ตีสามสิบนาทีในวันธรรมดาทั่วไปอาจจะเป็นเวลาที่ผมกำลังหลับสนิท หรืออาจเป็นเวลาที่ผมกำลังนอนอ่านการ์ตูนบนที่นอนเรื่อยเปื่อย
แต่สำหรับคืนวันที่ 8 กรกฎ มันไม่ใช่แบบนั้น
ผมลุกขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน แต่งชุดกีฬาพร้อมเพื่อเตรียมตัวไปวิ่ง แต่ไม่ใช่การวิ่งออกกำลังกายแบบธรรมดาๆ เพราะผมกำลังเตรียมตัวไปวิ่งในประเพณีวิ่งเขาสามมุขของมหาวิทยาลัยบูรพา
ประเพณีนี้จัดขึ้นในวันที่ 8 กรกฎาคม ของทุกๆ ปีเพื่อเป็นการรำลึกถึงวันสถาปนามหาวิทยาลัย โดยทุกคนสามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ ทั้งศิษย์ปัจจุบัน ศิษย์เก่า อาจารย์ ประชาชนในพื้นที่ นักการภารโรง เจ้าหน้าที่หอสมุด บรรณารักษ์ ชาวไซย่า กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ดิอเวนเจอร์ส ชาวเมืองอเล็กซานเดรีย หรือจะผีห่าซาตานที่ไหนก็มาวิ่งได้หมด (ไอ้ท้ายๆ ล้อเล่นนะครับ)
การวิ่งจะเริ่มจากปล่อยตัวที่เขาสามมุข วิ่งผ่านบริเวณแหลมแท่น ไปยังวอล์คกิ้งสตรีท วิ่งเลาะตามเส้นทางไปเรื่อยๆ แล้วจะไปโผล่ที่ถนนบางแสนสายหนึ่ง (ถนนเลียบหาดบางแสน) วิ่งบนถนนเลาะหาดเรื่อยๆ ไปจนถึงวงเวียนปลาโลมา ต่อไปยังถนนลงหาดบางแสน และสิ้นสุดที่มหาวิทยาลัยบูรพา
ระยะทางและเส้นทางคร่าวๆ จะเป็นประมาณนี้ครับ
ความพิเศษของการวิ่งเขาสามมุขคือตรงเส้นชัยจะมีการพ่นตัวอักษรตัว A ไว้ที่พื้น และจะมีความเชื่อกันว่าถ้าวิ่งเข้าเส้นชัยแล้วเหยียบ A ก็จะส่งให้ผลให้เราได้เกรด A ไปด้วย ซึ่งผมเองคิดว่ามันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรเท่าไรหรอกครับ คนจะ A มันอยู่ที่ความตั้งใจมากกว่าความเชื่ออะไรแบบนี้
แต่ปีที่แล้วก็เหยียบนะ เหยียบสองตีนเลยด้วย...
ที่บอกว่าปีที่แล้วก็เหยียบนั่นเป็นเพราะผมเคยไปร่วมกิจกรรมนี้มาแล้วตอนอยู่ปี 2 ปีนั้นจำได้ว่าบรรยากาศสนุกสนานดีครับเพราะเพื่อนๆ รุ่นผมมาวิ่งกันเพียบ บรรยากาศเฮฮาบ้าบอกันดีมาก วิ่งแซงคนนู้น กวนตีนคนนี้ไปเรื่อย บันเทิงดีครับ
ตอนนี้ขึ้นปี 3 ผมเลยตั้งใจว่าอยากจะวิ่งอีกรอบ เพราะไหนๆ ช่วงที่ปิดเทอมอยู่บ้านก็ว่างอยู่แล้ว แถมคุณแฟนเองก็พลาดไม่ได้ไปวิ่งเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้เลยอยากวิ่ง ผมเลยตัดสินใจว่าปีนี้จะไปอีก
ผมอาบน้ำแปรงฟันเสร็จก็ไปเคาะห้องปลุกพราว (ชื่อแฟนผมเองครับ) ให้ตื่นบรรทม
ระหว่างที่นั่งรอพราวบวงสรวงอยู่ ผมมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วเห็นว่ามีฟ้าแลบอยู่เป็นระยะๆ แลบแต่ละทีก็ไม่ใช่แค่เบาๆ ดูเหมือนจะเป็นสีขาวไปทั่วทั้งท้องฟ้า บางครั้งก็มีเป็นเส้นสายฟ้าลงมาให้เห็น...
เหมือนเป็นคำขู่จากท้องฟ้ายังไงๆ ไม่รู้แฮะ...
ระหว่างที่เดินๆ วิ่งๆ ไปได้สักพัก ผมกับพราวก็มาถึงวงเวียนบางแสน ซึ่งนับว่าเป็นช่วงวิ่งช่วงสุดท้ายแล้ว ถ้าเป็นแข่งรถนี่ก็น่าจะเป็นโค้งสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย
ผมกับพราวเองก็เหนื่อยกันเต็มที่ คุยกันมาตลอดทางจนไม่รู้จะคุยอะไรแล้ว ในที่สุดก็จะถึงเส้นชัยสักที !
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in