เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
EVERRAIN เมื่อฝนหยดEINRO
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน กระต่ายกลางสายฝน (Rabbit in the Rain)
  • วันอาทิตย์ที่ 4  เวลา 10.30 ปี 20xx  

    เด็กหนุ่มนามว่า ฮีท ก้าวออกจากหอพักย่านชานเมืองของเขาอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจนัก เพื่อไปพบกับเพื่อนร่วมงาน ที่ร้านกาแฟเจ้าประจำที่อยู่ห่างจากที่พักของเขาไม่กี่ร้อยเมตรในวันหยุดที่ฝนตกหนัก ก่อนที่เขาจะเดินไปยังร้านกาแฟ ฮีทเลือกที่จะเข้าร้านสะดวกซื้อก่อนเพื่อที่จะหยิบ มื้อเช้า อย่างง่ายๆ กล้วยหอมหนึ่งลูกกับซาลาเปาไส้ครีม ที่เขารีบซื้อและรีบกินมันอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ได้สนใจรสชาติของมันเท่าไรนัก เขาแค่ต้องการได้พลังงานและเพิ่มน้ำตาลในเลือดหลังจากที่นอนหลับมาราธอนมาก
    กว่า 24 ชั่วโมง เด็กหนุ่มยังรู้สึกปวดบริเวณด้านหลังคอ ตุบๆ หลังจากการนอนมากเกินไปและพิษแอกอฮอลล์ที่ยังตกค้างอยู่ในร่างกายของเขา ประสาทสัมผัสเหมือนยังไม่ตื่นตัวเต็มที่และเหมือนจะไม่สามารถตอบสนองอะไรได้ดีมากนัก โชคดีของเด็กหนุ่มที่วันนี้สำหรับเขาไม่ใช่วันที่มีแดดแรงจ้าจนทำให้เขาแสบตา 

    ฮีทกางร่มแล้วเริ่มก้าวเดินอย่างๆช้าท่ามกลางฝนที่ดูไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตกเร็วๆนี้เพื่อไปถึงจุดนัดพบกับปรีเพื่อนของเขา ฮีทไม่ใช่คนที่รังเกียจฝนตกหรือสภาพอากาศแบบนี้แต่อย่างใด กลับกันเขาชอบเวลาที่ฝนตก อย่างน้อยมันก็เป็นช่วงเวลาไม่กี่ช่วงที่ประเทศที่เขาอยู่จะหายร้อนและเย็นขึ้นมาสักพักหนึ่ง ระหว่างที่เขาก้าวเดินเขาก็คิดถึงเรื่องต่างๆนานา เขาคิดว่าเขาควรจะตัดสินใจหยุดเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนเลวของเขาสักพักหนึ่ง ที่เรียกว่าเพื่อนเลวไม่ใช่เพราะว่า เพื่อนของเขาเป็นอาชญากร หรือเป็นคนจิตใจเลวร้าย แต่คำว่าเพื่อนเลวหมายถงเพื่อนสนิทกลุ่มหนึ่งที่เขาไว้ใจได้แม้ว่าพวกมันจะทำตัวไม่ค่อยน่าไว้ใจก็ตาม แต่ว่าตลอดหลายปีไม่ว่าเรื่องดีหรือร้าย เพื่อนกลุ่มนี้ก็อยู่กับเขาตลอดเวลา

    'อีกไม่กี่เดือนแล้วสินะ....' เด็กหนุ่มนึกขึ้นในใจเมื่อเขานึกถึงกลุ่มเพื่อนของเขาและเวลาที่กำลังค่อยๆนับถอยหลังลง เด็กหนุ่มเดินต่อไปอย่างเงียบๆท่ามกลางสายฝนที่ล้อมรอบเขา

    ในที่สุดเขาก็เดินมาถึึงหน้าร้านกาแฟ In the Rabbit's Eye ร้านกาแฟเจ้าประจำของเขา  ซึ่งฮีทกับเพื่อนจะเรียกว่าร้านตากระต่าย เนื่องจากมันเรียกง่ายกว่าชื่อจริงๆของมัน
  • ก่อนที่จะเข้าไปข้างใน ฮีทชะเง้อมองเข้าไปในร้านเพื่อหาเพื่อรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนเลวของเขา ปรี 

    ปรีนั่งอยู่ข้างในร้านซึ่งติดอยู่กับมุมทางขวามือของร้านติดกับชั้นหนังสือและชั้นวางของต้นไม้หลากหลายพันธุ์ เป็นโต้ะกาแฟขนาดกลางๆสำหรับนั่งได้สี่คน ซึ่งเก้าอี้นั้นปรีได้ใช้ไป 2 ที่ ที่ๆเขานั่งอยู่และที่ๆเขาวางกระเป๋าของเขา 

    "ว่าไงเจ๊ ผมขอเหมือนเดิมนะ" เด็กหนุ่มทักทายเจ้าของร้านอย่างเป็นกันเองก่อนที่จะสั่งเมนูประจำที่เขาชอบจะสั่งเสมอเวลาไปร้านกาแฟ 

    "อ้าวฮีีท ว่าไง.....อเมริกาโน่ร้อนไม่ใส่น้ำตาลเหมือนเดิมเนอะ" เจ๊ผู้ที่กำลังยุ่งๆอยู่กับการตั้งร้านกาแฟของเทอที่เพิ่งจะเปิดในช่วงสายของวันอาทิตย์ 

    แม้ฮีทจะเรียกว่าเจ๊แต่ว่าอายุของเจ๊นั้นไม่ได้ห่างจากเด็กหนุ่มเท่าใดนัก แต่ด้วยท่าทางที่ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่และเอาการเอางานจึงทำให้ลูกค้าเจ้าประจำเรียกว่าเจ๊มากกว่าที่จะเรียกว่าพี่หรือชื่อจริง ที่น่าตลกกว่าคือเจ๊นั้นไม่ได้มีเชื้อสายจีนแต่อย่างใด แถมยังมีเชื้อสายแขกและนับถืออิสลาม เจ๊เป็นผู้หญิงที่สูงราวๆ 160 เซนติเมตร ผมสีดำสนิทเกินความจำเป็นจากการย้อมกลบการย้อมสีเก่าและมีมือที่หยาบกร้านจากการทำงานอย่างหนักหน่วงในการดูแลร้านกาแฟมาคนเดียวอย่างยาวนาน เธอมีแววตาที่เป็นผู้หญิงขี้เล่นและเป็นกันเองแต่แววตาเหล่านั้นช่วงนี้ดูอ่อนแรงลงจากการที่เธอติดการดูซีรี่ย์อย่างมาราธอน ริมฝีปากที่อวบอิ่มจนค่อนไปทางหนาและจมูกที่โด่งเป็นสันแม้ว่าจะดูเหมือนผ่านการศัลยกรรมมาแต่เจ๊ยืนกรานว่าแม่ให้มาจริงๆ นอกเหนือจากนั้นแล้วเจ๊เป็นผู้หญิงที่ไม่ได้มีลักษณะโดดเด่นอะไรมากมาย เรื่องจากสัดส่วนของเธอ เพื่อนเลวของฮีทมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต่ำกว่ามาตรฐาน 
     
    หลังจากกล่าวทักทายเจ๊เสร็จแล้ว ฮีทได้เดินไปหาโต้ะของปรีพร้อมกับวางสัมภาระของตัวเองไว้ข้างๆเก้าอี้ของเขา ปรียังก้มหน้าก้มตาอยู่กับโน้ตบุคของเขาซึ่งเหมือนจะยังไม่รู้ตัวว่าเพื่อนของเขานั้นได้มาถึงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

    ปรีเป็นเด็กหนุ่มที่ค่อนข้างสูงแต่ผอม ส่วนสูงที่สูงเกือบ 180 เซนติเมตร หน้าตาสะอาดสะอ้านซึ่งขัดกับเสื้อแขนยาวอละกางกางลายทหารของเขาที่ดูรุ่มร่ามและใหญ่กว่าตัว ฮีทไม่เคยเข้าใจว่าตัว ปรีก็สูงทำไมจึงเลือกใส่ชุดที่ใหญ่กว่าตัวเองเสมอ เมื่อผสมกับผมที่รกรุงรัง และขอบตำดำคล้ำจากการนั่งแก้งานมาทั้งคืน ทำให้ความสะอาดสะอ้านของหน้านั้นดูหมองและเหมือนพรานป่ามากกว่าจะเป็นนักศึกษาใกล้จบ

  • ซ่า....ซ่า....ซ่า....

    ฮีทยังคงได้ยินเสียงฝนตกอย่างไม่หยุดหย่อนภายนอกร้านเหมือนเดิม

    ปึก!

    ฮีททักทายเพื่อนของเขาด้วยการเตะขาโต๊ะเบาเป็นการส่งสัญญานการมาถึง เด็กหนุ่มผมรุงรังก็ได้เงยหน้าขึ้นมามองฮีทด้วยสายตาที่เหมือนอารมณ์ไม่ค่อยจะสู้ดีนักพร้อมกับทักทายตามประสาเพื่อน

    "ว่าไง.....สภาพดูไม่จืดเลยนะ" ปรีทักทายฮีทพร้อมกับรอยยิ้มยียวนหลังจากได้พบเพื่อนผู้หายสาบสูญไปจากสังคมหนึ่งวันเต็มๆ หางตาของปรีเหล่มองที่สัมภาระของฮีทอย่างสงสัยแต่ไม่ได้ถามอะไรให้มากความ

    "เออ  หนักเกิน สงสัยต้องพักบ้างแล้ว ไม่งั้นตับแข็งตายก่อนเรียนจบพอดี" ฮีทบ่นออกมาอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก การเที่ยวกลางคืนสำหรับเขาถือเป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่งแต่พักนี้ดูเหมือนเขาจำเป็นต้องพัก ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง หนึ่งในนั้นคือเหตุผลที่เขามาเจอปรีในวันนี้

    "เอ้า...นี่มาช่วยดูนี่หน่อยส่งไฟลล์ไปให้แล้ว ช่วยเช็คที" ปรีส่งให้งานที่ตัวเองทำอยู่ให้ฮีทช่วยดู งานชิ้นนี้เป็นงานที่ใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเคยทำมา 

    ปกติแล้วฮีทกับปรีเป็นคู่หู่กันมาตั้งแต่ช่วงเข้ามหาวิทยาลัยปีแรกๆ และนี่คือกิจการที่พวกเขาทำมาสักพักแล้ว การรับจ้างทำงาน แน่นอนพวกเขารู้ดีว่านี่คืองานที่มีความเสี่ยง(ถ้าถูกจับได้) แต่ผลตอบแทนที่ได้รับก็นับว่าคุ้มค่าพอสมควร งานจะเป็นงานที่เรียกได้ว่าไม้จิ้มฟันยันเรือรบ เขียนเรียงความ รับแปลภาษา ทำงานกลุ่ม ทำธีสิสหรือวิทยานิพนธ์ งานยิ่งยาก ความเสี่ยงยิ่งเยอะ ค่าตอบแทนยิ่งเยอะขึ้น งานคราวนี้คืองานวิจัยกลุ่มสิบคนที่ปรีตกปากรับว่าจะทำโดยใช้แค่กำลังคนแค่ตัวเขาเองกับฮีทเพื่อให้ได้ค่าตอบแทนที่ไม่ต้องมีคนหาร  

    "เห้อ....วันนี้จะให้กูทำไรอีกบ้างละ" ฮีทเริ่มหงุดหงิดทุกครั้งที่เขาต้องมานั่งรับกรรมครั้งนี้โดยเฉพาวันนี้และช่วงนี้  "ไม่มากหรอก แค่ตรวจแกรมม่าภาษาอังกฤษแล้วหาข้อมูลใช้อ้างอิง...."ปรีพูดยังไม่ทันจบ ฮีทก็พูดแทรกขึ้นมา "ทำเองก็ได้ไม่ใช่หรอวะ ไม่เห็นต้องเรีียกมาช่วยเลยนี่"

  • หางตาปรีกระตุกเข้ามาด้วยความหงุดหงิด "ไอนี่นิ ฟังให้จบก่อนสิวะ ที่จะให้ทำน่ะคือตรวจแกรมม่าที่ข้าทำเสร็จไว้แล้วและหาข้อมูลมาอ้างอิงที่เขียนไว้" ฮีทเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ตัวเองเจอคืออะไร สิ่งที่ปรีทำคือการปั้นน้ำเป็นตัวอย่างแท้จริง ชิ้นงานที่เขาทำนั้นเสร็จแล้วก็จริงแต่ไม่ได้ผ่านการใช้หลักการหรือการอ้างอิงใดๆเลยก็ตาม ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆก็ ปรีแถงานขึ้นมาแล้วหน้าที่ของเขาคือการตามแก้และเอาข้อมูลเข้ามาเสริมและปรับทุกอย่างตามเห็นสมควร โชคดีที่ปรีมีความสามารถในการแแถสดอย่างไม่มมีใครเทียบได้

    ฮีทเมื่อจับใจความได้แล้วก็บ่นอุบอิบอยู่ตามลำพังพร้อมกับเริ่มเปิดโน็ตบุ้คของเขาและเสียบหูฟังเข้าไปเพื่อจะเริ่มอยู่ในโลกส่วนตัวของเขาเอง สัญญานอินเตอร์เน็ตนั้นไม่ใช่ปัญหาเนื่องจากเขามาที่ร้านตากระต่ายประจำ เจ๊เลยให้อินเตอร์เน็ตของออฟฟิศร้านไว้กับฮีทซึ่งใช้แยกจากอินเตอร์เน็ตของลูกค้าอื่นๆ 

    แกร้ก! 

    เสียงของแก้วกาแฟดังกระทบดังกับโต๊ะไม้แม้จะไม่ได้หกหรืออะไร แต่เสียงและกลิ่นหอมของาแฟทำให้ฮีทหลุดจากภวังค์นโลกส่วนตัวเขา เจ๊เดินเข้ามาเสริฟกาแฟให้พร้อมกับวางบิสกิตรูปกระต่ายซึ่งเป็นเครื่องเคียงประจำร้านที่จะให้สำหรับทุกคนที่สั่งเมนูร้อน บางครั้งเจ๊จะมีลูกเล่นเพิ่มเติมโดยการเคลือบช็อคโกแลตหรือเสริฟพร้อมมาชเมลลโล่ แต่วันนี้ดูเหมือนเจ๊จะติดซีรี่ย์เกินกว่าที่จะคิดลูกเล่นอะไร 

    ฮีทขอบคุณแล้ววางเงินจำนวนพอดีไว้บนถาดก่อนที่จะหยิบถ้วยกาแฟเข้ามาใกล้จมูกของเขาเพื่อสูดกลิ่นไอของกาแฟที่เพิ่งชงเสร็จใหม่ๆก่อนที่จะค่อยๆจิบกาแฟที่ชงอย่างดี อเมริกาโน่คือกาแฟที่เขาชอบที่สุดในบรรดาเมนูกาแฟทั้งหมด ด้วยความเข้มข้นไม่มีนมหรือครีมเทียมเจือปนทำให้ เขาชอบที่จะได้ลิ้มรสชาติกาแฟแบบเต็มที่แม้ว่าทุกคนจะบอกว่ากาแฟที่เขากินรสชาติเหมือนน้ำผสมดิน แต่ก็อีกนั่นแหละรสนิยมใครรสนิยมมัน

  • ฮีทเริ่มได้สติจากอาการจำศีลหนึ่งวันเต็มๆแล้วจากการได้กินมื้อด่วนและการอัดฉีดคาเฟอีนเข้ากระแสเลือด เขาทำท่ามือทั้งสองข้างประสานแล้วยืดออกไปข้างหน้าที่เขาติดจากพวกแฮคเกอร์ในหนังที่ต้องยืดเส้นเวลาที่จะพิมพ์ข้อมูลลงบนแป้นคีย์บอร์ด ซึ่งฮีทก็ไม่รู้จะทำไปทำไมเหมือนกัน 

    เขาเหลือบไปมองปรีที่ตอนนี้กำลังก้มหน้าก้มตาปั้นน้ำเป็นตัวในงานส่วนต่อไป ก่อนที่ตัวของเขาเองจะเริ่มจมอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ของตัวเอง

    เวลา 15.00
     
    ฮีทรู้สึกล้าตานิดหน่อยจากการที่จ้องหน้าจอเป็นเวลานาน เด็กหนุ่มจึงเอามือทั้งสองข้างนวดคลึงเบาๆที่ตาของตัวเอง แล้วเอนตัวลงบนเก้าอี้ไม้ที่นั่งไม่ค่อยจะสบายเท่าใดนัก เขาแหงนหน้ามามองปรีอีกรอบแล้วก็ต้องสบถในใจเบาๆ จากภาพที่เขาเห็นตรงหน้า

    'ถุ้ย! นึกว่าจะแน่ เห็นอยากได้เงินนักหนา หลับสบายเลยนะ' ภาพที่เขาเห็นคือปรีที่หลังนั้นพิงชิดกับเก้าอี้ไม้คอแหงนไปข้างหลังพร้อมมีน้ำลายไหลออกมาจากปาก ฮีทส่ายหัวอย่างช้าๆก่อนที่จะล้วงเข้าไปหยิบเครื่องฆ่าเวลาของเขาออกมา ยาเส้นสำเร็จรูปพร้อมที่กรอง หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า บุหรี่ เขาเดินออกไปทางหน้าร้าน พร้อมกับเอามือป้องบุหรี่ที่เขาคาบไว้ในปาก ก่อนที่จะลั่นไกดินปืนที่อยู่บนไฟแช็ก

    แช้ะ....แช้ะ....พรึ่บ
     
    เขาสูดหายใจเข้าปอดอย่างช้าๆแล้วพ่นออกมาจนหมดปอดมองออกไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย ใจจริงแล้วเขาอยากจะเดินเข้าไปเอาโทรศัพท์มือถือมาเช็คข้อความแต่เขาเกรงใจคนอื่นและขี้เกียจเกินกว่าที่จะเดินเข้า ทัศนียภาพที่ฮีทเห็นนั้นเป็นภาพถนนสีเทาๆที่รถค่อยๆขับผ่านไปมาในบ่ายวันอาทิตย์ ที่มีฝนตกหนัก เขาเริ่มรู้สึกหงุดหงิดที่พยากรณ์อากาศเมื่อเช้านั้นโกหกเขาแบบเต็มๆ แต่ก็นั่นแหละพยากรณ์อากาศไม่ได้ทายแม่นตลอดสักหน่อยนี่นะ 

    ซ่า....ซ่า....ซ่า...

    เสียงฝนที่ตกกระทบกับหลังคา กระทบกับรถยนต์และกระทบกับถนนนั้นทำให้เกิดเสียงตกกระแทกที่น่าฟังเวลานอนและน่ารำคาญเวลาทำงาน 

    'เมื่อไหร่จะหยุดตกนะ ตกมานานแล้วแท้ๆ' ฮีทนึกขึ้นในใจก่อนที่จะคีบบุหรี่ออกจากปากตัวเองก่อนจะดีดมันลงไปตรงทางเท้าอย่างไม่แยแส


  • ฮีทเข้ามาข้างในร้านดังเดิมพร้อมสั่งน้ำเปล่าหนึ่งขวดเพื่อดื่มแก้กระหาย ก่อนที่จะเดินกลับมานั่งประจำที่ของเขา ก่อนที่เขาจะพบว่าเพื่อนเลวของเขาและของๆมันที่เคยนั่งอยู่ตรงโต๊ะนี้ัหายไปแล้ว

    "เจ๊ ไอ้ปรีมันไปไหนแล้ว" ฮีทถามพร้อมกับทำท่าทางมุดไปใต้โต้ะและมองไปทีข้างหลังชั้นหนังสือเหมือนเวลาที่ตัวการ์ตูนพยายามหาคู่ปรับของมันแม้ว่าที่ซ่อนมันจะไม่สมเหตุสมผลก็ตาม ฮีทมั่นใจว่าระหว่างที่เขาอยู่ข้างนอกนั้นเขาไม่ได้เห็นปรีเดินออกมาข้างนอกแต่อย่างใด หรือต่อให้อย่างน้อยตัวเขาเหม่อลอยแค่ไหน ไอ้เพื่อนเลวของเขาก็คงไม่ไปโดยไม่บอกลากันก่อน

    เจ๊ทำหน้าตาสงสัย เหมือนไม่เข้าใจในคำถามของฮีทพร้อมกับถามกับมาที่ฮีทซึ่งเป็นคำถามที่ทำให้ฮีทรู้สึกงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก

     "อะไรของแกวะฮีท ปรีไม่ได้เข้ามาที่ร้านวันนี้ซักหน่อย แกนั่งอยู่โต๊ะนั้นคนเดียวตั้งนานแล้วนะ" 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in