ไดอารี่ที่รัก
สวัสดีฟัคกิ้งวันจันทร์อันแสนหดหู่ ฮ่าๆ ใครสักคนบอกเอาไว้การหัวเราะจะทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้
ฮ่าๆๆ
ฮ่าๆ
ฮ่า...
เหอะๆ
แม่งไม่เห็นอารมณ์ดีขึ้นเลย
เอาล่ะ คุณเอมม่า สเคอร์บี้ คุณต้องเชิดคางขึ้นในวันจันทร์อันแสนเศร้าต่อไปนะ บางทีฉันก็สงสัยว่านี่ฉันทำอะไรอยู่ นอกจากต้องทำความเข้าใจกับอีเมลที่ผิดแกรมม่าอย่างร้ายแรงของมิสแพทริกและคำที่คนเรามักไม่ใช่กันของเธอแล้ว
ฉันก็ต้องมาพิจารณาว่าที่เธอจะให้ฉันทำคือ อะไรกันแน่ (วะ)
นี่ฉันก็เพิ่งจะเมลกลับไปถามเธอ และเธอก็ตอบกลับมาในสำเนียงที่แอบซ่อนเอาไว้ระหว่างบรรทัดว่า เธอโง่จังเลยจ้ะที่รัก
ชีวิตอันแสนเหี่ยวเฉาเหมือนดอกทานตะวันที่ไม่เคยพบพานดวงอาทิตย์ของฉัน
แฟนก็ไม่มี
หัวหน้าก็ไม่เข้าใจ (หรือฉันไม่เข้าใจเธอวะ)
งานก็ไม่ชอบ
ฟัคยูเวิลด์ ฉันอยากมีนิ้วกลางที่ใหญ่พอที่จะชูให้คนทั้งโลกเห็นได้พร้อมกัน ว่าฉัน เอมม่า สเคอร์บี้ อยู่ตรงนี้ กำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่หน้าคอมด้วยใบหน้าเรียบเฉย เพราะถ้าไม่อย่างนั้นแล้วฉันอาจจะเกิดมา ทำงานงกๆ และตายไปเฉยๆ แบบที่แม้กระทั่งป้าแม่บ้านก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ
อ้อ...ผู้คนอาจจะรู้เรื่องฉันหลังจากที่เขาพบศพฉันนอนขึ้นอืดในอพาร์ตเมนท์อะไรทำนองนั้น เพราะไม่มีคนมาตามฉัน
ไดอารี่ที่รัก เธอคงคิดว่าฉันเหงามาก
แน่นอน ใช่แล้ว ถูกต้อง
ฉันเหงาเป็นบ้า เหงาขนาดคุยกับสิรีและอยากกราบขอบคุณแอปเปิ้ลที่ผลิตสิรีขึ้นมาเพื่อคุยกับคนเหงาๆแบบฉัน ฉันเหงาจนแทบเข้าใจได้ว่า หนุ่มน้อยข้างบ้านที่เปลื้องผ้าถ่ายรูปลงอินเตอร์เนตแบบที่ได้เงินเท่าขี้มดต้องการความรักและการสนใจขนาดไหน เพราะเขาน่ะแทบจะคุยกับคนดูทั้งวันเลยนี่นา
พูดถึงความเหงาและการทำงาน ฉันนึกถึงคนคนหนึ่งขึ้นมา
ฉันเคยมีผู้ชายคนนึงที่ฉันยังฝังใจกับเขาจนถึงทุกวันนี้ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง
ข้อแรกคือ เขาเคยชอบฉัน และฉันก็เคยชอบเขา เราเคยชอบกัน เป็นความรักมิดเดิ้ลสคูลที่สดใส คุยกันวันละหลายชั่วโมงที่โรงเรียน และกลับบ้านมาก็ยังคุยกันต่อถึงตีสอง มาคิดกลับไปแล้ว เธอมีเรื่องอะไรให้คุยเยอะนักหรือไง
(ฉันไม่ได้มโนไปเองนะยะ เขาบอกฉันว้อยว่าเขาชอบฉัน)
ข้อสองคือ ตอนนี้เขาเป็นเกย์
ข้อสามคือ เขาหล่อ
เขาสี่คือ เขาเป็นนักดนตรี นั่นล่ะ นั่นล่ะ เหตุผล เหตุผลที่ทำให้ฉันหลงใหลเขา ทั้งหลงใหลทั้งอิจฉา
จนปัจจุบัน ฉันรู้สึกว่า เขาเป็นคนในชีวิตฉันที่มีความสุขกับชีวิตที่สุดคนหนึ่ง และฉันนับถือเขาหมดใจที่ทำตามความฝันตัวเองในประเทศที่นักดนตรีคลาสสิคมักจะมีอาชีพเป็นครูสอนตามโรงเรียนหรือตามบ้าน แต่ให้ตาย...ตอนนี้เขาอยู่เวียนนาว่ะเธอ
แล้วเธอล่ะ เอมม่า สเคอร์บี้
ฉันน่ะเรอะ ฉันนั่งฟังสำเนียงอิตาลีผ่านโทรศัพท์อยู่หน้าคอมและบ่นให้เธอฟังอยู่นี่ไงเล่า
เอมม่า ฉันกับชีวิตอันแสนโดดเด้งดึ๋งดั๋งของฉัน ฉันหวังเอาไว้อย่างยิ่งว่าสักวันหนึ่ง สักวันหนึ่งนะ...ฉันจะต้องเขียนหนังสือที่ดีออกมา และมีความสุขกับมัน ฉันจะมีชื่อเสียง
เอมม่า สเคอร์บี้
ฟังไว้นะ
เธอจะมีชื่อเสียง
(เอ้า เธอคงรู้แล้วว่าฉันมักจะพูดตามกฎแรงดึงดูด)
(ความจริงแล้วนักเขียนรุ่นใหญ่บางคน เช่น มิส ว. ฉันจะไม่พูดว่าเธอคือใครนะ อาจจะเป็น วิลลี่ เวสฟอร์ด วิคตอเรีย วิกกี้ หรืออะไรก็ช่าง เธอน่ะลอกงานคนอื่นมาชัดๆ)
เอาล่ะ เรื่องของคุณเธอคนนั้นไม่เกี่ยวกับฉัน
เอาเป็นว่า นั่นแหละ ตอนนี้ฉันต้องทำงาน หาเงินก่อน
และฉัน! ฉันจะต้องเป็นแบบอดีตคนกุ้กกิ้กของฉันไปตามทางของตัวเองบ้าง
ลงชื่อ
#เอมม่าสเคอร์บี้
สาวน้อยหน้าตาดีที่มีขนาดนิ้วกลางปกติ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in