หนังสือเล่มที่ 2 จะมาแนะนำในวันนี้ คือ “กล้าที่จะถูกเกลียด” หนังสือจิตวิทยาที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากประเทศญี่ปุ่น (หน้าปกเขาเขียนไว้อย่างนั้น) ซีึ่งหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือแนะนำที่ได้จากการอ่าน
“เทคนิคอ่านให้ไม่ลืมที่จิตแพทย์อยากบอกคุณ”
กล้าที่จะถูกเกลียด ถือเป็นหนังสือ How to ที่แตกต่างจากหนังสือ How to ทั่วไป เพราะลักษณะการเขียนเป็นการถาม-ตอบระหว่างนักปรัชญาและชายหนุ่มเกี่ยวกับการใช้ชีวิต
ตาม “หลักจิตวิทยาแบบแอดเลอร์” = นักจิตวิทยาที่นำเสนอทฤษฎี “หลักจิตวิทยาปัจเจกบุคคล”
ความน่าสนใจของเรื่องเริ่มตั้งแต่บทแรกๆ ที่นักปราชญ์กล่าวว่า แผลใจไม่มีอยู่จริง
อ่านแล้วเหมือนโดนตีหัวเข้าอย่างจัง เพราะประโยคนี้ขัดกับความรู้สึกนึกคิดของคนเรามาตลอดว่า อิทธิพลในอดีตส่งผลต่อตัวตนของเราในปัจจุบัน แต่หลักจิตวิทยาของแอดเลอร์กลับมองว่า..
“การยึดเป้าหมาย” ต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมของคนเรา
“ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำ ไม่ใช่เพราะเราเป็นมาอย่างนั้น แต่เพราะเรา ตั้งใจจะให้มันเป็น อย่างนั้น
โดยที่เราอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้
ไม่ว่าเราจะเคยพบเจอเหตุการณ์ใดๆในอดีตมาก่อนก็ไม่มีผลต่อการดำเนินชีวิตของเราในปัจจุบัน
นิสัยเป็นเพียงทัศนคติในการมองโลก ไม่ใช่ตัวตนที่ถูกหยั่งรากลึก นิสัยสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกวินาที
แต่คนเรามักเลือกที่จะไม่เปลี่ยนแปลง เพราะไม่กล้าและหวั่นใจกับผลที่จะเกิดขึ้น
ดังนั้นเราจึงนำคำว่า “นิสัยหรือสันดาน”มาเป็นข้ออ้างที่จะกระทำหรือไม่กระทำสิ่งใดๆอยู่เสมอๆ
ความน่าสนใจต่อมา คือ แอดเลอร์เชื่อว่า “ความทุกข์ทั้งหมดล้วนเกิดจากความสัมพันธ์”
ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องของส่วนตัวมากๆ เช่น การมองไม่เห็นคุณค่าในตนเอง หรือการไม่รักตนเอง
ล้วนเกิดมาจากการนำตนเองไปเปรียบเทียบกับผู้อื่นทั้งสิ้น และบ่อยครั้งที่เราก็เผลอเข้าไปก้าวก่ายธุระ (ชีวิต)ของผู้อื่นด้วยการคาดหวังว่า เขาต้องทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ เมื่อเขาไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเราได้ เราก็จะเป็นทุกข์
เราก็ต้องแยกแยะให้ออกว่า “เรื่องๆนี้เป็นธุระของใคร” เราจะไม่ไปก้าวก่ายธุระของคนอื่น และเราก็ไม่ควรให้คนอื่นเข้ามาก้าวก่ายธุระของเรา เราต้องมีชีวิตที่มีอิสระ คือ ชีวิตที่ไม่ต้องทำตามความคาดหวังของคนอื่นหรือสังคม แม้ว่าความคาดหวังนั้นจะเป็นความปรารถนาดีจากคนที่รักเราก็ตาม
หนังสือเล่มนี้ยังมีความน่าสนใจและข้อคิดอีกหลายอย่างที่ทำให้เรามีมุมมองต่อตนเองและความสัมพันธ์เปลี่ยนไป ทั้งๆที่บางอย่างอาจจะเป็นเรื่องที่เราๆท่านๆทราบกันอยู่แล้ว แต่เรากลับไม่เคยได้เพ่งมองมันอย่างตั้งใจเลยสักครั้ง การอ่านหนังสือเล่มนี้จึงถือเป็นโอกาสให้เราลองได้เข้าไปศึกษาและมองดูตัวเรา จิตใจของเราอย่างพิถีพิถันมากขึ้น เพื่อที่วันหนึ่งเราอาจจะค้นพบการมีชีวิตที่เป็นสุขอย่างแท้จริง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in