หลังจากที่ได้รับคำเชิญชวนจากพี่ที่ออฟฟิศให้ไปเยือนบ้านพิพิธภัณฑ์ มีหรือเราจะไม่ไป
เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่เราไปบ้านพิพิธภัณฑ์ เราเดินทางไปบ้านพิพิธภัณฑ์วันที่ 11 มิถุนายน 2017
ตอนแรกก็ว่าจะทำ VLOG แหละ แต่ปรากฎว่ามือไม่นิ่ง เปิดดูแล้วปวดหัวมาก ดูไม่ทันก็เลยเทจ้า กลับมาทำ Blog อย่างเดียวก็แล้วกัน
การเดินทางมาก็สะดวก ไม่ยากเท่าไหร่ เพราะมาทางเส้นสายสอง ไปจนถึงใกล้ๆ กับทางรถไฟ อยู่ซอยศาลาธรรมสพน์ เข้าไปแล้วก็หาซอยศาลาธรรมสพน์ 3 ก็จะเจอป้ายบอกทาง
ถ้าใครจะมาโดยใช้รถประจำทาง ให้นั่ง 515 หรือ 539 จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มาลงตรงพุทธมณฑลสาย 2 หรือ เซฟอี (เหมือนกัน ป้ายเดียวกัน เผื่อกระเป๋าบางคนมึนๆ บอกแค่ว่าเป็นสาย 2 หรือบอกแค่เซฟอี อย่างเดียวจะได้ลงถูก)
พอลงป้ายแล้วก็โบกรถเข้าไปเลยจ้า หรือถ้าอยากเดินก็ได้ เพราะเราเดินมาแล้ว ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง จากแยกเซฟอีเข้าไปในบ้านพิพิธภัณฑ์ (เดินข้ามคลองเล็กๆ 2 คลองก่อน แล้วจะเจอเซเว่นที่มีที่จอดรถ ซอยศาลาธรรมสพน์ก็อยู่ไม่ไกลแล้วล่ะ
หน้าบ้านพิพิธภัณฑ์มีบอกระดับน้ำท่วมตอนปี 2554 เอาไว้ด้วย แถบนี้ก็ท่วมสูงอยู่เหมือนกัน
ด้านซ้ายมือจากหน้าบ้านพิพิธภัณฑ์ก็คือร้านกาแฟ ร้านเล็กๆ น่ารัก แต่ถ้าจะเข้าชมด้านในก็เดินตรงไปเลย มีค่าเข้าด้วยนะ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 10 บาท เรียกได้ว่าไม่แพงเลย
ด้านในก็จะมีในตัวบ้าน กับนอกชานด้านล่าง ตัวบ้านก็จะมี 3 ชั่น สามารถเดินดู ถ่ายรูปได้ทุกส่วนเลย แต่มีข้อห้ามด้วยนะ ระวังกันดีๆ ด้วยล่ะ
เราเลือกเดินเล่นตรงนอกชานก่อน เพราะว่ามันอยู่ติดกับร้านกาแฟที่เราเพิ่งเข้ามา
มีพวกเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้าเก่า เครื่องแฟกซ์เก่า สมุดเก่า มีตู้ไม้ไว้ใส่ภู่กันของสง่า มะยุระ ด้วย
ในตู้นี้มีลูกคิดจีนจิ๋วด้วย น่ารักดี 555555555
ถัดไปก็จะจัดเป็นร้านทอง แล้วก็ร้านทำฟัน
แล้วประเด็นคือเครื่องมือทำฟันสมัยก่อนโคตรน่ากลัวอ่ะ ถ้าเราเป็นคนไข้ตอนนั้นเราคงกลัวว่ามันจะต้องรุนแรงแน่นอน
แล้วก็มีร้านเครื่องดื่ม แล้วก็พวกของใช้ เครื่องใช้เก่าๆ เช่น ขวดเป๊ปซี่เก่าๆ สลักไม้ขีดไฟเก่า กล่องยาเส้นเก่า ผงชูรส แชมพู ผงซักฟอกเก่าๆ ก็มีให้ดู
ถัดเข้าไปที่ด้านในตัวบ้าน ก็จะเป็นร้านขายยา ที่มีกล่องปลาสเตอร์ยาเทนโซพลาสแบบเก่ายันแบบปัจจุบัน แพคเกตจิ้งของยาอม ยาแก้ไอต่างๆ อย่างของฮอลล์ แฮ็คส์ มายบาซิน เป็นต้น
มีเครื่องชั่งยาจีนด้วยล่ะ
มีโชห่วยด้วยนะ! ขนมเก่าๆ ที่เคยกิน ที่นี่ก็มีขายนะเธอ หลายอย่างเลย ไม่แน่ใจว่าเยลลี่ลิ้นมังกรจะมีด้วยรึเปล่า แต่มีจุ๊ปาจุ๊ปส์แบบจิ้มๆ ผงด้วยล่ะ
มีส่วนที่ขายสมุดและหนังสือด้วย (และมีหนังสือของคุณเอนก นาวิกมูล ขายด้วยนะ แต่เล่มที่เราอยากได้ดันไม่มีซะนี่) มีทั้งสมุดเล่มเล็ก สมุดเล่มใหญ่ เครื่องประดับ โปสการ์ด บลาบลา
เดินออกมาจากโซนหนังสือก็จะมีตู้เพลงให้กดด้วย
แล้วก็จะเป็นโซนขายของเล่นเก่า ซึ่งเราชอบมากกกกกกกกก มีหุ่นยนต์ตีกลอง ตัวต่อ รถ แล้วก็อีกหลายๆ อย่างที่ทำให้เราสนใจ และหยุดยืนเลือกได้อีกนานเลย
มีหุ่นโชว์ด้วย (คือมีฮาน แลนโด และเลอา จริงๆ มีโอบิวานด้วย แต่ตอนถ่ายมาไม่เห็น ถถถถถ)
ก่อนจะต้องเสียเงินให้กับของเล่นจำนวนมากแล้ว เราก็เลยเดินขึ้นชั้น 2 และชั้น 3
ซึ่งชั้น 2 มีบริการถ่ายรูปในราคา 90 บาทด้วยล่ะ
มีพวกตะเกียงเก่า แผ่นเสียง เครื่องเล่นเสียง ลำโพง วิทยุ ทรานซิสเตอร์ ของเล่น เป็นต้น
มีโซนฉายหนัง
มีร้านตัดผมด้วยล่ะ
พอขึ้นไปบนชั้นสามก็จะมีห้องเรียน เป็นโต๊ะไม้กับกระดานดำ
แล้วเราก็ลงมาที่ร้านกาแฟ ซึ่งเราว่าร้านกาแฟนี่อบอุ่นพอควรเลย ปกติจะมีขนมโฮมเมดด้วยนอกจากเครื่องดื่ม มีน้ำเปล่า น้ำอัดลม ยาคูลท์ขายด้วย ราคาไม่แพง (ก็ราคาปกติที่ซื้อเลยนะ)
ช็อคโกแลตเย็นของที่นี่ก็อร่อยนะ ไม่หวานมากเกินไป กำลังดีเลย ฟองนมก็อร่อย
แปะเมนูให้ ขอบอกว่าราคาไม่แพง แต่อร่อยมากๆ
ถ้าใครว่างๆ อย่าลืมแวะมากันนะ เพราะไม่ไกล แถมมีอะไรๆ ให้ดู ให้เล่นเยอะแยะเลย
แถมมีมุมถ่ายรูปเยอะแยะเลยล่ะ ค่าเข้าก็ไม่แพงด้วยนะ บรรยากาศภายในบ้านพิพิธภัณฑ์อบอุ่นมาก แล้วก็มีเพลงเก่าๆ เปิดคลอให้ฟังตลอดเลยล่ะ
สำหรับเรา บ้านพิพิธภัณฑ์ไม่ใช่แค่พิพิธภัณฑ์ที่เก็บของเก่า แต่มันคือสถานที่ที่เก็บเรื่องราวสมัยเราๆ ยังเด็กเอาไว้ที่นี่ และทำให้เราหวนคิดถึงช่วงเวลานั้นๆ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in