คิดว่าทุกคนคงจะเคยได้ยินว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่าของหายแล้วจะได้คืน แต่เค้าก็ยังว่ากันอีกว่าของอย่างเดียวที่จะหายในญี่ปุ่นได้ก็คือร่ม ถ้าถามว่าจริงมั้ย จากประสบการณ์ตรงก็จะขอตอบว่าจริง! คือเราไปอยู่ญี่ปุ่นแค่ 8 เดือนเอง แต่ทำของหายไป 5 ครั้ง ได้คืนมา 4 ครั้ง หายไปเลย 1 แล้วที่หายไปเลยก็คือร่มนั่นเอง...

เราทำของหายบ่อยมากๆเพราะเป็นคนซุ่มซ่าม ไม่ลืมก็หล่นหาย และครั้งแรกที่ทำของหายก็เพิ่งจะมาถึงกิฟุได้ไม่ถึงอาทิตย์เลย และของที่ทำหายไปก็คือเงินสด เงินสดจำนวน 60,000 เยน! หรือประมาณเกือบ 18,000 บาท... ตอนที่หายก็คือช็อค RIP ให้กับตัวเองแล้วเรียบร้อย คิดว่าจะบอกแม่ยังไงดีไม่ให้โดนด่า คือตอนเรามาถึงญี่ปุ่นเดือนแรกเราจะยังไม่ได้ทุนเลยต้องพกเงินสดมาจากไทยแล้วพกมาเท่าไหร่เราก็ใส่กระเป๋าตังค์ไว้หมดเลย(อย่าหาทำ) ถึงจะใจชื้นที่ว่านี่มันญี่ปุ่นนะเว้ย ยังไงก็ต้องได้คืนอยู่ดี แต่ว่าในกระเป๋าที่เราใส่เงินไว้มันไม่มีบัตรอะไรเลยมีแต่เงิน ต่อให้คนเก็บได้อยากคืนก็คงคืนไม่ได้ ตอนนั้นก็พยายามคิดๆๆๆว่ามันจะหายไปไหนได้นะ สุดท้ายก็คิดว่าน่าจะที่ซูเปอร์รึเปล่า ก็เลยลองไปตามดู ก็สรุปว่าทำตกไว้ที่นั่นจริงๆ พนักงานเก็บเอาไว้ให้ อยากจะขอบคุณเค้ามากๆ  

ครั้งแรกอาจจะคิดว่าเพราะเป็นซูเปอร์พนักงานก็เลยต้องเก็บไว้ให้ แต่มันมีครั้งที่สองอีก อันนี้วันปีใหม่เลยที่เราลืมกระเป๋าไว้ข้างทาง! กระเป๋าแบบกระเป๋าสะพายข้างเลยนะ มีเป๋าตังค์มีบัตรทุกอย่างอะ ถ้าถามว่าลืมได้ไง ก็คือเราแวะผูกเชือกรองเท้าแล้วก็เอากระเป๋าวางไว้ข้างตัว พอลุกก็ไม่หยิบมาด้วย แล้วรู้สึกอีกทีก็คือขึ้นรถบัสไปแล้วกำลังหาเหรียญจ่ายตังค์ แต่ดันหากระเป๋าไม่เจอ ก็รีบเลยจ้า บอกเพื่อน ละก็ลงป้ายถัดมาเลย แล้วก็รีบวิ่งกลับไปที่เดิม กระเป๋ายังอยู่จริงๆด้วย แล้วไม่ใช่ว่าไม่มีคนเดินผ่านมามันเลยยังอยู่นะ แต่มันต้องมีคนเดินผ่านมาแน่ๆ เพราะกระเป๋ามันถูกวางแอบไว้ข้างทาง ก็คือขอบคุณที่ไม่หยิบไปและวางไว้ให้ดีๆ แงง ของอยู่ครบเหมือนเดิม จริงๆวันนั้นเพิ่งไปไหว้ศาลเจ้าวันปีใหม่แล้วเสี่ยงเซียมซีมา เค้าบอกว่าสำหรับของหายถ้าหาก็จะได้เจอนะ ก็คือเจอจริงๆ

ส่วนครั้งที่สามนี่ทำบัตรเครดิตของญี่ปุ่นหายคิดว่าหายที่คมบินิของมอแต่ก็ไม่ได้ตามหานะอันนี้ แบบพอคิดว่าจะไปถามๆก็ลืมทุกทีเลย แล้วก็ผ่านไปสักพักก็มีข้อความติดต่อมาจากจนท.ที่ดูแลนักศึกษาต่างชาติว่าเราทำบัตรหายให้มาเอาคืน เราก็เลยรู้สึกว่ามันสุดยอดดีที่เค้าตามหาแล้วก็ติดต่อเรามาด้วยทั้งๆที่บัตรมันมีแค่ชื่อเราเท่านั้นเอง ไม่ได้เขียนสังกัดไรไว้เลย ส่วนครั้งที่สี่คือลืมโทรศัพท์เอาไว้ที่เล่นโบว์ลิง อันนี้ยังไม่ทันนึกได้ว่าลืม แต่ตอนที่ลงมาแล้วกำลังจะขึ้นรถกลับกัน พนักงานก็วิ่งเอาโทรศัพท์ลงมาคืนให้เลย ก็ได้แต่ขอบคุณเค้าไป

และนี่ก็คือประสบการณ์4 ครั้งที่ทำของหายแล้วได้คืนในญี่ปุ่น ส่วนครั้งที่ห้าเนี่ยคือวันนั้นฝนตกก็เลยกางร่มใสไปมหาลัยแล้วด้วยความร่มใสมันเยอะตอนเข้าคมบินิเราก็กลัวจะมีคนหยิบผิด เพราะที่วางร่มมันมีร่มใสเยอะมาก เราก็เลยวางไว้ข้างๆแทนแบบพิงเอาไว้ แล้วก็รีบซื้อรีบออกมา สรุปหาย! หายเฉยเลย ทั้งๆที่คิดว่าระวังแล้วนะ แล้วทำไงล่ะทีนี้จะไปหยิบร่มใครมาแทนก็ไม่ได้อีก ไม่ซื้อใหม่ด้วยเพราะที่หอมีร่มอีก ก็วิ่งตากฝนกลับหอเลยสิ ตอนนั้นแอบโกรธคนหยิบเอาไปนะ ถึงแม้ว่าอาจจะเผลอหยิบผิดไปก็เถอะ ก็เลยคิดได้ว่าหรือจะมีแค่ร่มจริงๆนะที่หายในญี่ปุ่นเนี่ย แต่จริงๆเราเคยทำบัตรซุยกะที่เติมเงินหายด้วยนะ อันนั้นคือไม่มีชื่อหรืออะไรในบัตรเลย ก็เลยคิดว่าคงไม่มีใครตามหาเราได้ ก็เลยทำใจ

เรื่องนี้เคยคุยกับเพื่อนคนญี่ปุ่นด้วยนะว่าทำไมของหายที่ญี่ปุ่นแล้วได้คืน เค้าก็ดูงงๆว่าถามทำไม มันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรอที่เก็บได้ก็ต้องคืนไง นี่ก็ถามว่าทำไมไม่หยิบไปเลยอะ เค้าก็บอกว่าหยิบทำไมอะ มันไม่ใช่ของตัวเองนะ คือเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่ทำไปแบบไม่ต้องคิดสำหรับเค้าแล้ว ส่วนเราที่เคยทำกระเป๋าตังค์หายที่ไทยสองครั้งแล้วไม่ได้อะไรคืนเลยก็ได้แต่คิดว่าความคิดนี้มันสุดยอดไปเลยนะ แต่จริงๆที่ไหนมันก็ไม่ได้มีแต่คนดีเสมอไปหรอก เพราะเพื่อนคนญี่ปุ่นก็บอกว่าเคยโดนขโมยจักรยานคันละหลายหมื่นไปเหมือนกัน ยังไงระวังไว้ก่อนก็ดีที่สุด