Kim Donghan (โด่ง) x Kim Donghyun (ดิว)
Note: ไม่เกี่ยวข้องกับเอยูไหนที่เคยแต่งมาทั้งสิ้น
Hello Baby Bird (n.)
งานสานสัมพันธ์ของเด็กปีหนึ่งคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผลัดกันเป็นเจ้าภาพสลับกันไปตามปี กิจกรรมหลักๆจะแบ่งออกเป็นการแข่งกีฬาและสันทนาการในช่วงเช้า และมีโชว์กับคอนเสิร์ตในช่วงเย็น .
.
เสียงกลองสันกำลังทำงาน เสียงเชียร์จากทั้งสองฝั่งก็ดังไม่แพ้กัน ดิววิ่งไล่ตามลูกหนังที่เพื่อนของเขาเตะมาให้ หมายมั่นว่าอีกชั่วอึดใจ เขาจะเตะบอลลูกนั้นเข้าโกลฝ่ายตรงข้ามให้ได้ภายใน
3
2
1
ปั่ก! “เฮ้ย”
โลกตรงหน้าดิวหมุนคว้างทันทีที่รู้สึกได้ถึงแรงกระแทกจากใครก็ไม่รู้ที่พุ่งเข้ามาสกัด เสียงนกหวีดดังขึ้นในจังหวะเดียวกับที่เขากำลังล้มกลิ้งลงบนพื้น โชคดีที่ไม่ได้ลงแรงมากจนบาดเจ็บอะไร นักบอลในสนามทั้งจากทีมเดียวกันและฝ่ายตรงข้ามรีบวิ่งมามุง ดิวคว้ามือใครสักคนที่ยื่นมาหาเพื่อยันตัวเองให้ลุกขึ้น
“ขอโทษที”
“ไม่เป็นไรๆ”
ดิวตอบคนที่ช่วยพยุงเขาขึ้นมาซึ่งคงเป็นคนเดียวกับที่ชนกันจนล้มนี่แหละ อีกฝ่ายในเสื้อบอลทีมเจซีดูรู้สึกผิดจนเห็นได้ชัดจนดิวต้องยิ้มให้นิดหน่อยถึงจะได้รับรอยยิ้มบางๆกลับมา
“ไหวป่ะมึง” เพื่อนของดิววิ่งเข้ามาดูอาการ
“ได้อยู่ๆ”
“ไม่เปลี่ยนตัวนะ”
ดิวส่ายหัวไปมาก่อนจะกระจายตัวกับเพื่อนไปตามตำแหน่งตามที่กรรมการให้สัญญาณ นายคนนั้นหมุนตัวไปอีกทาง เลข 9 เด่นหราบนหลังเสื้อแต่ดิวไม่ทันจะมองว่าชื่ออะไร เห็นแค่ว่าขึ้นต้นด้วยตัว D เหมือนกับเขาเลย
เกมการแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปและจบลงที่อีกฝ่ายนำไปด้วยคะแนน 2-1 ทั้งสองทีมเวียนกันจับมือหลังจบเกม นายเบอร์ 9 คนนั้นของเจซียิ้มให้เขาอีกครั้งตอนที่แถวเลื่อนมาเจอกัน ไม่สิ ก็คงยิ้มให้ทุกคนล่ะมั้ง
ในดวงตาของคนตรงหน้ามีประกายวาววับอย่างน่าประหลาด แต่เขาคงคิดไปเอง ความเหนื่อยจากการเล่นกีฬาในวันที่ร้อนแบบนี้อาจจะทำให้รู้สึกแปลกๆ
“ขาเป็นไงบ้าง”
อีกฝ่ายเอ่ยตอนที่เขย่ามือกันทำให้ดิวงุนงงไปเล็กน้อย แต่ไม่ทันที่จะได้ตอบกลับไปว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก แถวก็เลื่อนไปเสียแล้ว
แต่ถึงกระนั้นตอนถ่ายรูปรวมนักบอลจากทั้งสองทีม ดิวกับนายเบอร์ 9 ดันได้ยืนข้างกันโดยบังเอิญ ไม่ทันที่จะได้คุยอะไร ต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายไปรวมกลุ่มกับคณะของตัวเองเสียแล้ว
เหมือนว่าจะสูงเท่าๆ กันเลยนะ
.
.
“คนนั้นนักบอลเบอร์ 9 นี่นา” ดิวละสายตาจากการแสดงบนเวทีมามองหนิง เพื่อนของเขาที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะมองกลับไปยังเวทีอีกครั้งตามนิ้วของหนิงที่ชี้ไปข้างหน้า
“จำเบอร์ด้วยเหรอวะ” เขาเอ่ยแซวเพื่อนเล็กน้อย
“ก็จำดิ ตอนดูบอลจะได้บอกเพื่อนถูกว่าคนไหนหล่อ”
นายหน้าหล่อเบอร์ 9 คนนั้นตอนนี้อยู่ในเสื้อเชิ้ตสีแดงเลือดหมูกับทรงผมที่ถูกเซ็ตมาอย่างดี ตอนนี้กำลังเต้นอยู่ตรงกลางของการโชว์ชายเจซี ดิวไม่รู้เรื่องการเต้นมากนัก แต่เท่าที่ดูท่าทางที่พริ้วไหวกับความมั่นใจแล้วคงเก่งใช่ย่อย
แถมไอ้ตอนที่กระตุกเสื้อขึ้นมานิดหน่อยพร้อมกับรอยยิ้มพราวเสน่ห์นั่นเรียกเสียงกรี๊ดจากคนดูได้ทั้งงาน ไม่เว้นแม้แต่ไอ้หนิงที่นั่งข้างเขาก็มีอันต้องเขย่าแขนเขาพร้อมกับกรีดร้องไปด้วย
ก็ต้องยอมให้เขาจริงๆเลยนะครับ
.
.
จนเมื่อจบโชว์และเข้าพาร์ทของคอนเสิร์ตที่เล่นโดยปีหนึ่งของทั้งสองคณะ จากที่เป็นคนนั่งดูล่างเวที ดิวก็ได้โอกาสลุกขึ้นยืนบ้าง คนต่างหลั่งไหลและขยับกันไปยืนข้างหน้าเวทีในระหว่างที่นักดนตรีกำลังเซ็ทเครื่องเสียง
เพียงแค่เสียงกีต้าร์ในตอนแรกที่ดังขึ้นเขาก็รู้ดีว่าเพลงอะไร
ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร ไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร
ไม่รู้ว่าโลกความจริง ของเรานั้นเป็นอย่างไร
สิ่งที่สำคัญที่สุด อาจไม่สำคัญเท่าไหร่
เท่าวันที่เรา ได้เจอ ได้คุย ได้อยู่ใกล้กัน
ยินดีที่ไม่รู้จัก ของ 25hours กำลังบรรเลงในตอนนี้ มันเป็นเพลงโปรดของดิวที่มีจังหวะสนุกสนานให้คนฟังได้เอนจอยตามอย่างไม่ยากเย็น
ให้เธอลืมโลกที่กว้างใหญ่
ลืมมันไปให้เหลือแค่เพียงเรา
เก็บทุกความสุข ให้เหมือนวันสุดท้าย
ผู้คนรอบตัวของเขาขยับสับเปลี่ยนที่ไปมา ดิวที่มัวดื่มด่ำอยู่กับเสียงดนตรีไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครบ้างที่อยู่ใกล้ๆ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีคนชนนิดหน่อยจนต้องหันไปหา
ยินดีที่ไม่รู้จัก ไม่รู้จัก แค่รู้ว่ารักก็พอใจ
แค่คำว่าไม่รู้จัก ไม่รู้จัก
รักเราก็ไม่ได้น้อยลงจริงไหม
“ขอโทษที” เสียงของคนนั้นดังขึ้น เป็นนายเบอร์ 9 เจซีคนนั้นที่มายืนอยู่ข้างๆ ในจังหวะที่ดิวหันไปสบตาเล็กน้อย ฉับพลันเหมือนมีใครจุดพลุขึ้นเหนือเวทียังไงอย่างงั้น แต่ต่างไปตรงที่ไม่มีพลุที่ไหนถูกจุดขึ้น นอกจากความรู้สึกในใจที่จู่ๆก็พลุ่งพล่านขึ้นมา ดิวยิ้มให้เล็กน้อยเหมือนที่เคยบอกว่าไม่เป็นไรตอนเล่นบอล ก่อนจะหันกลับไปสนใจวงดนตรีตรงหน้าต่อโดยที่นายเบอร์ 9 ยังยืนดูคอนเสิร์ตอยู่ที่เดิม ข้างๆเขา
แค่มีเธอใกล้ๆ มันก็ใช่ ที่สุดแล้ว
.
.
“และก็ได้เวลาที่ใครหลายๆคนอาจจะกำลังรอคอยนะคะ ค่ะ ตอนนี้ก็ได้เวลาของการและของที่ระลึกกันแล้ว” เสียงเอ็มซีบนเวทีเอ่ยอย่างตื่นเต้น
ดิวหยิบของที่ระลึกที่หัวปีได้เดินแจกจ่ายก่อนหน้านี้ที่ถืออยู่ในมือ เขาเงยหน้าขึ้นมาและมองไปทางกลุ่มคนที่สวมเสื้อสีดำที่แสดงว่าอยู่อีกคณะ ด้านหน้าของดิวเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่มองมาทางเขาอย่างกล้าๆกลัวๆราวกับกำลังลังเลว่าจะเดินมาดีไหม ในจังหวะที่เธอคนนั้นกำลังจะก้าวเดินมาและทำให้ดิวตัดสินใจว่าจะเดินไปหาเองนั้น ก็มีร่างของใครคนนึงเดินมาแทรกพอดี
ดิวหยุดชะงักและพบว่าเป็นนายเบอร์ 9 คนนั้นแหละที่ยืนตรงหน้าเขาพร้อมของที่ระลึกในมือ
“แลกด้วยดิ” คนตรงหน้าเอ่ยยิ้มๆ
“อ่า ได้ๆ” ดิวยื่นของที่ระลึกในมือของเขาก่อนจะรับของที่ระลึกของอีกฝั่งมา ในมือของเขาเป็นพวงกุญแจรูปปีกนกในซองพลาสติกที่มีกระดาษเขียนข้อความอะไรบางอย่างเอาไว้
“เราโด่ง บีเจเอ็มนะ” โด่งเอ่ยขึ้นมาในระหว่างที่ดิวกำลังอ่านข้อความในกระดาษที่เป็นชื่อเฟสบุ๊คของอีกฝ่ายอยู่
“เราดิวนะ” ดิวเอ่ยพร้อมเงยหน้าขึ้น
“ไม่มีไลน์เหรอ”
“ฮะ”
“ในนี้” โด่งพูดพร้อมกับชูของที่ระลึกในมือที่ได้จากเขาขึ้นมา “อยากรู้จักอ่ะ”
ให้ตายสิ…
“dew.ddddew”
ให้ตายสิดิว...
ใจง่ายเป็นบ้าเลยว่ะ .
.
ขณะที่รถบัสกำลังมุ่งหน้าเดินทางกลับยังแถบสามย่าน เสียงสั่นจากมือถือในกระเป๋ากางเกงทำให้ดิวที่กำลังนั่งพิงกระจกมองทางข้างนอกหยิบมันขึ้นมาดูและพบว่ามีข้อความเด้งขึ้นมาบนหน้าพักจอมือถือ
Dong
ยังไม่ได้คำตอบเลย
สรุปว่าขาเป็นไงบ้างนะ
“ยิ้มไรวะดิว”
“บ้า ไม่ได้ยิ้ม” ดิวรีบดึงมือถือเข้าหัวตัวทันทีที่ไอ้ต้น เพื่อนที่นั่งข้างๆชะโงกหน้ามาหาด้วยความสงสัย ก่อนที่มันจะดึงตัวเองกลับไปนั่งที่เดิมพร้อมกับพึมพำเบาๆ
“อะไรวะ ก็ยิ้มอยู่ชัดๆ”
ดิวยักคิ้วกวนๆใส่เพื่อนครั้งนึง ก่อนจะพิมพ์ตอบอีกฝ่ายไปว่าขาของเขาไม่ได้เป็นอะไรตั้งแต่ตอนที่เล่นบอลแล้ว ทันทีที่ข้อความของดิวส่งกลับไป เขาก็ได้รับข้อความใหม่ของอีกฝ่ายส่งกลับมา สลับกันไปมาจนเข้านอน
จู่ๆก็ได้รู้จักกันซะอย่างนั้นนะ...
----
writer's talk
อภิธานศัพท์เผื่อใครจะงงมั้ยนะ เจซีก็คือวารสาร บีเจเอ็มก็คือวารสารภาคอินเตอร์คับ
#มนต101
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in