เพราะเราคัดแล้วคัดอีก คัดหนัง 22 เรื่องที่มีรถไฟอยู่ในนั้น ไม่จำเป็นว่าต้องดำเนินเรื่องทุกวินาทีบนรถไฟ แต่มีฉากที่เกิดบนนั้นแล้วน่าจดจำ อาจจะไม่เก่ามากเพราะหนังเก่าไม่เคยดูจริงๆ ขอโทษจริงๆ

1. 5 Centimeters Per Second (2007)

มาสเตอร์พีซของ มาโคโตะ ชินไค ไม่มีใครไม่รู้จักเรื่องนี้ อย่างน้อยก็ Youe Name ไง กลับมาที่เรื่องนี้เป็นอนิเมสั้นขนาด 3 ตอน ตอนละประมาณ 20 นาที รวมก็ประมาณชั่วโมงนึง เรื่องราวโฟกัสที่ตัวเด็กหนุ่มที่ไปแอบชอบสาวคนนึง และกะว่าจะรอเขา และก็มีสาวที่มาชอบเขา แต่เขาไม่ได้ชอบตอบ เล่าแค่นี้พอ ที่ต้องเรียกว่ามาสเตอร์พีซเพราะงานภาพสวยมาก เพลงประกอบก็เพราะ ที่สำคัญชินไควาดให้รถไฟญี่ปุ่นกลายเป็นออกมาเหน็บหนาวและเหงาหงอยที่สุดในโลกไปเลย

2. Murder on the Orient Express (2017)

3. The Commuter (2018)

ลุงเลียม นีสันกลับมาบู๊อีกครั้ง คราวนี้เป็นคนขายประกันตกอับที่โดนว่าจ้างให้ตามหาคนๆ นึงบนรถไฟ แลกกับเงินแสนนึง ใช้โลเกชั่นค่อนข้างคุ้ม มีฉากสู้กันแบบลองเทคที่โคตรสนุก แม้ซีจีรถไฟตอนท้ายๆ จะไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ แต่ก็ดูได้ไม่แย่

4. Snowpiercer (2013)

นำแสดงโดยคริส อีแวน เมื่อโลกอนาคตหนาวหิมะตกทั่วโลก มนุษย์เลยต้องย้ายไปอยู่ในรถไฟที่ต้องวิ่งตลอดเวลา เป็นแอคชั่นไซไฟที่สนุกใช้ได้

5. Source Code (2011)

หนังไซไฟสุดล้ำ เมื่อพระเอกต้องย้อนเวลาไป 8 นาทีก่อนรถไฟระเบิด เพื่อสืบหาคนร้ายระเบิดรถไฟ และช่วยสาวที่ตัวเองปิ๊งรักบนรถไฟ นำแสดงโดยเจค จิลเลนฮาน

6. Train To Busan (2016)

หนังซอมบี้ที่พีคที่สุดจากเกาหลีใต้ เมื่อพ่อลูกคู่นึงจะกลับบ้านไปหาภรรยา กลายเป็นว่ามีเชื้อระบาด ซอมบี้ป่วนเมือง และซอมบี้ก็ขึ้นรถไฟมาด้วย เลยต้องหนีตายกันจ้าละหวั่น

7. The Polar Express (2004)

หนังที่ว่าด้วยความเชื่อ ว่าถ้ายังเชื่อว่าคริสต์มาสมีจริง ก็จะได้เจอสิ่งต่างๆ ในเรื่อง ออกแนวล้างสมองหน่อยล่ะ แต่มองข้ามไปก็เป็นแอนิเมชั่นที่สวยมากๆ เรื่องนึง ใช้เพอร์ฟอร์แมนแคปเชอร์ ทอม แฮงค์ ออกมาเหมือนคนจริงมาก ไว้ดูช่วงหน้าหนาวเพื่อเอาฟิลลิ่ง

8. เกรียนฟิคชั่น (๒๕๕๖)

หนังวัยรุ่นคัมมิ่งออฟเอจโรดทริปของไทยที่ดีมากๆ แต่ตัดตัวอย่างแย่ไปหน่อย หลายคนอาจจะลืมไปแล้ว แต่ฉากรถไฟของหนังเรื่องนี้สวยมากจนอยากโบกรถไฟคนเดียวไปเรื่อยๆ เลย ที่สำคัญยังเป็นฉากที่เฟียตกับกิ๊บซี่ปรับความเข้าใจกัน และได้เผยความจริงออกมา ถ้าลืมก็แนะนำให้ไปหาดูใหม่

9. Harry Potter and the Sorcerer's Stone (2001)

เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีเรื่องนี้ มันเริ่มตั้งแต่แฮกริดพาแอร์รี่ไปยังสถานีคิงครอส ไปเจอว่าการเดินทางไปชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่มันเป็นยังไง และที่สำคัญแฮร์รี่ยังได้เจอเพื่อนใหม่อีก 2 คน คือรอน กับเฮอร์ไมโอนี่ แม้ว่าทุกภาคจะมีฉากรถไฟ แต่ภาคนี้ให้เป็นที่สุด

10. The Girl on the Train (2016)

ดัดแปลงจากนังสือขายดี นำแสดงโดยเอมิลี บรันท์ เป็นหนังแนวระทึกขวัญที่มีความซับซ้อน ได้กลิ่นอายคล้ายๆ Gone Girl และเรื่องราวส่วนใหญ่เกิดบนรถไฟ

11. Spider-Man 2 (2004)

ฉากสไปเดอร์แมนดึงรถไฟให้หยุดเป็นฉากที่ดีที่สุดในหนังสไปเดอร์แมนทุกภาค ไม่มีฉากไหนจะเทียบได้อีกแล้ว ห้ามเถียง!

12. The Lone Ranger (2013)

ถึงแม้ว่าหนังจะเจ๊งแล้วเสียงวิจารณ์ก็ไม่ค่อยดี แต่ฉากรถไฟในเรื่องก็น่าจดจำ ทั้งตัวเอกปีนป่ายไปบนรถไฟ ไหนจะรถไฟตกสะพานอีก ก็ถือว่าฉากรถไฟไม่ได้แย่

13. Toy Story 3 (2010)

ฉากเปิดเรื่องที่เป็นพวกวู้ดดี้ไปช่วยเพื่อนของเขาเป็นฉากหนึ่งที่สนุกมาก อีกอย่างคือมันห่างจากภาคก่อนประมาณ 13 ปี เป็นการเติบโตของทุกอย่าง ทั้งแอนดี้ ของเล่น ทีมทำแอนิเมชั่น และเราคนดูที่โตเป็นควายแล้ว แต่ก็ยังเคยดูเรื่องนี้สมัยเป็นเด็ก

14. Hugo (2011)

หนัง 3D ที่สวยที่สุดในโลก เรื่องราววนเวียนกับเด็กชาย เด็กหญิง ช่างซ่อมของเล่น หุ่นกล คนตรวจตั๋ว หอนาฬิกา และอีกมากมาย ที่สำคัญก็คือรถไฟ ถ้าใครยังไม่ได้ไปดู ต้องไปหามาดูเลย

15. A Series of Unfortunate Events (2004)

เอาเวอร์ชั่นหนังที่มี จิม แคร์รี่แสดงนะ มีฉากนึงที่เคาท์โอลาฟขังเด็กๆ โบดแลร์ไว้ในรถที่กำลังมีรถไฟแล่นมาด้วยควมเร็วสูง นอกจากจะลุ้นมากๆ ยังโมโหจนอยากตบเคาท์โอลาฟให้ตายไปเลย

16. ANT-MAN (2015)

ฉากพระเอกกับตัวร้ายสู้กันบนรถไฟของเล่นนี่คืออัจฉริยะ เพราะทำให้รถไฟของเล่นที่ดูไม่มีอะไรร้ายแรงกลายเป็นตื่นเต้นและมีพลัง เหมือนสู้กันบนรถไฟจริง เรียกได้ว่า คิดได้ยังไงอ่ะ

17. Skyfall (2012)

ฉากเปิดเรื่องที่ เจมส์ บอนด์ ขับมอเตอร์ไซค์ไล่ล่าผู้ร้ายตั้งแต่บนหลังคาบ้านไปจนถึงรถไฟ แล้วตอนที่ไต่รถแบล็คโฮลเข้ามาในรถไฟแล้วขยับแขนเสื้อคือ แ ม่ ง โ ค ต ร เ ท่ เป็นหนึ่งในฉากเปิดหนังเจมส์บอนด์ที่ดีที่สุด

18. Fast Five (2011)

ฉากที่แก๊งพี่ดอมรวมกันปล้นรถออกมาจากรถไฟที่กำลังแล่นความเร็วสูงในตอนเปิดเรื่องโคตรบ้าพลัง โคตรสนุก นี่เลยเป็น Fast & Furious ภาคที่ดีที่สุด

19. The Taking of Pelham 123 (2009)

แดนเซล วอชิงตัน ปะทะ จอห์น ทราโวลต้า เนื้อเรื่องง่ายๆ คือ ผู้คุมสถานีต้องมารับมือกับผู้ก่อการร้ายจี้รถไฟ โดยรวมก็สนุกพอใช้ได้ล่ะ แม้ตอนจบจะกลายเป็นไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ควรพลาด

20. Unstoppable (2013)

แดนเซล วอชิงตัน อีกเช่นเคย ครั้งนี้ปะทะ คริส ไพน์ ผู้กำกับเดิมจากเรื่องก่อนหน้า เมื่อทั้งสองหนุ่มต้องมาหยุดรถไฟที่บรรทุกสารเคมีมาด้วยในขบวนก่อนที่รถไฟขบวณนี้จะตกราง และสารเคมีในเครื่องจะทำปฏิกิริยาจนเกิดการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ขนาดทำลายเมืองให้ย่อยยับได้ นิยามง่ายๆ ของหนังเรื่องนี้ก็คือ Speed บวกกับ Die Hard

21. The Wolverine (2013)

แม้ว่าหลายคนไม่ค่อยชอบภาคนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าฉากสู้กันบนรถไฟชินคันเซนโคตรเท่ โคตรเจ๋ง ผัวฟิตมาก ฟันไม่หยุด น่าจะเป็นฉากที่สนุกที่สุดในหนังแล้ว ถามว่ากำกับโดยใคร ก็ เจมส์ แมนโกลด์ ไง ผู้กำกับโลแกนที่ทุกคนอวยนักหนา

22. รถไฟฟ้ามาหานะเธอ (๒๕๕๒)

หนังรักชื่อดังของไทยที่เรื่องราวเกิดขึ้นบนรถไฟฟ้า ได้ฟิลชะนีวัยใกล้ขึ้นคานที่อยากมีผัวเพราะคนอื่นมีหมดแล้ว 555 ที่สำคัญคือหนังพาเราไปให้เห็นเบื้องหลังของบีทีเอสมากกว่าที่เราเห็นกันอยู่ทุกวัน ถึงแม้สมัยก่อนจะไม่เสียบ่อยเท่าปัจจุบัน และชื่อเสียงภาพลักษณ์ต่างๆ ก็ยังดีกว่าปัจจุบัน ก็ถือว่าคุ้มแก่การดู หยิบมาดูตอนนี้ก็ได้เห็นความเป็นไปของบ้านเมืองในยุคสมัยนึง