เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Take Mom Out to KYUSHUSor Winchester
05 : ซากุระจิมะ ภูเขาไฟที่ยังไม่หลับแห่งทางใต้

  • พวกเรากลับมาถึงสถานี Kagoshima Chuo ตอนประมาณบ่ายสอง  ดูแล้วยังเหลือเวลามากพอที่จะข้ามไปเกาะซากุระจิมะแล้วนั่งรถบัสเที่ยว

     

    ท่าเรือเฟอรี่ที่จะข้ามไปยังเกาะซากุระจิมะอยู่ทางตะวันออกของเมือง  การเดินทางที่ง่ายที่สุดคือนั่ง Kagoshima City View Bus แต่ค่อนข้างอ้อม  เพราะเป็นรถบัสท่องเที่ยว  รถบัสจะจอดตามจุดสำคัญต่าง ๆ ที่เป็นสถานที่สำคัญและเป็นจุดท่องเที่ยว  เช่น ถ้ำไซโก ทาคาโมริ  หมู่บ้านต่างชาติ ฯลฯ  เราก็เลยคิดเสียว่าการนั่งบัสวนรอบเมืองเป็นการพักขาไปในตัว  นั่งดูวิวเมืองผ่านรถบัสก็สนุกดี

     

                                                        Nikon FE + Fuji Pro 400 H

    เจอตู้ไปรษณีย์สีส้ม  น่ารัก ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน

     

    ตอนรถบัสขับเลียบอ่าว  สีน้ำทะเลสวยมาก  มองเห็นคนกำลังยืนพาย(?)อยู่บนเซิร์ฟบอร์ดด้วย

     

    ใช้เวลาสักพักบัสก็มาถึงท่าเรือ  ซึ่งอยู่ติดกันกับอวาเรียม  ตัวท่าเรือเป็นอาคารสองชั้น  ข้างในดูเงียบมาก  ผู้คนบางตา นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ น่าจะเพราะเย็นแล้ว ไม่ก็เพราะวันนี้เป็นวันธรรมดา 

                                                   Nikon FE + Fuji Pro 400 H

    ทางลงของคนกับรถแยกกันเป็นสัดส่วน 

                                                        Olympus mju ii + Fuji C200

                                                        Olympus mju ii + Fuji C200


    การขึ้นเรือเฟอรี่ข้ามไปเกาะซากุระจิมะให้ความรู้สึกเดียวกันกับการนั่งเรือข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา  เราสามารถเดินลงเรือไปได้เลย  แล้วจ่ายค่าโดยสารเมื่อถึงอีกฝั่ง  คล้าย ๆ เวลาข้ามมาจากวังหลัง  ค่าโดยสารราคา 160 เยน  รับ IC Card ทุกประเภท  แต่ถ้าใช้พวก Suica จะช้าหน่อยเพราะเขาใช้เครื่องแยก

    พอขึ้น(หรือลง)ไปบนเรือ  จะเจอชั้นที่เป็นลานจอดรถ  เดินขึ้นไป 1 ชั้นจะเป็นห้องพักผู้โดยสาร  ภายในมีห้องน้ำ  มีขายอุด้ง  มีขายขนม  กาแฟ  มันเผา  ถึงจะนั่งเรือไม่นานแต่ของกินก็เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้เลย  ขึ้นไปอีกชั้นจะเป็นชั้นคล้าย ๆ ดาดฟ้า  มีหลังคา  แต่เปิดโล่งพัดเอาลมเย็น ๆ มาเต็มที่  มีเก้าอี้และโต๊ะให้นั่งชมวิว  เราขึ้นไปได้แป๊บเดียวก็ต้องลงมา  เพราะหนาวมาก

                                                      Nikon FE + Fuji Pro 400 H

                                                         Olympus mju ii + Fuji C200

    และบนเรือมีลิฟต์ด้วยนะ


    เราเดินมานั่งตรงฝั่งหัวเรือ  เห็นภูเขาไฟซากุระจิมะอยู่ตรงหน้า

                                                       Olympus mju ii + Fuji C200


    พอถึงฝั่งซากุระจิมะ  เดินเข้ามาในตัวอาคารของท่าเรือก็เจอรูปและข้าวของเกี่ยวกับอดีตนักฟุตบอลทีมชาติ Endo Yasuhito  ตอนก่อนจะมา  ได้ยินจากแม่ว่าเขาเป็นคนเมืองนี้  และดูชาวเมืองจะภาคภูมิใจมาก ๆ  เห็นจากการตั้งป้ายไว้ตรงทางเข้าเลย

                                                      Olympus mju ii + Fuji C200


    ตอนหยิบโบรชัวร์มาจากท่าเรือฝั่งเมือง  มีบอกเอาไว้ว่าการเดินทางบนเกาะซากุระจิมะใช้เวลาเท่าไหร่  สามารถขับรถเอง  หรือจะนั่งรถบัสก็ได้  ถ้าถึกหน่อยก็เดินเอา  ข้อมูลให้เอาไว้ว่ารอบเกาะใช้เวลา 9 ชั่วโมง 


    แน่นอนว่าพวกเราโดยสารกันด้วยรถบัส  ตอนนั้นเราจำไม่ได้เลยว่าหาข้อมูลไว้ยังไงบ้าง  จำได้แค่ว่าต้องนั่งบัส  ซึ่งพวกเรารอกันผิดฝั่ง  ตอนแรกรอฝั่งท่าเรือ  แต่จุดเริ่มต้นของรถบัสมันเป็นฝั่งตรงข้ามของท่าเรือต่างหาก  แต่กว่าจะรู้ตัวก็พลาดรถบัสไปเที่ยวนึง  ระหว่างนั้นก็ซื้อของกินจากลอว์สันแล้วนั่งรอ  ยืนรอ  

                                                      Olympus mju ii + Fuji C200


    ป้ายที่ถูกต้องคือต้องข้ามถนนมานะ  จะเห็นป้ายบอกเลยว่าบัสเริ่มตรงนี้  ใครที่กำลังจะไปหวังว่าข้อมูลตรงนี้น่าจะเป็นประโยชน์ 5555


                                                          Nikon FE + Fuji Pro 400 H

                                                         Nikon FE + Fuji Pro 400 H

    ระหว่างรอลมก็แรงมากเหลือเกิน  จะนั่งก็ไม่ไหว  พยายามไปหลบหลังป้ายก็ยังหนาวอยู่  เลยเดินวนไปวนมา  พอถึงเวลาตามป้ายรถบัสก็มา  และเป็นเที่ยวสุดท้ายพอดี

                                                        Olympus mju ii + Fuji C200




    ภายในรถบัสก็หน้าตาปกติ  ไม่มีอะไรแตกต่างจากบัสในเมือง  และจากการที่มันเป็นบัสเที่ยวสุดท้าย  เลยทำให้ไม่สามารถลงตามจุดต่าง ๆ ที่จอดแล้วเดินเที่ยวก่อนจะขึ้นบัสรอบต่อไปเที่ยวต่อ  แม่ดูผิดหวังหน่อย ๆ แต่ด้วยเวลาที่มีจำกัดแม่ก็ดูยอมเข้าใจได้  ซึ่งตอนที่รถบัสเวียนบนเกาะเราก็เผลอหลับ  ตื่นมาอีกทีคือตอนถึง Yunohira Observatary ซึ่งเป็นจุดสังเกตการณ์ภูเขาไฟ  ตรงจุดนี้รถบัสจะจอดให้ประมาณ 10-15 นาที

    ไฮไลท์มันอยู่ที่ตอนเราลงจากรถ  ภูเขาไฟก็งัวเงียขึ้นมา  พ่นควันออกมาจนทุกคนต้องยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูป  ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ใกล้ ๆ เหมือนกัน  

                                                         Nikon FE + Fuji Pro 400 H

    หน้าตารถบัสที่พาพวกเราขึ้นมา



    พอครบตามเวลาที่กำหนดพวกเราก็เดินขึ้นรถบัส  และพอดูแผนที่เกาะจุดนี้เป็นจุดสุดท้ายที่บัสจอดพอดี  ก่อนจะกลับไปยังท่าเรือ

    เนื่องจากเผลอหลับไปตอนอยู่บนรถพักใหญ่ ๆ เลยรู้สึกผิด  ขากลับเลยกดชัตเตอร์มาหลายรูปหน่อย  แสงตอนเย็นสวยมาก ๆ เลย  บรรยากาศก็ดี  แต่ก็ยังรู้สึกว่าหนาวไปนิดนึง  

                                                          Nikon FE + Fuji Pro 400 H

                                                        Nikon FE + Fuji Pro 400 H


                                                           Nikon FE + Fuji Pro 400 H

                                                            Nikon FE + Fuji Pro 400 H


    พอกลับมาถึงฝั่ง Kagoshima ก็เริ่มรู้สึกเพลียแล้ว  เลยคิดว่าจะกลับไปหน้าสถานีเพื่อหาข้าวเย็นกิน  และพี่สาวอยากซื้อกางเกงใหม่  ห้างตรงสถานีมี Uniqlo พอดี  เลยคิดว่าไปตรงนั้นน่าจะได้ครบทุกอย่าง แต่ปรากฏว่าขากลับขึ้นรถบัสผิด  เพราะเข้าใจว่ามันน่าจะไปถึงสถานีแต่ดันไม่ถึง  รถเลี้ยวไปอีกทาง  เลยต้องลงจากบัสแล้วเดินย้อนมาขึ้นรถรางเพื่อพาไปหน้าสถานี  ถึงจะเสียเวลานิดหน่อยแต่ก็ได้เดินดูอีกด้านของเมือง  เจอรถติดด้วย  แต่ก็ยังสู้กรุงเทพไม่ได้หรอก


    มื้อเย็นวันนั้นเราตัดสินใจเลือกร้านโซบะ  เพราะหิว  แต่ก็ไม่อยากกินอะไรหนัก ๆ  และยังถูกดึงดูดด้วยป้ายซากุระโซบะหน้าร้าน  จริง ๆ รสชาติก็ไม่ต่างจากปกติเท่าไหร่หรอก  แค่มันสีสวยกว่าปกติเพราะทำเป็นสีชมพู  ด้วยความหิวเราก็ฟาดเรียบ




    พอจบมื้ออาหารก็ปล่อยให้แม่กับพี่เข้ายูนิโคลไป  ส่วนเรากับน้องก็ไปซื้อขนม  ลองโดรายากิในห้าง  ไม่อร่อยเลย  ซากุระโมจิก็ไม่อร่อย  ถ่ายรูปไว้ด้วยแต่อยากจะลืม ๆ รสชาติ  ขี้เกียจไปบันทึกถึงมัน 55555


    และด้วยความเมื่อยตัวและที่โรงแรมมีอ่างเลยแวะซื้อบาธบอมบ์ของ Lush มาลองด้วย  ดีเลยล่ะ  แช่แล้วสบายตัว  แต่แช่บ่อย ๆ ก็เปลืองเอาเรื่อง  ถือว่าลองให้รู้ 


    จบวันที่ 2 ในเมือง Kagoshima แล้วก็พักผ่อนเพื่อเตรียมตัวย้ายเมืองไป Kumamoto กันต่อ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in