เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[JackBam] Angels /GOT7 FanFictionChunari_CJ
Chapter 6 : ตีสนิท
  • ในห้องกว้างผนังทาด้วยสีฟ้าอ่อนตกแต่งด้วยตัวการ์ตูนน่ารักๆ กับบรรยากาศผ่อนคลาย คล้ายคลีนิกสำหรับเด็ก แองเจิ้ลส์น้อยสีขาว นั่งไขว้ขาอยู่ที่ขอบเตียงตรวจ ขาเล็กที่ไขว้กันอยู่แกว่งไปมาเบาๆ ตาโตสำรวจไปรอบห้อง หาของที่ตัวเองสนใจ ระหว่างที่ชายอีกคนในชุดกาวน์ที่อยู่ในห้องกำลังสาละวนกับการทดสอบตัวอย่างมากมายตรงหน้า ตาโตพลันเหลือบไปเห็นกระดาษเอกสารสีขาวปึกหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ

              "จีนนน.."

              "หืมม"  จินยองหันตามเสียงเล็กที่เรียก

              "ขออ"  มือเล็กชูกระดาษเปล่าสีขาวหลายแผ่นที่หยิบมา

              "ได้สิ"  รอยยิ้มอ่อนโยนส่งให้แองเจิ้ลส์น้อยที่เจอของเล่นฆ่าเวลา ก่อนจะหันกลับไปตั้งสมาธิกับการทดสอบ  หูได้ยินเสียงฉีกกระดาษดังแว่วมาเป็นระยะๆ

     

    เวลาผ่านไปพักใหญ่ จินยองปล่อยให้แองเจิ้ลส์น้อยนอนเล่นบนเตียงตรวจ จนกระทั่งได้ผลการตรวจครบทุกอย่างจึงหันกลับไปหาร่างเล็ก

     

    "ผลทุกอย่างยังโอเคอยู่สินะ โชคดีนะแบมแบม.. หืมม??"   จินยองพูดกับคนที่นอนคว่ำบนเตียงตรวจ ขาเล็กยกสลับกันไปมาเหมือนเด็กที่กำลังเพลิดเพลินกับอะไรสักอย่าง แองเจิ้ลส์น้อยเหมือนว่าจะไม่ได้ยินเสียงเขาเพราะกำลังสนุกกับอะไรที่เขามองไม่เห็น ม่านกั้นสำหรับตรวจที่บังเลยหัวเตียงมาเล็กน้อยทำให้เขามองเห็นเพียงครึ่งตัวของร่างเล็ก จินยองเดินเข้าไปแล้วดันม่านออกไปจนสุด

     

    "เล่นอะไรอยู่น่ะตัวเล็ก"  ชายหนุ่มในชุดกาวน์สำรวจสิ่งที่อยู่บนเตียง เศษกระดาษชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ถูกฉีกกระจัดกระจาย ตุ๊กตาเต่าทั้งแบบพับ แบบสาน แล้วก็มีกระดาษที่ม้วนเป็นเส้นเอามาพันกันจนเป็นรูปเป็นร่าง มากมายหลากหลายขนาดกองอยู่บนเตียง เรื่องงานฝีมือพวกนี้เป็นความถนัดพิเศษของแองเจิ้ลส์ คงเพราะต้องสร้างรังตามสัญชาตญาณ

     

    แองเจิลส์น้อยลุกขึ้นนั่งคุกเข่าบนเตียง ในมือยังมีตุ๊กตาเต่าอีกตัวที่เพิ่งทำเสร็จ ชูให้จินยองดูด้วยใบหน้ายิ้มแป้น

     

    "เต่า? ชอบเหรอ?" หัวสีขาวเล็กๆ นั่นพยักหน้าตอบ

     

    "ใช่... ชอบเต่า~...  ตลกดี~" คำตอบพาให้จินยองนึกแปลกใจอยู่ลึกๆ แองเจิ้ลส์ผูกพันกับธรรมชาติก็จริง แต่ก็ไม่เคยมีใครแสดงออกว่าชอบสัตว์อะไรเป็นพิเศษมาก่อน ทำไมอยู่ดีๆ แบมแบมถึงมาคลั่งเต่าเอาตอนนี้นะ

     

    "ตรวจเสร็จแล้ว ต้องกลับแล้วล่ะ" จินยองลูบหัวเล็กเบาๆ แองเจิ้ลส์น้อยกอบเอาตุ๊กตาเต่าทุกตัวบนเตียงขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน แต่เพราะตุ๊กตามีหลายขนาด เหล่าลูกเต่าตัวเล็กๆ จึงร่วงลงจากอ้อมกอด แองเจิ้ลส์น้อยสาละวนกับการเก็บเต่าตัวเล็กตัวน้อยที่ทำยังไง ก็ไม่สามารถเก็บไว้ในอ้อมแขนเล็กได้หมด จนหน้าสวยเริ่มมุ่ย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน

     

    "ให้ฉันช่วยมั้ย"  จินยองยิ้มบาง รับกองเต่ากระดาษออกมาจากอ้อมแขนเล็ก มือใหญ่กว่านำมือเล็กให้จับที่ชายเสื้อสองด้านแล้วยกขึ้นกลายเป็นแอ่ง ส่วนอีกมือก็ค่อยๆ เก็บเต่ากระดาษใส่ลงในเสื้อให้แบมแบมจนหมด แองเจิ้ลส์น้อยยิ้มชอบใจ มือเล็กเขย่าชายเสื้อให้เต่าที่อยู่ข้างในกลิ้งไปมา

     

    “เอาล่ะ กลับกันเถอะ” จินยองคล้องกุญแจมือเข้ากับข้อมือเล็กที่ยังยึดชายเสื้อของตัวเอง กุญแจมือสีดำเชื่อมต่อกับเชือกไฟฟ้าสีเดียวกันเส้นหนาที่ใช้สำหรับแองเจิ้ลส์โดยเฉพาะ ชายหนุ่มในชุดกาวน์คล้องปลายกุญแจมืออีกด้านหนึ่งเข้ากับข้อมือของตัวเอง ถึงแม้เชือกไฟฟ้ามีความยาวมากพอที่จะเดินห่างกันได้โดยไม่อึดอัด หรือเป็นอันตราย แต่จินยองเลือกที่จะจับข้อมือเล็กเอาไว้มากกว่า

     

    แองเจิ้ลส์น้อยก้าวลงจากเตียงตามการชักนำ แต่แล้วก็ชะงักไปเล็กน้อย สายตามองกลับไปยังเตียงที่เต็มไปด้วยเศษกระดาษชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่เหลือจากการทำเต่า บางส่วนตกเกลื่อนลงบนพื้นใต้เตียง

     

    “จีน.. ขอโทษ..” ใบหน้าเล็กหันกลับมามองเขา แววตาใสเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

    “ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เอง เก็บแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว” จินยองส่ายหน้าพลางยิ้มให้ จูบลงบนผมสีขาวเบาๆ เป็นการปลอบโยน สายตาของชายหนุ่มเหลือบลงไปมองกุญแจมือที่คล้องอยู่ที่ข้อมือเล็ก หัวใจเจ็บแปลบเหมือนถูกบีบ เขาต่างหากที่ควรจะเป็นคนขอโทษ ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งมาตรการคุมเข้มของข้างบน เขาคงไม่ต้องทำแบบนี้กับแบมแบม แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่เคยใส่ใจเรื่องที่ถูกกระทำแบบนี้เลย

     

    จินยองจูงมือแองเจิ้ลส์น้อยที่วันนี้กำชายเสื้อเอาไว้แน่น แขนทั้งสองข้างประคองเสื้อไม่ให้เต่ากระดาษทั้งหลายกระเด็นกระดอนออกจากแอ่ง ตาใสมองตามทางเดินรอบๆ บ้าง สักพักก็ก้มกลับไปมองเต่าของตัวเองเพื่อระวังไม่ให้ตัวไหนตกหายไป ทั้งคู่เดินออกจากห้องตรวจในแผนกวิจัย กลับไปตามทางเดินที่นำไปสู่โดมเล็ก พนักงานที่ทำงานอยู่ในแผนกเมื่อเห็นแองเจิ้ลส์น้อยก็ขยับหนีออกห่างจากทางเดิน

     

    ประวัติทำร้ายร่างกายพนักงานมากมายตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่สถาบัน ทำให้ชื่อเสียงของแบมแบมดังในทางที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ ทุกคนมองแองเจิ้ลส์น้อยเหมือนสัตว์ป่าดุร้ายที่สามารถกระโจนขย้ำเหยื่อได้ตลอดเวลา มีเพียงเขากับแจบอม และคนใกล้ชิดอีกไม่กี่คนเท่านั้นที่มองเห็นตัวตนอีกด้านหนึ่งของแบมแบม ด้านที่บริสุทธ์และซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเอง เหมือนเด็กน้อยที่น่ารักและไร้เดียงสา เมื่อเขามอบความไว้วางใจให้ แองเจิ้ลส์น้อยก็จะตอบแทนด้วยสิ่งเดียวกัน น่าเสียดายที่ทุกคนกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้ ทำให้แองเจิ้ลส์น้อยต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวที่นี่  เพราะเขากับแจบอมเองก็มีงานรัดตัวแทบจะตลอดเวลา ถึงโดมเล็กของแบมแบม จะมีขนาดเล็กกว่าโดมแองเจิ้ลส์ แต่ก็ยังดูกว้างใหญ่หากต้องอยู่เพียงลำพังคนเดียว

     

    “อ๊ะ  จิยยองฮยองงง กำลังจะไปไหนกันคร้าบบ”  เสียงระรื่นที่เริ่มคุ้นเคยดังแว่วมา จินยองหันไปตามเสียงเรียก แองเจิ้ลส์น้อยหันตัวหลบไปข้างหลังเขา จินยองรู้สึกถึงหัวเล็กกับหลังที่แนบไปกับหลังของเขา ทำให้รู้สึกแปลกใจอยู่เล็กๆ ปกติถ้าแบมแบมจะหลบ ส่วนใหญ่จะเอาหน้าซุกหลังเขาไว้ด้วยความหวาดระแวงมากกว่า แต่วันนี้คงเป็นเพราะเต่าที่อยู่ในเสื้อพวกนั้นละมั้ง

     

    “ว่าไงแจ็คสัน”  ชายหนุ่มที่ถูกเรียกหยุดยูนิไซค์ตรงหน้าเขา ระยะห่างที่ไม่ใกล้จนเกินไป แต่ก็ใกล้มากกว่าที่ใครหลายคนจะกล้าเข้าเมื่อเห็นคนที่เขาเดินมาด้วย แจ็คสันในเสื้อยืดแขนกุดสีดำสวมทับด้วยแจ็คเก็ตหนัง กางเกงยีนส์กับรองเท้าที่เปลี่ยนจากผ้าใบธรรมดาเป็นรองเท้าคอมแบ็ตเหมือนคนอื่นๆ ในแผนกลาดตระเวน สเน็ปแบ็คใบเก่งที่วันนี้ไม่ได้ใส่กลับหลัง จึงเห็นตัวอักษรกระจกคำว่า WANG ตัวใหญ่ได้ชัดถนัดตา


    “ฉันกำลังจะพาแบมแบมกลับไปที่โดม เพิ่งไปตรวจมาน่ะ” แววตาสงสัยฉายชัดในดวงตาคมของชายหนุ่มที่มองตอบกลับมา

    “ผมไปด้วยคนได้มั้ยฮะ”  

    “ว่าไงตัวเล็ก” จินยองถามคนที่เอาหลังแนบหลังเขาจนสนิท เห็นเพียงหัวสีขาวโผล่ออกมาแวบๆ ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าหัวเล็กนั้นสั่นรัวๆ

    “เสียใจนะ ก็อย่างที่เห็น”

    “ครับฮยอง ไม่เป็นไรฮะ”

    “ฉันไปนะ”


    จินยองจูงมือแองเจิ้ลส์น้อยเดินต่อ แต่ร่างเล็กเดินตามเขาด้วยลักษณะตะแคง หันหลังให้กับแจ็คสันที่ยืนมองอยู่ จินยองหันมองร่างเล็กที่เดินท่านั้นด้วยความรู้สึกขำๆ แองเจิ้ลส์น้อยไม่ได้มีท่าทีเกลียดหรือหวาดกลัวแจ็คสันเท่าที่เขารับรู้จากยูคยอม หรือท่าทีที่แบมแบมทำเมื่อสักครู่ แต่แองเจิ้ลส์น้อยก็ไม่ยอมเผชิญหน้ากับแจ็คสันโดยตรง เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไม ร่างเล็กหันกลับมาเดินหน้าตรงเมื่อรู้สึกว่าพ้นจากสายตาของแจ็คสันที่มองอยู่ แต่ยังค้อมตัวเหมือนพยายามบังของที่อยู่ในห่อเสื้อแต่จินยองไม่ได้ใส่ใจนัก 

     

    ชายหนุ่มในชุดกาวน์สีขาวโบกมือให้แองเจิ้ลส์น้อยที่หน้าประตูกรง ร่างเล็กที่ไม่สามารถโบกมือให้เขาได้เพราะมือทั้งสองข้างยังกำชายเสื้ออยู่ก็เลยส่ายมันทั้งตัวให้เขาแทนการโบกมือ ใบหน้าสวยยิ้มแย้มก่อนจะหันหลังเดินกลับไปยังทิศที่มีต้นไม้ใหญ่ ถ้าเป็นปกติแองเจิ้ลส์น้อยคงวิ่งฉิวตัวเบากลับไปที่รังด้วยเวลาเสี้ยวนาที แต่วันนี้ร่างสีขาวกลับค่อยๆ เดินกลับไป พร้อมเต่ากระดาษที่อยู่ในเสื้อ

     

    “อารมณ์ไหนเนี่ยถึงอยากเป็นแม่เต่า หรือว่าควรจะบันทึกเรื่องนี้ไว้ใน log ความเปลี่ยนแปลงด้วยดีมั้ยนะ”  จินยองพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะปิดประตูกรงเมื่อแบมแบมเดินออกไปจนพ้นระยะ สัญญาณไฟที่แท่นสีเทาขึ้นเตือนว่าระบบรักษาความปลอดภัยกลับมาทำงานตามปกติ ชายหนุ่มเดินตรงไปยังทางออก ทันทีที่เดินมาถึงจินยองสังเกตุเห็นร่างคุ้นเคยรอเขาอยู่ที่ปลายอุโมงค์ เขาไม่ยักรู้ว่าแจ็คสันเดินตามมาด้วย

     

    “มีอะไรรึเปล่า” น้ำเสียงอ่อนโยนแฝงความกดดันเรียบๆ เอ่ยถาม


    “ไหนยูคยอมบอกว่าแบมแบมไม่อยู่ในโปรแกรมวิจัยไงละฮะฮยอง” ชายหนุ่มหน้าคมเข้มเอ่ยถามเขาออกมาตรงๆ สีหน้าและแววตาจริงจังในความต้องการคำตอบมองตรงมาอย่างไม่หลบเลี่ยง


    “ก็ใช่ ทำไมเหรอ”


    “แล้วเมื่อกี้ที่ฮยองบอกว่าพาแบมแบมไปตรวจล่ะฮะ”


    “แบมแบมต้องตรวจสุขภาพทุกเดือนเป็นประจำอยู่แล้ว เป็นการตรวจที่ไม่เกี่ยวกับการวิจัยน่ะ”


    “ตรวจทุกเดือน.. หรือว่า เด็กคนนั้นไม่สบายฮะ”


    “ไม่หรอกแจ็คสัน แบมแบมปกติดี  อืมม ถ้าจะให้สรุปสั้นๆ ล่ะก็  เป็นการตรวจเพื่อหาระยะการเข้าสู่ฤดูจับคู่ของแองเจิ้ลส์น่ะ” จินยองบอกเสียงเรียบ จนแจ็คสันไม่สามารถระบุได้ว่าคำพูดนั้นมีความนัยอะไรพิเศษแอบแฝงอยู่รึเปล่า


    “ถ้ามีอะไรจะถามอีกล่ะก็ ค่อยเจอกันตอนนายเข้าคลาสแล้วกันนะ ฉันต้องไปสรุปผลการตรวจส่งข้างบนก่อน”


    “ครับฮยอง”  จินยองเดินผ่านแจ็คสันที่ยังคงยืนนิ่ง


    “แล้วนายไม่มีอะไรทำรึไง เข้าทีมแล้วไม่ใช่เหรอ ตารางฝึกของนายล่ะ”


    “เอ่อ วันนี้มีตารางฝึกกับออสริคฮะ แต่ออสยังไม่กลับมา ผมก็เลยว่าจะมาหาแบมแบม..”


    “แต่เมื่อกี้นายก็เห็นนะว่าเด็กคนนั้นเพิ่งหลบหน้านาย”


    “ฮะ แต่เรื่องที่แบมแบมหลบหน้าผม กับเรื่องที่ผมอยากเห็นหน้าเค้า มันคนละเรื่องกันนี่ครับฮยอง” จินยองส่ายหน้าเบาๆ ให้กับคำตอบที่ตรงไปตรงมาแต่แฝงด้วยความดื้อด้านนิดๆ


    “เอาเถอะ สู้ๆ แล้วกัน ถ้ามีนายคอยเล่นด้วยอีกคน เด็กคนนั้นคงพอหายเหงาไปบ้าง” จินยองตบไหล่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสองสามทีแล้วเดินจากไป

     

    แจ็คสันเดินมาหยุดตรงที่เดิมที่เขาเข้ามาเมื่อวันก่อน รูกระสุนลูกไม้บนพื้นดินยังคงเป็นรอยลึกเหมือนจะคอยเตือนให้เขาระวังตัว ชายหนุ่มกวาดสายตามองไปรอบๆ บรรยากาศภายโดมเล็กร่มรื่นเงียบสงบ ไร้วี่แววของแองเจิ้ลส์  แจ็คสันตัดสินใจเข้ามาโดยไม่ได้ใส่เอียร์ปลั๊กเพราะท่าทีของแบมแบมเมื่อเช้า ทำให้เขาเริ่มมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ ว่าแบมแบมไม่มีทางทำร้ายเขา เหมือนอย่างที่แจบอมบอก ว่าแบมแบมทำร้ายเฉพาะคนที่คิดไม่ดีเท่านั้น ที่แบมแบมไม่ยอมเผชิญหน้ากับเขาอาจจะเพราะยังกลัวคนแปลกหน้าอย่างเขาที่เพิ่งมาใหม่มากกว่า

     

    แจ็คสันยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาอยากเจอแบมแบมก็จริง แต่พอเข้ามาแล้วก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงถึงจะได้เจอ ถ้าเรียกแล้วแบมแบมวิ่งเข้ามาหาเหมือนเจบีฮยองก็คงจะดี แต่ดูจากท่าทีเมื่อเช้าแล้วไม่น่าจะใช่

     

    “แบมแบม!!” แจ็คสันลองเสี่ยงตะโกนเรียกแองเจิ้ลส์น้อย เขาหยุดรอเหมือนที่เจบีเคยรอ สายตาคอยสังเกตรอบๆ พยายามไม่ให้ความเคลื่อนไหวแม้เล็กๆ น้อยๆ เล็ดรอดไปได้ ชายหนุ่มยืนรอจนเกือบจะตัดใจ ยอดไม้สูงบนต้นไม้ต้นหนึ่งใกล้ๆ ก็สั่นไหวผิดปกติ แจ็คสันเปลี่ยนสแน็ปแบ็คไปใส่กลับหลัง แล้วส่งรอยยิ้มกว้างโบกมือให้กับยอดไม้ที่ไหวๆ อยู่นั้น  ทันใดนั้นยอดไม้บนต้นที่อยู่ถัดออกไปทางซ้ายก็สั่นไหวคล้ายๆ กัน แจ็คสันเปลี่ยนทิศโบกมือตามความเคลื่อนไหว สักพักต้นทางขวาก็ไหวตามบ้าง ชายหนุ่มยังคงหันไปโบกมือให้ตามทิศทางที่มีความเคลื่อนไหวเช่นเคย ด้วยความรู้สึกเหมือนตัวเองดูงี่เง่านิดๆ


    “นั่นมันแบมแบมหรือลูกลิงฟะ”  แจ็คสันพยายามเพ่งมองไปยังยอดไม้ คงตลกพิลึกถ้าเขายืนโบกมือให้ลิงที่วิ่งไปมาตามต้นไม้แทนที่จะเป็นคนที่เขารอ เขาเองไม่รู้เหมือนกันว่าในโดมนี่มีสัตว์ชนิดไหนอยู่บ้างนอกจากนกที่เขาเคยได้ยินเสียง  


    ยอดไม้ยังคงไหวทางโน้นบ้างทางนี้บ้าง แต่แจ็คสันเลิกโบกมือ เขาเปลี่ยนแผนไปทำสิ่งที่เขาคิดจะทำเมื่อตอนที่เขาถูกไล่ออกไปด้วยกระสุนลูกไม้แทน มือหนาล้วงหาของที่เขาเสียบไว้ที่กระเป๋ากางเกง วันนี้เขาเตรียมมันเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงจะได้หยิบได้ทันที ไม่ต้องพะวักพะวนหาในเป้ให้โดนดีดกระสุนใส่อีก ชายหนุ่มดึงเมาท์ออแกนสีเงินขนาดเหมาะมือออกมา ปลดเป้ลงจากหลังวางไว้ข้างๆ ต้นไม้ ส่วนตัวเองนั่งลงที่โคนต้น หลังพิงกับลำต้นด้วยท่าทางสบายๆ


    “อาจจะไกลไปหน่อย แต่หวังว่าคงจะได้ยินนะแบมแบม”  มือหนาจรดเมาท์ออกแกนที่ริมฝีปาก พลันทำนองหวานๆ ก็แว่วดังไปทั่วโดมเล็ก ทำนองเพลงที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี ทำนองเดียวกับเสียงฮัมที่เขาได้ยินในคืนแรกที่เขาตามเสียงจนเดินหลงเข้ามาที่นี่ เขาไม่รู้ว่าแบมแบมรู้จักเพลงนี้ได้ยังไง แต่ความบังเอิญนี้อาจจะช่วยให้เขาดึงความสนใจจากแองเจิ้ลส์ได้


    Call you mine.. เพลงเก่าที่เขากับแม่ชอบร้องด้วยกันตอนเด็กๆ ตั้งแต่เขายังพูดไม่เป็นภาษาจนกระทั่งร้องได้จนจบเพลง เพลงแรกและเพลงเดียวที่เขาใช้ ยามหัดเล่นเครื่องดนตรีทุกชนิด ส่วนหนึ่งของความทรงจำแสนสุขในชีวิตเขา ตอนนี้เขากำลังใช้มันอีกครั้งเพื่อให้ได้เห็นหน้าคนที่เขาอยากเห็น


    เสียงเพลงยังคงดังแว่วในสายลม ยอดไม้รอบๆ หยุดสั่นไหวเหมือนกำลังตั้งใจฟัง เพียงครู่ใหญ่ ร่างที่เขาต้องการก็ปรากฏให้เห็น แบมแบมกระโดดลงจากต้นไม้ต้นแรกที่เขาเห็นว่ายอดไม้นั่นสั่นไหว ร่างสีขาวลงพื้นด้วยท่าทางเบาหวิวเหมือนค่อยๆ ร่อนลงแตะพื้น ร่างเล็กวิ่งไปแอบหลังต้นไม้ เหลือเพียงหัวเล็กๆ สีขาวที่โผล่มาแอบมองเขาอย่างตั้งใจ


    แจ็คสันหยุดเป่าเมาท์ออแกนแล้วลุกขึ้นยืน มือหนากวักให้ร่างเล็กเข้ามาหา แต่หัวเล็กๆ สีขาวนั่นสั่นรัวๆ เป็นการปฏิเสธ ชายหนุ่มก้มลงไปหยิบเป้ของตัวเองที่วางอยู่ข้างๆ แต่คอยเหลือบมองร่างเล็กที่ซ่อนอยู่หลังต้นไม้เป็นระยะเพราะกลัวว่าแบมแบมจะวิ่งหนีไปก่อน แต่หัวเล็กๆ นั่นยังคงจ้องมองเขาอยู่ในท่าเดิม มือหนาหยิบอมยิ้มแท่งโตที่เขาแอบเอามาด้วยขึ้นมาโบกให้แบมแบมดู ร่างเล็กแสดงอาการสนอกสนใจ ค่อยๆ ขยับออกจากหลังต้นไม้ แจ็คสันแกะอมยิ้มในมือแล้วยัดเข้าปาก ร่างเล็กที่กำลังทำท่าจะเดินมาหาเขาแสดงอาการผิดหวังแล้วชะงักไป ชายหนุ่มจึงก้มลงหยิบอมยิ้มอีกอันขึ้นมาจากเป้ แล้วชี้อันที่เขาอมอยู่ในปาก สลับกับอันที่อยู่ในมือ ร่างสีขาวค่อยๆ ก้าวมาหาเขาอย่างช้าๆ ด้วยความระมัดระวังผสมกับความลังเล

     

    แจ็คสันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแก็งค์ลักพาตัวเด็กที่กำลังล่อหลอกเด็กเล็กด้วยขนมหวาน หรือไม่ก็ชาวบ้านที่กำลังลอบให้อาหารแมวจรจัด แต่เขาก็ไม่รู้จะใช้วิธีไหนที่ดีกว่านี้ เขารู้ว่าแองเจิ้ลส์ไม่จำเป็นต้องกินอาหาร แต่ถึงจะกินก็ไม่มีผลอะไรเป็นพิเศษ ยังไงซะเด็กเล็กกับขนมก็เป็นของคู่กันทั่วโลก กับแองเจิ้ลส์ก็ไม่น่าจะต่างกันสักเท่าไหร่


    ในที่สุดแบมแบมก็เดินมาจนใกล้จะถึงเขา แต่ร่างเล็กหยุดยืนห่างออกจากกรงไปประมาณ 3 เมตร และไม่มีทีท่าว่าจะก้าวเข้ามาอีก แจ็คสันโบกอมยิ้มในมืออีกครั้งทั้งที่ในใจเริ่มรู้สึกผิด แบมแบมยืนมองอมยิ้มในมือเขาด้วยตะละห้อย ตากลมโตมีแววออดอ้อนอยากได้สิ่งที่เขาถืออยู่


    “ทำไมล่ะ มาเอาสิ ฉันให้นะ”  เสียงแหบต่ำของเขาฟังเหมือนตาแก่กำลังหลอกเด็กหนุ่มมาทำมิดีมิร้ายยังไงพิกล แจ็คสันกำลังคิดว่าหัวหน้าเขาห้ามไม่ให้แบมแบมรับของจากคนแปลกหน้าอะไรแบบนั้นรึเปล่า แต่ว่าครั้งที่แล้วเขาก็เข้ามากับเจบีฮยองนี่นา แล้วแบมแบมก็รับรู้แล้วด้วย งั้นทำไมแองเจิ้ลส์ถึงยังไม่ยอมเข้ามาใกล้เขาสักที  แบมแบมส่ายหน้าแทนคำตอบ มือเล็กชี้ไปที่โชคเกอร์สีดำบนลำคอขาว แล้วชี้มาที่ลูกกรงตรงหน้า แจ็คสันเข้าใจได้ในทันที โชคเกอร์นั่นใช้สำหรับควบคุมแองเจิ้ลส์ ทำให้ไม่สามารถเข้ามาใกล้ๆ ลูกกรงได้


    ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนไฟร้อนกำลังลุกในอก มือที่กำอมยิ้มอยู่สั่นระริก หัวใจเขาเต้นแรง กรามขบกันแน่นจนอมยิ้มที่คาบไว้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ  วิธีนี้แทบไม่ต่างจากที่ใช้กันในสวนสัตว์ควบคุมสำหรับสัตว์ดุร้าย แต่นี่แบมแบมเป็นแค่แองเจิ้ลส์เด็กตัวเล็กๆ ทำไมถึงต้องถูกปฏิบัติเช่นนี้ด้วย!! แจ็คสันพยายามระงับความเกรี้ยวกราดที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ในตัวเขาอย่างสุดความสามารถ ก่อนที่เขาจะทำให้แบมแบมตกใจ มือหนาก้มลงหยิบกิ่งไม้แห้งที่พื้นใกล้ๆ ตัว โยนเข้าใส่ลูกกรง กิ่งไม้กระทบลูกกรงแล้วตกลงใกล้ๆ โดยไม่มีปฏิกิริยาอื่นๆ อีก แสดงว่าลูกกรงไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน ไม่เป็นอันตรายกับมนุษย์ เขาจึงเดินเข้าไปจนติดลูกกรงแล้วให้สัญญาณกับแบมแบมว่าจะโยนอมยิ้มเข้าไป แองเจิ้ลส์น้อยพยักหน้ารับรัวๆ ในหน้าหวานเผยรอยยิ้มให้เห็น หัวใจของชายหนุ่มกระตุกวูบไปชั่วครู่ เขาเองก็เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ไฟที่ลุกโชนเมื่อครู่เหมือนถูกราดด้วยน้ำเย็น


    แจ็คสันโยนอมยิ้มให้แบมแบม กะระยะให้พ้นจุดที่ร่างเล็กยืนอยู่ไปเล็กน้อย แบมแบมหมุนตัวรับอมยิ้มได้ก่อนจะตกลงกับพื้น แองเจิ้ลส์น้อยกระโดดเบาๆ ด้วยความดีใจที่ได้ขนม มือเล็กพยายามแกะเปลือกอมยิ้มที่หุ้มอยู่ทันที แต่ดูเหมือนจะยากเกินไปสำหรับแองเจิ้ลส์น้อย เปลือกอมยิ้มสีสดถูกพันไว้อย่างหนาแน่น ใบหน้าหวานเริ่มงอง้ำด้วยความขัดใจหลังจากพยายามแกะอยู่สักพัก


    “โอ๋ๆๆ  ส่งมานี่มาเดี๋ยวฉันแกะให้”  แจ็คสันเผลอตัวออกปากโอ๋เด็กน้อยที่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้เพราะอมยิ้มที่เขาส่งให้  แบมแบมถอนหายใจแล้วโยนอมยิ้มกลับมาให้เขา มือหนารับอมยิ้มมาแล้วรีบแกะรัวๆ เพราะกลัวจะไม่ทันใจตาโตที่กำลังจ้องมือเขาไม่วางตา เพียงแป๊บเดียวเขาก็แกะเปลือกสีสดออกได้เรียบร้อย


    “นี่.. เอ้า รับดีๆ นะ อย่าให้ตกพื้นล่ะ” ชายหนุ่มกะระยะโยนไปที่จุดเดิม แบมแบมคว้าอมยิ้มแล้วส่งเข้าปากอิ่มอย่างรวดเร็ว แก้มกลมๆ ป่องออกเล็กน้อยตามขนาดของหวานที่อยู่ในปาก ใบหน้าสวยยิ้มอย่างอารมณ์ดีดูน่ารักน่าเอ็นดู แจ็คสันดึงก้านอมยิ้มออกจากปากแล้วเสียบไว้ที่กระเป๋ากางเกง อมยิ้มของเขาตอนนี้ละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเขาจึงเลือกเคี้ยวให้หมดแทน

     

    ชายหนุ่มทรุดลงนั่งชันเข่าข้างๆ ลูกกรงสีดำ แองเจิ้ลส์น้อยลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงนั่งลงขัดสมาธิด้วยระยะห่างจากเขาเท่าเดิม มือเล็กปล่อยวางลงบนตัก ก้านอมยิ้มกระดกขึ้นลงตามการเคลื่อนไหวของลิ้นเล็กภายในปาก ตาโตจ้องมองมาที่เขาแววตาสงสัยกำลังสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า


                “แบมแบม..  รู้จักชื่อฉันรึเปล่า” แจ็คสันถามช้าๆ พลางชี้มือเข้าหาตัว หัวเล็กสีขาวผงกรับลงหนึ่งครั้งเป็นคำตอบ หัวใจของชายหนุ่มเต้นด้วยความลิงโลด


                “ไหนเรียกสิ” 


    แบมแบมลังเลเพียงชั่วครู่ มือเล็กจึงยกขึ้นรูดดึงอมยิ้มออกจากปาก ปากอิ่มเปื้อนน้ำหวานดูน่าลิ้มลองยิ่งกว่าอมยิ้มที่อยู่ในมือ ลิ้นเล็กเลียริมฝีปากไล่ความเหนียวเหนอะหนะ

    “คุณ...”

    “คุณ???”  ทำไมมีคุณฟะ? แจ็คสันหรี่ตาด้วยความลุ้นระทึก เงี่ยหูฟังคำต่อไปที่จะหลุดออกจากปาก คุณแจ็ค?? คุณแจ็คสัน??

    “เต่า~~”

    “คุณเต่า??  ทำไมคุณเต่าล่ะ ไม่ใช่ๆ  นี่แจ็คสันนะ  แจ็คคค สันนนน”  แจ็คสันชี้ที่ตัวสลับกับปากที่ออกเสียงช้าๆ

    “คุณเต่า~~” แบมแบมยังยืนยันคำเดิมแล้วยิ้มให้เขาจนตาหยี

    “ไม่ใช่ ดูปากนะ นี่  แจ็คคคค สันนนนน”

    “เต่า~~” แบมแบมส่ายหน้า แล้วยืนยันคำเดิมของตัวเอง

    “แจ็ค!”

    “เต่า!”

    “แจ็คคคคค”

    “เต่า~~~~”

    “เอ้า!!  เต่าก็เต่า!” แจ็คสันยอมจำนน


    “ทำไมฉันถึงเป็นเต่าล่ะ” แบมแบมหัวเราะคิกคัก อมยิ้มในมือถูกใส่กลับเข้าไปในปาก ร่างเล็กลุกขึ้นคุกเข่าแล้วขดตัวเป็นก้อนกลม มือเล็กปิดหูแล้วทำตัวสั่นดิกๆ แจ็คสันมองท่าทางตลกๆ นั่นแล้วจึงถึงบางอ้อ แบมแบมเห็นเขาเป็นแบบนั้นเองตอนที่เขาได้ยินเสียงแองเจิ้ลส์เป็นครั้งแรก ปัดโถ่ ตอนนั้นเขาทรมานเกือบตายแต่เด็กน้อยกลับเห็นเป็นเรื่องตลกซะนี่


    แองเจิ้ลส์น้อยกลับมานั่งท่าเดิม เพิ่มเติมอาการคิกคักที่ยังไม่หยุด แจ็คสันรู้สึกอยากจะเอื้อมมือไปเขกหัวเล็กๆ นั่น หรือไม่ก็ดึงมากอดซะให้หายใจไม่ออก


    “แจ็ค..”  เสียงเล็กเรียกชื่อเขา แจ็คสันเงยหน้าขึ้นด้วยความดีใจ

    “เป็นเต่า~~” ร่างเล็กระเบิดเสียงหัวเราะจนหงายหลังไป แจ็คสันส่ายหน้าถอนใจพร้อมรอยยิ้มอ่อน อย่างน้อยร่างเล็กก็ดูท่าทางจะสนุกกับการล้อเลียนเขา ไม่รู้ว่านอกจากเจบีกับจินยองแล้วจะมีใครอีกรึเปล่าที่เคยเห็นแองเจิ้ลส์น้อยหัวเราะจนงอหงายขนาดนี้


    เสียงปี๊บดังขึ้นเบาๆ ที่สมาร์ทริสแบนด์ของเขา แจ็คสันยกข้อมือขึ้นดู ข้อความแจ้งว่าออสริกกลับมาที่แผนกแล้ว แองเจิ้ลส์น้อยที่เพิ่งหยุดหัวเราะลุกขึ้นนั่งคุกเข่า


    “ฉันต้องไปแล้ว” แจ็คสันชี้ที่ข้อมือ แบมแบมพยักหน้ารับเบาๆ แล้วลุกขึ้นยืน แก้มใสยังเป็นสีชมพูระเรื่อจากการหัวเราะเมื่อสักครู่ แจ็คสันลุกเดินไปหยิบเป้ขึ้นสะพายหลัง


    “แล้วฉันจะมาใหม่นะ” แจ็คสันโบกมือให้ร่างเล็ก แบมแบมส่งยิ้มให้ ยกมือขึ้นโบกตอบน้อยๆ แจ็คสันหัวเราะแล้วเดินจากไป ชายหนุ่มไม่ได้หันกลับมามองจึงไม่ได้เห็นแองเจิ้ลส์น้อยที่ค่อยๆ ลดมือลง สายตามองตามส่งเขาปรากฏแววเศร้าสร้อย รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆ จางหาย มือเล็กดึงอมยิ้มที่ขนาดลดลงไปมากออกจากปาก เสียงกระซิบแผ่วเบาลอยหายไปกับสายลม ไม่มีวันส่งถึงใครบางคนที่เดินหายลับไป..


    “เจียเออร์...”

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in