หนังสือเล่มแรกที่อยากนำมาแนะนำ คือ เทคนิค “อ่านให้ไม่ลืม” ที่จิตแพทย์อยากบอกคุณ 
ของสำนักพิมพ์ We learn   เขียนโดย คุณคะบะซะวะ ชิอง
เหตุผลที่หยิบยกหนังสือเล่มนี้ขึ้นเป็นหนังสือแนะนำเล่มแรก เพราะส่วนตัวเป็นคนอ่านหนังสือเยอะ
บางครั้งก็อ่านจบเล่มบ้างไม่จบเล่มบ้าง แต่บ่อยครั้งที่จำเนื้อหาของหนังสือที่อ่านไปแล้วไม่ได้
ดังนั้นจึงเห็นความสำคัญของการอ่านให้ไม่ลืม ซึ่งหนังสือเล่มนี้ก็ได้แนะนำวิธีที่น่าสนใจไว้หลายๆอย่าง จึงอยากจะนำมาแบ่งปันกับเพื่อนๆที่อาจจะพบปัญหาเดียวกันนี้อยู่  หรืออย่างน้อยๆก็เป็นบันทึกความทรงจำสำหรับเตือนตัวเองให้ไม่ลืม
หนังสือเล่มนี้ แบ่งออกเป็น 8 บทใหญ่ๆ สามารถอ่านสารบัญเพื่อเลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจได้ 
ซึ่งสารบัญนี้ได้สรุปสาระสำคัญของแต่ละบทแต่ละหัวข้อให้ด้วย ทำให้กลับมาอ่านซ้ำหรือหาเนื้อหาที่ต้องการจะอ่านได้อย่างรวดเร็ว 
 
สาระสำคัญที่ได้ คือ  กฎ 3 ข้อที่ช่วยให้อ่านแล้วไม่ลืม : ส่งออก อ่านขณะว่าง และอ่านให้เข้าใจ
                     ✏️ ส่งออกข้อมูลให้ได้ 3 ครั้งใน 1 สัปดาห์ : :ซึ่งผู้เขียนใช้ 4 วิธีนี้เป็นหลัก
1. อ่านพร้อมการจดโน้ต เขียน “ความรู้สึกขณะอ่าน” หรือ “ความคิดที่เปลี่ยนไป”   
2. เล่าเนื้อหาในหนังสือให้คนอื่นฟัง สรุปประเด็นและอธิบายให้คนฟังเห็นภาพ หรือนำเสนอข้อดี 5 ข้อ
3. เขียนแบ่งปันความรู้สึก แชร์คำคมในหนังสือ หรือความรู้สึกที่มีต่อหนังสือ
4. เขียนบทวิจารณ์ ถ้ายากเกินไปให้เขียนเฉพาะหนังสือที่ชอบ 
                    ? อ่านขณะว่าง อ่านในช่วงเวลาสั้นๆ 15 นาที เพราะเราจะจดจำเนื้อหาได้ดีที่สุด 
ในช่วง 5 นาทีแรก และ 5 นาทีสุดท้ายของการอ่าน 
                    ? อ่านให้เข้าใจ โดยเลือกหนังสือที่เหมาะกับความรู้ของตัวเองในขณะนั้น  
สาระจิปาถะอื่นๆ : การอ่านช่วยขจัดความเครียดและความกังวล
อ่านเรื่องที่กระตุ้นอารมณ์ความรู้สึก 
อ่านหนังสือทันทีหลังจากซื้อมา เพราะยังมีความตื่นเต้น ทำให้อ่านได้ไม่ลืม
อ่านหนังสือก่อนนอนทำให้ไม่ลืม 
อ่านหนังสือแนวเดียวกันในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้สมองเชื่อมโยงและจดจำได้ดี 
อ่านให้รู้กว้างและรู้ลึกอย่างสมดุล
อ่านหนังสือให้เหมือนการลงทุน : ระยะสั้น (อ่านข้อมูลตามอินเตอร์เน็ต ข่าวสาร) ระยะกลาง (อ่านคู่มือ How toที่สามารถนำมาใช้งานได้) ระยะยาว (อ่านปรัชญา วิธีคิด การดำเนินชีวิต)
ส่วนตัวถือว่าเป็นหนังสือที่อ่านสนุก มีวิธีปฏิบัติและเหตุผลสนับสนุนที่น่าเชื่อถือ เนื่องจากผู้เขียนเป็นจิตแพทย์จึงมีงานวิจัยและหลักวิทยาศาสตร์รองรับ ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย น่าติดตาม จึงทำให้ไม่น่าเบื่อ
แต่สุดท้าย อยากจะอ่านอะไรก็อ่าน อ่านแล้วมีความสุข ก็พอ?
				
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in