เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ประสบการณ์แลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น @Gifu Universityaiamaor
EP.5 GIFU Day1 รีวิวหอพัก
  • หลังจากเสร็จสิ้นการกักตัวสองอาทิตย์เราและเพื่อนๆอีก 3 คนก็จะต้องเดินทางด้วยตัวเองไปให้ถึงมหาวิทยาลัยกิฟุ เราเดินทางด้วยชิงกันเซนไปลงสถานีนาโกย่าและต่อรถไฟฟ้าไปลงสถานีกิฟุ  พอเข้าเขตนาโกย่าก็เริ่มเห็นหิมะกองอยู่ตามหลังคาบ้านข้างทางยอมรับเลยว่าตื่นเต้นมาก เพราะเพิ่งเคยเห็นหิมะครั้งแรกมันสวยมาก และระหว่างที่รอรถไฟจากนาโกย่าไปกิฟุเราก็ได้รู้ซึ้งถึงความหนาวของอากาศที่นี่ จำไม่ได้ว่าอุณหภูมิเท่าไหร่ แต่มันหนาวมาก หนาวแบบทรมาน ขนาดใส่ถุงมือก็ยังเจ็บนิ้วเลยอะ ทำให้แอบคิดว่าคนที่ไม่ถนัดอากาศหนาวแบบเราจะเอาตัวรอดในฤดูหนาวที่นี่ไปได้ยังไง

     แล้วสุดท้ายเราก็เดินทางมาถึงกิฟุโดยสวัสดิภาพมีรุ่นพี่คนเวียดนามขับรถมารับถึงสถานี แต่รถนั่งไม่พอ เรากับเพื่อนคนไทยก็เลยต้องนั่งแท็กซี่ไปมอกัน ตอนนั้นเอาจริงๆนะ จำอะไรระหว่างทางไม่ได้เลย แค่รู้สึกว่ากิฟุมันก็มีความเป็นเมืองอยู่เหมือนกันนะเนี่ย555

    พอถึงมหาลัยอย่างแรกที่จำได้คือบรรยากาศดีมาก มีหิมะตกอยู่ตามพื้น นักศึกษาญี่ปุ่นก็แต่งตัวกันดีมาก แบบว่ามองเพลินเลย555 แต่ที่เราต้องทำจริงๆก็คือตามหาหอที่รู้แค่ชื่อก็เลยพยายามลากกระเป๋าใหญ่ๆ เดินหากัน แต่ก็หาไม่เจอ สุดท้ายเลยตัดสินใจถามนศ.ญี่ปุ่นซึ่งเค้าก็ใจดีพาเราไปหาจนท. และสุดท้ายก็ไปถึงหอจนได้ ใกล้กว่าที่คิดอะ แบบมองไปก็เห็นเลย 

    มาถึงรีวิวหอ หอที่เราพักมีชื่อว่า Gifu University International House (ต่อไปนี้เราขอเรียกว่าไคคัง มาจาก 会館 ) ก็คือตามชื่อเลยไคคังเป็นหอพักสำหรับนักศึกษาต่างชาติ อยู่ภายในเขตมอเลยสามารถเดินไปเรียนแบบชิวๆได้ภายใน 10 นาที แบ่งเป็นตึก A ตึกB แยกชายหญิง แต่ว่ามีล็อบบี้รวม สามารถไปนั่งเล่นเม้ามอย ทำงานทำการบ้านได้ เทอมสองไปบ่อยมาก เป็นที่ที่ชอบมากๆ และถึงจะเป็นหอสำหรับต่างชาติแต่ก็จะมีติวเตอร์ที่เป็นนักศึกษาคนญี่ปุ่นและต่างชาติด้วยรวม 4 คน คอยดูแลหออยู่ คือมีปัญหาอะไรก็ปรึกษาได้ ทำการบ้านไม่ได้ก็ไปถามได้ อันนี้ดีมากๆเหมือนมีคนคอยซัพพอร์ทเราตลอดเวลา

    ในเรื่องของห้อง เราได้อยู่ชั้นหนึ่ง ชั้นหนึ่งมีแค่ 3 คน ติวเตอร์คนญี่ปุ่น เพื่อนคนไทย แล้วก็เรา ในห้องนอนก็จะมีเตียง โต๊ะ ตู้เย็น ชั้นวางของ ตู้เสื้อผ้า(เล็กไปนิด) มีห้องน้ำในตัว มีอ่างอาบน้ำให้ด้วย แต่ส้วมไม่มีสายชำระนะ แต่เราก็ยังโชคดีที่ชั้นหนึ่งมีห้องน้ำของหอที่มีสายชำระด้วย หลังจากรู้ก็คือไม่ใช้ของห้องตัวเองอีกต่อไป แถมบางทีก็ยังไปเจอเพื่อนที่อยู่ชั้น 2ชั้น 3 มาใช้ห้องน้ำนี้ด้วย555 ขนาดห้องก็เล็กตามสไตล์ญี่ปุ่น แต่ก็จัดสรรได้ดีไม่รู้สึกอึดอัดอะไร ส่วนห้องครัวจะใช้ของส่วนรวม ใช้ด้วยกันภายในชั้น แล้วก็ในห้องครัวก็จะมีชั้นเก็บของแยกให้ตามห้อง แล้วก็มีเครื่องซักผ้า รวมทั้งเครื่องอบผ้าให้ด้วย ใช้ได้ฟรีเลย มีโต๊ะกินข้าว บางทีก็จะกินข้าวด้วยกัน

    ส่วนเรื่องค่าหอถือว่าถูกมากเลยนะถ้าเทียบกับหอนอกหรือเมืองใหญ่ๆ ค่าหอบวกค่าส่วนกลางไม่รวมค่าไฟประมาณ 9,900 เยน ถ้าประหยัดไฟได้ก็จะเสียไม่เยอะ แต่หน้าหนาวเราเปิดฮีตเตอร์ตลอดเวลาที่อยู่ห้องเลย ก็เลยเจอค่าไฟไปจุกๆ 12,000 เยน แพงกว่าค่าหอไปอีก แต่เราก็ไม่สู้อากาศหนาวจริงๆนะยอมเสียตังค์555 อากาศที่นี่หนาวสุดก็แค่ประมาณ 0 องศาเองนะ แต่ก็มีหิมะตก ก็เลยรู้สึกว่ามันหนาวมากๆ

    เราชอบไคคังที่นี่มากๆ ไคคังทำให้รู้สึกไม่เหงาอะ แค่เดินออกมาจากห้องก็ได้เจอเพื่อนแล้ว เพื่อนคือสำคัญมากๆเลยสำหรับเด็กแลกเปลี่ยนแบบเรา อย่างช่วงทำวิจัยที่เครียดมากๆ พอได้ออกมานั่งทำกับเพื่อนก็คือกลายเป็นเรื่องสนุกกลายเป็นความทรงจำดีๆไปเลย ช่วงโอลิมปิกก็ไปนั่งดูทีวีด้วยกัน ได้นั่งเล่นคุยกัน บางทีก็มีปาร์ตี้ด้วย เป็นที่ฝึกภาษา ทั้งญี่ปุ่นและอังกฤษเลย ใครที่มานั่งล็อบบี้ต่อให้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็จะสนิทกันได้แบบง่ายได้มาก อันนี้เราถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์เลยนะ555 เพราะงี้เราก็เลยได้เพื่อนจากไคคังเยอะมาก และทุกคนก็ใจดีแล้วก็สุดยอดมากๆ ได้คุยกับคนจากหลายๆประเทศหลายๆคณะทำให้เปิดโลกแล้วก็ได้แรงบันดาลใจเยอะมาก อันนี้ขนาดไม่มีกิจกรรมหอเพราะติดโควิดนะแต่ก็ยังเป็นที่ที่ดีมากๆเลย

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in