ภูเขาไฟฟูจิ ประตูโทริอิ ศาลเจ้าต่าง ๆ ต้นซากุระที่ขึ้นเรียงรายตามถนนหรือสวนสาธารณะ

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่แสนสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นทะเล ภูเขา ป่าไม้ หรือทะเลทราย !

เทศกาลตามวัดหรือศาลเจ้าที่มีสีสันและคับคั่งไปด้วยผู้คน

ซาชิมิแสนอร่อยที่สดจากทะเล อาหารญี่ปุ่น รวมถึงวากาชิ (ขนมหวานญี่ปุ่น) ที่มีวิธีการปรุงรสอย่างพิถีพิถัน

มังงะ อนิเมะ หรือคาแรกเตอร์ต่าง ๆ ที่มีทั้งความน่ารักและความเท่เต็มไปหมด

หรือความญี่ปุ๊นญี่ปุ่นที่ทุกคนต่างรู้กันดีว่าเป็นเอกลักษณ์ซะจนไม่อาจมีคนชาติใดมาเลียนแบบได้

นอกจากคำตอบข้างต้นแล้ว เสน่ห์ของประเทศญี่ปุ่นก็ยังอยู่ที่ประวัติศาสตร์อันยาวนานที่มีมาตั้งแต่เมื่อ 30,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช หรือตั้งแต่ยุคหินแล้วนั่นเอง

ก่อนที่ fromJapan จะพาทุกคนเที่ยว ก็ขอเกริ่นถึงรายละเอียดของประเทศญี่ปุ่นกันสักเล็กน้อย

ประเทศญี่ปุ่น (日本) เป็นรัฐเอกราชหมู่เกาะในเอเชียตะวันออก ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกนอกฝั่งตะวันออกของเอเชียแผ่นดินใหญ่ ตะวันตกติดกับคาบสมุทรเกาหลีและประเทศจีน ซึ่งมีทะเลญี่ปุ่นกั้นไว้ ส่วนทิศเหนือติดกับประเทศรัสเซีย และมีทะเลโอค็อตสค์เป็นเส้นแบ่งแดน

เพราะตัวอักษรคันจิของชื่อประเทศญี่ปุ่นมีความหมายว่า "ถิ่นกำเนิดของดวงอาทิตย์" จึงได้ชื่อเล่นหรือฉายาเก๋ ๆ ว่า "ดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย" 

สำหรับภูมิประเทศญี่ปุ่น มีลักษณะเป็นกลุ่มเกาะกรวยภูเขาไฟสลับชั้นซึ่งมีจำนวนเกาะประมาณ 6,852 เกาะ เกาะใหญ่สุดคือ เกาะฮอนชู ฮอกไกโด คิวชู และชิโกกุ ซึ่งคิดเป็นพื้นที่แผ่นดินประมาณ 97 % ของประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนี้พื้นที่ทั้งหมดยังแบ่งเป็นเขตการปกครองเป็น 47 จังหวัดใน 8 ภูมิภาค โดยมีฮอกไกโดเป็นจังหวัดเหนือสุด และโอกินาวะเป็นจังหวัดใต้สุด ประเทศญี่ปุ่นมีประชากร 127 ล้านคน เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 11 ของโลก ชาวญี่ปุ่นเป็นร้อยละ 98.5 ของประชากรทั้งหมดของประเทศญี่ปุ่น ประมาณ 9.1 ล้านคนอาศัยอยู่ในกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศ

การวิจัยทางโบราณคดีระบุว่ามีมนุษย์อาศัยในญี่ปุ่นปัจจุบันครั้งแรกตั้งแต่ยุคหินเก่า การกล่าวถึงญี่ปุ่นเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกปรากฏในบันทึกของราชสำนักจีนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 1 ญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากจีนในหลายด้าน เช่น ภาษา การปกครองและวัฒนธรรม แต่ขณะเดียวกันก็มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง จึงทำให้ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมที่โดดเด่นมาจนปัจจุบัน อีกหลายศตวรรษต่อมา ญี่ปุ่นก็รับเอาเทคโนโลยีตะวันตก และนำมาพัฒนาประเทศจนกลายเป็นประเทศที่ก้าวหน้าและมีอิทธิพลมากที่สุดในเอเชียตะวันออก

หลังจากแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นก็มีการเปลี่ยนแปลงทางการปกครองโดยการใช้รัฐธรรมนูญใหม่ในปี 1947

ตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ถึงปี 1868 ประเทศญี่ปุ่นอยู่ภายใต้การปกครองด้วยระบบทหารเจ้าขุนมูลนาย หรือ โชกุน ซึ่งปกครองภายใต้จักรพรรดิอีกทีหนึ่ง เดิมทีญี่ปุ่นปิดประเทศและแยกตัวเป็นเอกทัศน์จากนานาชาติ แต่ก็ได้ยุติไปในปี 1853 เมื่อกองเรือสหรัฐบังคับให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศต่อโลกตะวันตก แต่หลังจากที่เกิดความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐขึ้นซึ่งกิินเวลาไปกว่า 20 ปี ท้ายที่สุดราชสำนักก็ได้รับอำนาจทางการเมืองคืนในปี 1868 ผ่านการช่วยเหลือจากหลายตระกูล เช่น โชชูและซัตสึมะ จากนั้นได้มีการสถาปนาจักรวรรดิญี่ปุ่นขึ้นในปลายศตวรรษที่ 19

ต้นศตวรรษที่ 20 ชัยชนะจากสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น และสงครามโลกครั้งที่หนึ่งทำให้ประเทศญี่ปุ่นขยายความเป็นจักรวรรดิมากขึ้น 

ปี 1937 สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ได้เกิดขึ้นไปพร้อม ๆ กับสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1941

เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงในปี 1945 นับแต่การลงมติเห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับทวนวันที่ 3 พฤษภาคม 1947 ระหว่างการยึดครองของผู้บังคับบัญชาสูงสุดสำหรับประเทศฝ่ายสัมพันธมิตร

ประเทศญี่ปุ่นปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาและราชาธิปไตยภายใต้รัฐรรมนูญ โดยมีจักรพรรดิเป็นประมุขแห่งรัฐและสภานิติบัญญัติจากการเลือกตั้ง เรียก สภานิติบัญญัติแห่งชาติ

ประเทศญี่ปุ่นเป็นสมาชิกสหประชาชาติ OECD จี7 จี8 และจี20 และถือเป็นมหาอำนาจ มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกตามจีดีพีราคาตลาด และอันดับ 4 ของโลกตามความเท่าเทียมของอำนาจซื้อ และยังเป็นผู้ส่งออกและนำเข้ารายใหญ่สุดอันดับ 4 ของโลกด้วย

ทั้งนี้ยังมีกำลังแรงงานทักษะสูงและถือเป็นประเทศที่มีการศึกษาสูงสุดประเทศหนึ่งของโลก โดยมีร้อยละของพลเมืองมีวุฒิการศึกษาขั้นตติยภูมิ (tertiary education) สูงสุดประเทศหนึ่งของโลก แม้ประเทศญี่ปุ่นสละสิทธิประกาศสงคราม แต่ยังมีกองทหารสมัยใหม่และมีงบกองทัพมากเป็นอันดับ 8 ของโลก ซึ่งใช้สำหรับบทบาทป้องกันตนเองและรักษาสันติภาพ

นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีมาตรฐานการครองชีพและดัชนีการพัฒนามนุษย์สูง ประชากรมีความคาดหมายคงชีพสูงสุดและมีอัตราการเสียชีวิตทารกต่ำสุดอันดับ 3 ในโลก ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องภาพยนตร์ที่เก่าแก่และกว้างขวาง อาหารหลากชนิดและการเข้ามีส่วนร่วมสำคัญในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีปัจจุบัน

ที่มา: Wikipedia