ไดอารี่ที่รัก
วันนี้ฉันเริ่มต้นวันด้วยการที่มิสแพทริกถามฉันถึงสิ่งที่ฉันเคยอธิบายกับหล่อนทางอีเมลไปแล้วเมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อน และทางแอพลิเคชั่นแชทด้วย (ถามจริง ฉันว่าเราควรมีกฎหมายห้ามหัวหน้าและลูกน้องคุยกันผ่านแชทนะว่าไหม มันทำให้เธอมีแนวโน้มที่ทำงานนอกเวลางาน และฉันต้องการเวลาที่ฉันรู้สึกปลอดภัยจากมิสแพทริก)
ฉันอยากจะรู้ว่าสิ่งที่ฉันพูดไป มันกระเด็นเข้าสู่หูชั้นกลางของมิสแพทริกบ้างหรือเปล่า หรือมันได้เดินทางจากจอประสาทตาเข้าสู่สมองหรือไม่ (ในกรณีที่หล่อนอ่านมัน)
หล่อนทำให้ฉันอยากจะกระชากคอหล่อนเข้ามาและตะโกนใส่เข้าในหูนั้นว่า ฮัลโหลลล ได้ยินฉันมั้ยยย!!!!!!!!!! นี่คือสิ่งที่ฉันบอกและเขียนให้คุณอ่านถึงสองรอบบ!!!!!!! คุณเข้าใจรึยังหาาาา!!!!!!!!
การสื่อสารเนี่ยยากบัดซบเลยจริงไหม แต่ตอนนี้ฉันกำลังจะเรียนภาษาอิตาลีล่ะ พระเจ้าช่วย ฉันจะต้องนึกถึงมิสแพทริกตลอดเวลาที่เรียนเลย เหมือนว่าปกติฉันยังต้องปฏิสัมพันธ์กับหล่อนไม่มากพออย่างนั้น
วันนี้มีเดวิด ฟิชเชอร์ เพื่อนของฉันตั้งเสตตัสสุดเศร้าโศกเหลือประมาณขึ้นในเฟสบุ้ค แม้มันจะดูเป็นเรื่องสั้นมากกว่าสเตตัสก็ตาม มันพูดถึงงานอดิเรก (โอ ที่รัก เธอรู้หรือยังว่าฉันชอบเปลี่ยนเรื่องกะทันหัน ทุกคนในชีวิตของฉันมักจะพูดเรื่องนี้เสมอเลย ว่า เอมม่า เธอช่างหักเลี้ยวโค้งในบทสนทนาจนคู่สนทนาตามไม่ทัน)
แน่นอน ฉันมีงานอดิเรกมากมายจนแทบนับไม่ไหว ชีวิตฉันหมดไปกับการทำงานอดิเรก เช่น ดูหนัง อ่านนิยาย เขียนนู่นนี่นั่น อ่านการ์ตูน
เพื่อนของฉันคนนี้ พยายามดันงานอดิเรกของเขาให้เป็นอาชีพ เพราะว่าเขารักมันมาก แต่ว่าถึงจุดหนึ่งกลับรู้สึกว่า ทำไม่ได้ ไปใกล้ถึงเป้าหมายที่เคยตั้งไว้แล้วแต่กลับคว้าพลาด แล้วก็พูดว่าวันหนึ่ง เขากลัวว่าตัวเองจะเกลียดงานอดิเรกนี้
และฉันก็เคยได้ยินมาว่า ถ้าหากงานอดิเรกกลายเป็นอาชีพ คุณจะเกลียดมัน
ฮ่าาาาาาาาา!!!!!!!!!!
มาเลย ฉันพร้อมมากๆ ถ้าหากว่างานอดิเรกของฉันแม่งหาเงินได้อ่ะนะ หมายถึงเป็นกอบเป็นกำ โอเค อย่างที่ทุกคนรู้ เอมม่า สเคอร์บี้แม่งเขียนนิยายอิโรติกชายชาย และหาเงินได้พอสมควร แต่ว่ามันก็ไม่พอค่ากินนักหรอก ฉันอาจจะเกลียดมันก็ได้ ใครจะรู้แต่ฉันก็อยากลองให้งานอดิเรกเป็นอาชีพจริงๆนะ
คุณขา
ในประเทศที่แค่ก้าวออกจากบ้านก็เหมือนเหรียญหล่นแล้วอ่ะ จะให้ฉันทำอะไรได้ นอกจากจมจ่อมกับมิสแพทริกและพยายามสื่อสารกับเจ้าหล่อนต่อไป หล่อนทำให้ฉันรู้สึกว่า มนุษย์ควรจะสามารถสื่อสารกันได้ด้วยโทรจิต ทั้งที่ปกติฉันเป็นคนที่ชื่นชมและดื่มด่ำกับความแตกต่างทางภาษา
อาจจะต้องเรียนท่านผู้นำผู้หัวร้อนให้ช่วยกำกระเป๋าตังค์ของฉันให้แน่นอีกนิด เพราะว่าเงินในกระเป๋าของฉันมันบินออกไปง่ายเหลือเกิน (แน่นอน ฉันหมายถึงวินสตัน เชอร์ชิล ฉันคงยังไม่ได้บอกเธอล่ะสิ ว่าเราอยู่ในยุคควีนอลิซาเบธยังสาวและสวยและพร้อมเปลี่ยนราชวงศ์วินเซอร์เป็นนามสกุลสามี แบด-เม้า-เท่น หรือ เม้า-แบด-เท่น อะไรทำนองนี้ ความรู้ของฉันก็ต่ำต้อยเรี่ยดินจริงๆ ขนาดปริ้นส์ฟีลลีปยังรู้สึกเขาเป็นอะมีบาเลย ฉันควรจะเป็นอะไรอ่ะ เศษอณูของอะมีบารึไง)
ทำไมชีวิตของเอมม่า สเคอร์บี้ถึงต้องดิ้นรนมากมายเช่นนี้หนอ
นอกจากฉันจะต้องหาแฟนดีๆ หาความสุขใส่ตัว แล้วฉันก็ยังต้องกำกระเป๋าตังค์ให้มั่น!! ไม่งั้นมันก็ร่วงพล๊อยๆยิ่งกว่าฟันน้ำนมของเด็กแปดขวบพันคนที่ร่วงจากปาก มือก็ยังต้องพัดเหงื่อบนหน้า พร้อมดูทิศทางการเมืองของประเทศแม่ แล้วก็หาลู่ทางในการขอคืนภาษีไปด้วย
ขาก็ยังต้องคอยระวังไม่ให้จมลงไปในท่ออะไรที่อาจจะโผล่มาโดยที่เธอไม่รู้ตัว
โอ้ยตายแล้วเธอจ๋า ไม่ได้อ่านข่าวหรือยังไง มิสแพทริกยังพูดถึงเรื่องนี้เลยนะ ที่มีคนตกท่อบนทางเท้า คนตกเป็นผู้ชายด้วยแน่ะ ยังบาดเจ็บเลย ถ้าเป็นฉันที่มีความสูงทั้งหมดประมาณห้าฟุตล่ะก็จะต้องจมอยู่ในนั้น และไม่ลอยขึ้นมาอีกเลย
และอาจจะเป็นอย่างที่ฉันพูดกับเธอเมื่อวันก่อน ก็คือ คนทำความสะอาดอาจจะมาพบฉันในสภาพศพขึ้นอืดน่ะนะ (โอ บางทีนั่นอาจจะเป็นวิธีที่ทำให้โลกจำเราอย่างหนึ่ง)
อืม จริงๆก็ช่วยไม่ได้
เพราะว่าช่วงนี้น่ะ ลอนดอนหมอกลงจัดจริงๆน่ะซี่
ลงชื่อ
#เอมม่าสเคอร์บี้
ผู้ไม่อยากจ่ายเงินภาษี จนกว่าเชอร์ชิลจะนำหมอกออกจากลอนดอน
หวังว่าเชอร์ชิลจะไม่ว่าฉัน ได้โปรด จริงๆแล้วฉันชอบคุณ หมายถึง เชอร์ชิลจริงๆน่ะนะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in