตัวเองก่อนจะปลดปมเนคไทค์ที่คอของตัวเองออกแล้วดึงมันอย่างลวก ๆ

     

    แต่งตัวดี ๆ ไปก็เท่านั้น เขากลับมาดูบ้างไหมล่ะก็ไม่นี่

     

    ไม่ใช่ไม่รู้หรอกนะว่าจูฮอนไปไหน เขารู้อยู่เต็มอกนั่นแหละ ทุกครั้งที่กลับมาบ้านจะต้องกลับมาพร้อมกับกลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งและรอยลิปสติกติดที่ขอบเสื้อเต็มไปหมด แถมบางวันยังมีรอยลิปสติกติดอยู่ที่แก้มของอีกฝ่ายอยู่เลย ไม่ต้องบอกก็รู้มั้งว่าไปไหนมา

     

    นึก ๆ ไปแล้วก็ปวดใจดีเหมือนกัน มันก็เป็นแบบนี้แหละ สถานะของชางกยุนตอนนี้เรียกว่าอะไรดีล่ะ แฟนหรอแฟนบ้าอะไร ถ้าเป็นแฟนแล้วจะมาทำร้ายจิตใจกันขนาดนี้ก็อย่าเป็นมันเลยดีกว่า ตอนแรกที่คบกันก็คิดว่าอีกฝ่ายจะแก้นิสัยของตัวเองได้ แต่เปล่าเลย ชางกยุนคงคิดเข้าข้างตัวเองไปหน่อย เพราะจูฮอนไม่ได้หยุดที่เขาเพียงคนเดียว ถึงแม้อีกฝ่ายจะบอกว่าเขาเป็นตัวจริง และพวกผู้หญิงคนอื่น ๆ เป็นเพียงแค่ของเล่น ไม่ได้คิดจริงจัง แต่นี่มันมากเกินไปแล้ว ชางกยุนเองก็ไม่ใช่คนใจกว้างพอที่จะไม่รู้สึกอะไรเวลาแฟนตัวเองไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่นหรอกนะ


    ...แอ๊ด...

     

    เสียงเปิดประตูดังขึ้นในขณะที่ชางกยุนกำลังคิดน้อยใจในชีวิตของตัวเองอยู่ ร่างสูงที่คุ้นตาเดินเข้ามาภายในบ้านด้วยสภาพโซซัดโซเซเหมือนจะล้มไม่ล้มแหล่ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์ เสื้อเชิ้ตสีขาวมีแต่รอยยับและคราบลิปสติกที่ติดบนปกเสื้อ จูฮอนเห็นชางกยุนนั่งรออยู่ที่โซฟาก็ไม่รอช้า รีบเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ และทิ้งหัวตัวเองลงไปบนตักชางกยุนทันที

     

    หึ มีแต่รอยลิปสติกกลับมาอีกแล้ว


    ชางกยุนแค่นหัวเราะออกมาด้วยความสมเพชตัวเอง คนบนตักของเขาขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าเข้าหาชางกยุนและดึงมือชางกยุนขึ้นมาหอมเบา ๆ

     

    รอพี่อยู่หรอ?”


    จูฮอนพูดด้วยเสียงงึมงำ ฟังไม่ค่อยได้ศัพท์เท่าไหร่นัก ก็แหงล่ะ เมาแอ๋มาขนาดนี้

     

    ผมรอพี่ตรงนี้มา 3 วันได้แล้วมั้งครับ


    ชางกยุนชักมือตัวเองออกแล้วตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ คนตัวเล็กไม่แม้แต่จะมองหน้าคนที่นอนอยู่บนตักเลยด้วยซ้ำ

     

    คนตัวเล็กเหลือบมองรอยลิปสติกที่คอเสื้อของจูฮอน ก่อนจะต้องหน้าชาเมื่อมองไปที่ใบหน้าของจูฮอน คราวนี้พวกรอยลิปสติกที่ปกติชอบอยู่บนแก้มมันเปลี่ยนตำแหน่งมาอยู่ที่ข้างริมฝีปากเสียแล้วล่ะ......

     

    พี่จูฮอน ผมถามจริง ๆ นะ........”


    ชางกยุนพูดขึ้นมาทั้ง ๆ ที่ตาจ้องไปที่ทีวี คนตัวเล็กพยายามจะไม่ขยับหน้าเพราะกลัวว่าน้ำตาที่กลั้นเอาไว้มันจะไหลออกมาให้อีกฝ่ายเห็น

     

    จูฮอนเห็นชางกยุนเว้นช่วงไปนานจึงลุกขึ้นมานั่งแล้วจ้องมองใบหน้าของชางกยุนจากทางด้านข้าง

     

    พี่เคยรักผมบ้างมั้ย.......”


    ชางกยุนถามออกไปพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลลงมาตามแก้มอิ่ม มันเกินความอดทนที่เขาจะทนไหวแล้ว ถ้าจูฮอนยังเป็นแบบนี้ต่อไป มันคงไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะต้องทนคบต่อกับคนแบบนี้

     

    ผมว่าเราเลิ-”


    ชางกยุนยังพูดไม่ทันขาดคำด้วยซ้ำ จูฮอนก็ดึงชางกยุนเข้ามากอด คำพูดทั้งหมดที่คิดเอาไว้ว่าจะพูดมันกลับกลืนหายเข้าไปในคอ ร่างสูงเลื่อนมือทั้งสองข้างขึ้นมาประคองใบหน้าชางกยุนให้หันเข้าหาตัวเอง

     

    จูฮอนจูบไปที่พวกแก้มกลมของชางกยุนเพื่อซับน้ำตาก่อนจะผละออกและมองหน้าคนตัวเล็ก ร่างสูงเลื่อนมือไปปัดผมหน้าม้าที่ปรกหน้าของคนตัวเล็กออกก่อนจะพูดด้วยเสียงหนักแน่น

     

    พี่รักนายสิ นายเป็นคนเดียวที่พี่รักนะชางกยุน


    จูฮอนพูดก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้คนตัวเล็กจนริมฝีปากทั้งคู่ชนกัน ร่างสูงขบริมฝีปากเล็กเบา ๆ เพื่อให้คนตัวเล็กเปิดทางให้เขาได้ใช้ลิ้นหนาเข้าไปหยอกเย้ากับลิ้นเล็กนั่น คงเป็นฤทธิ์ของแอลกอฮอล์อีกนั่นแหละที่ทำให้ร่างสูงมอบจูบอย่างดูดดื่มให้กับชางกยุนมากกว่าจูบอันแสนหวานที่ชางกยุนเคยได้รับเมื่อนานมาแล้ว

     

    น่ารังเกียจ พี่ไปจูบกับคนอื่นมาแล้วยังมีหน้ามาจูบกับผมอีก


    เป็นแค่เสียงคิดในใจแค่นั้นแหละ แต่ชางกยุนรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ สกปรก ขยะแขยง เขาไม่ชอบเลยด้วยซ้ำกับรสขมปร่าของเหล้าที่ติดมาจากจูฮอน และมันยิ่งน่ารังเกียจเข้าไปใหญ่เมื่อรอยลิปสติกที่ข้างปากของร่างสูงนั่นมาติดที่ข้างปากของเขา

     

    แต่เพราะว่าคนตรงหน้าเป็นจูฮอน ชางกยุนไม่เคยปฏิเสธได้เลย แม้สมองจะบอกว่ารังเกียจแค่ไหนก็ตาม แต่หัวใจและร่างกายกลับไม่เป็นเช่นนั้น ชางกยุนจูบตอบจูฮอนได้เป็นอย่างดี มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่หลังของเขาลงไปสัมผัสกับโซฟาแล้ว แถมเสื้อที่ใส่เอาไว้ตอนแรกมันก็โดนถอดออกไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้

     

    จูฮอนค่อย ๆ ละออกจากริมฝีปากของชางกยุนและซุกไซร้ไปตามลำคอของคนตัวเล็ก ชางกยุนหอบหายใจถี่ในขณะที่มือไม้ของจูฮอนลูบไล้ไปทั่วร่างกายของเขา อารมณ์ข้างในของชางกยุนมันแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัว ทุกส่วนของชางกยุนตอบรับให้กับการสัมผัสที่คนบนร่างมอบให้อย่างไม่รู้จักพอ

     

    ผมเกลียดพี่ จะไปตายที่ไหนก็ไปเลยนะ


    ชางกยุนพูดขึ้นในขณะที่จูฮอนปลดเข็มขัดกางเกงของเขา จูฮอนชะงักไปแวบนึงก่อนจะยกยิ้มนิด ๆ แล้วมองใบหน้าขึ้นสีของคนที่อยู่ใต้ร่าง

     

    ไม่หรอก นายไม่เกลียดพี่หรอก


    พูดจบคนร่างสูงก็ตรงเข้าประกบริมฝีปากคนตัวเล็กทันที มือของจูฮอนดึงกางเกงที่เป็นปราการด่านสำคัญของคนใต้ร่างออกไปก่อนจะใช้มือของเขาเข้าครอบครองส่วนอ่อนไหวของชางกยุน

     

    ชางกยุนหอบหายใจถี่ อารมณ์ของคนตัวเล็กถูกปลุกปั่นอย่างกู่ไม่กลับ ไอ้ความรู้สึกโกรธเมื่อกี้มันหายไปไหนแล้วนะ เจ็บใจตัวเองจริง ๆ

     

    พะ...พี่...พี่จู...ฮะ...ฮอน...”

     

    คนตัวเล็กเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างไม่เต็มเสียงนักในตอนที่ร่างสูงขยับมือขึ้นลงให้เขาอย่างเป็นจังหวะ เขาพยายามควบคุมเสียงให้เป็นปกติแล้ว แต่ทำไม่ได้จริง ๆ

     

    จูฮอนเงยหน้าขึ้นมาจากการเล่นซุกซนที่หน้าท้องของชางกยุนก่อนจะยิ้มมุมปากด้วยความชอบใจ

     

    ไงล่ะ ยังอยากไล่ให้พี่ไปตายอยู่มั้ย

     

    มะไม่…”


    ชางกยุนส่ายหน้าพัลวัน

     

    ผะผม...ผมจะ...มะ...ไม่ไหว...ละ...แล้ว...”


    คนตัวเล็กส่งเสียงน่าอายขึ้นมาหลายต่อหลายครั้งเมื่อใกล้เข้าถึงฝั่งฝันเต็มที จูฮอนไม่รอช้ารีบส่งคนตรงหน้าขึ้นไปยังสรวงสวรรค์ คนตัวเล็กร้องครางออกมาไม่ได้ศัพท์จนรู้สึกอายเสียงตัวเอง

     

    ต่อไปขอพี่บ้างนะ


    จูฮอนก้มลงกระซิบข้างหูชางกยุนก่อนที่ร่างสูงจะเป็นฝ่ายดำเนินบทเพลงรักนี้ต่อไป

     

    ชางกยุนปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าดวงตาสีน้ำตาลเข้มและร่างกายของคนตรงหน้ามันทำให้เขาหลงใหลมาก มากขนาดที่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ได้สัมผัส ความรู้สึกโกรธและโมโหทั้งหลายแหล่ที่เคยมีมามันได้สลายหายไปทันที

     

    รักหรอ...ใช่ เขารักจูฮอน แต่นอกจากความรักแล้ว ความหลงใหลในรูปรสและสัมผัสของคนตรงหน้ามันยิ่งทำให้เขามัวเมาไปกับการสัมผัสของร่างสูงมากยิ่งขึ้น ชางกยุนไม่เคยพอกับสัมผัสที่ได้รับจากจูฮอนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ยิ่งได้เท่าไหร่ เขาก็ยิ่งโหยหามากขึ้นเท่านั้น

     

    บ้าจริง ๆ แพ้ให้กับคนหลายใจแบบนี้ได้ยังไงกัน

     

     

     

    -----------------------------------------------------------

     

     

     

    เช้าวันรุ่งขึ้น ชางกยุนตื่นขึ้นมาบนเตียงในห้องนอนด้วยสภาพเปลือยเปล่า หันไปมองข้าง ๆ ก็เจอกับคนคุ้นตานอนหลับสนิทด้วยสภาพเปลือยเปล่าไม่ต่างกัน เมื่อคืนหลังจากที่เสร็จสิ้นการบรรเลงเพลงรักด้วยกันทั้งคู่แล้วเขาก็หลับเป็นตายเลย สงสัยจูฮอนคงอุ้มเขาเข้ามาในห้องนอนนี่แหละ 

     

    คนตัวเล็กค่อยขยับเบา ๆ เพราะกลัวคนข้าง ๆ จะตื่น คว้าผ้าเช็ดตัวข้างเตียงได้ก็รีบพันที่เอวแล้วเดินไปยังห้องน้ำทันที จังหวะเปิดประตูห้องน้ำ ร่างสูงบนเตียงก็ขยับพลิกตัวนิดหน่อย ชางกยุนยืนนิ่งเป็นหุ่นยนต์ก่อนจะชะโงกหน้ามองเช็คคนบนเตียงว่าตื่นหรือยัง เมื่อเห็นว่าจูฮอนคงไม่ตื่นขึ้นมาง่าย ๆ ชางกยุนก็รีบเปิดประตูห้องน้ำและเข้าไปล็อคกลอนทันที

     

    ชางกยุนเดินมายังอ่างล้างหน้าพลางมองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจก ร่องรอยช้ำสีแดงอมม่วงปรากฏอยู่ทั่วร่างกายส่วนบนของเขาเต็มไปหมด

     

    แม่งเอ๊ย


    ชางกยุนสบถอย่างหัวเสีย แน่นอนว่าเขายังคงหงุดหงิดจูฮอนเรื่องที่ไปมีผู้หญิงคนอื่นอยู่ แต่ที่หงุดหงิดมากที่สุดในตอนนี้ก็คือภาพของคนที่สะท้อนอยู่ในกระจกนี่แหละ

     

    หลายวันมานี้เขาอุตส่าห์ตัดสินใจแล้วว่าจะบอกเลิกกับจูฮอน ตลอดเวลา 7 เดือนที่คบกันมา จูฮอนก็ยังมีบ้านเล็กบ้านน้อยอยู่ตลอด แรก ๆ เขาก็จับไม่ได้หรอก ก็พ่อคุณเขาฉลาดเป็นกรดเลยล่ะ ซ่อนโทรศัพท์เอาไว้ตั้ง 2 เครื่อง เพียงแต่วันนั้นจูฮอนเผลอลืมเครื่องที่เอาไว้จีบสาววางทิ้งไว้ที่บ้าน ชางกยุนจึงเห็นมันเข้า

     

    แต่แล้วยังไง รู้ไปก็เท่านั้น ทะเลาะกันบ้านแตก สุดท้ายแค่พี่เขาเดินเข้ามาขอโทษและจูบเบา ๆ แค่นั้นชางกยุนก็ให้อภัยจนหมดหัวใจแล้ว

     

    แต่เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นอีกหลายต่อหลายครั้ง และทุก ๆ ครั้งชางกยุนก็จะเดินมาที่หน้ากระจกบานนี้ ซ้อมพูดบอกเลิกกับจูฮอนทุกครั้ง ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย ด่าใส่กระจก ไล่ให้ไปตายอยู่ตลอดเวลา ทุกคำพูดที่พ่นใส่กระจก ชางกยุนจดจำมันไว้ทุกตัวอักษรเพื่อจะเอาไปบอกเลิกกับจูฮอน

     

    แต่สุดท้ายเขาก็แพ้ใจตัวเองอยู่ดี คำพูดเหล่านั้นไม่เคยได้ออกจากปากเขาเลยสักครั้งเมื่ออยู่ต่อหน้าจูฮอน

     

    เพื่อน ๆ ต่างก็คิดว่าเขาบ้า หนำซ้ำแม่เขายังบอกเลยว่าไม่ควรมาคบกับคนแบบนี้ แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ก็ชางกยุนรักไปแล้วนี่ นิยามความรักของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน และนี่แหละมันคือนิยามความรักของเขากับจูฮอน

     

    ชางกยุนยืนจ้องกระจกอยู่พักใหญ่ ๆ ก่อนจะเดินไปยังประตูห้องน้ำเพื่อจะกลับเข้าห้อง ทันทีที่หมุนลูกบิดประตูออกก็เจอเข้ากับจูฮอนที่ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ ร่างสูงยิ้มจนตาปิดให้กับคนตัวเล็กก่อนจะเดินเข้าไปหา ชางกยุนทำหน้าบึ้งเพราะยังคงหงุดหงิดอยู่เล็ก ๆ กับเรื่องคราบลิปสติกข้างปากของจูฮอนเมื่อคืน

     

    หายโกรธพี่เถอะน่า นะ


    จูฮอนเดินเข้ามาโยกหัวชางกยุนเบา ๆ คนตัวเล็กปัดมือร่างสูงออกและมองด้วยสายตาอาฆาต

     

    ไปตายซะไป๊


    ชางกยุนคิดในใจ

     

    ยังไม่หายโกรธจริง ๆ ด้วยแฮะ


    จูฮอนพูดก่อนจะขยับตัวเข้าไปใกล้กว่าเดิมแล้วใช้มือทั้งสองข้างโอบรั้งเอวคนตัวเล็กเข้ามาใกล้ ๆ ก่อนจะก้มลงไปหาปากอิ่มของคนตรงหน้าที่ตัวเองได้ครอบครองมาแล้วทั้งคืน

     

    มอร์นิ่งคิสนะครับที่รัก


    จูฮอนพูดหลังจากที่ถอนจูบจากชางกยุน ชางกยุนหน้าขึ้นสีแต่พยายามเก็บอาการ คนตัวเล็กมองหน้าจูฮอนก่อนจะถอนหายใจ

     

    เฮ้อ ผมรักพี่นะครับพี่จูฮอน


    พูดจบชางกยุนก็วิ่งกลับเข้าไปในห้องน้ำที่เพิ่งจะเดินออกมาเมื่อกี้ เกลียด เขาเกลียดตัวเอง เป็นแบบนี้อีกแล้ว ยอมคนตรงหน้าทุกทีเลย

     

    คนตัวเล็กเดินไปที่หน้ากระจกอีกครั้ง ยิ่งมองเห็นภาพตัวเองที่สะท้อนอยู่บนกระจกก็ยิ่งรู้สึกสมเพชตัวเองขึ้นทุกที

     

    แกมันบ้าชางกยุน ทั้งบ้าทั้งโง่ แค่เขาพูดหวาน ๆ ใส่เข้าหน่อยแกก็หายโกรธแล้วหรอ โง่เง่าสิ้นดี


    เสียงในหัวชางกยุนรัวออกมาเป็นชุด คนตัวเล็กยิ้มเยาะให้กับความโง่ของตัวเองก่อนจะจ้องมองเงาในกระจกและยกนิ้วกลางขึ้นใส่ภาพที่สะท้อนอยู่ตรงหน้า

     

    “Fuck you อิมชางกยุน

     

    ด่าใครไม่ได้ก็ด่าตัวเองแม่งแล้วกัน

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in