ดูทรงเหมือนคนว่างงาน
แต่จริง ๆ แล้วคิดคอนเทนต์ไม่พักเลยต่างหาก
-----------------------------------
"งานในสัปดาห์ที่ 2 ของการฝึกงานเป็นอย่างไร"
จากที่เคยพูดถึงหนังสือในสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้ก็ได้หนังสือมาเพียบเลยถ้านับไม่ผิดมีประมาณ 12 เล่ม ซึ่งรู้สึกจะน้อยกว่าของเพื่อน ๆ นิดหน่อย และเห็นว่าพี่ทรายจะส่ง(ยังไม่รู้ว่าคืออะไร)มาเพิ่มด้วย ถ้าได้หนังสือมาเพิ่มคือเตรียมใจรอเลย
รายชื่อหนังสือ
- the power of showing up
- 100 แนวทางเลี้ยงลูกให้ได้ดีตั้งแต่วัย 3 ปีจนจบประถม
- มอนเตสซอรีเริ่มต้นที่บ้าน
- คุณแม่นักจัดฉากมอนเตสซอรี
- เล่นกับลูกสไตล์มอนเตสซอรี
- เก่งในแบบของลูก
- เลี้ยงลูกชายสไตล์มอนเตสซอรี
- เด็กมอนเตสซอรี ภาคเตาะแตะ
นิทานภาพ
- ถ้าร้อนก็ถอดเสื้อสิ
- โรงแรมในป่าใหญ่
- ร้านกระเป๋าในป่าใหญ่
- เพื่อนซี้ในป่าใหญ่
ทุกคนคงจะเห็นที่เกริ่นใช่ไหมคะ ในสัปดาห์ที่ 2 งานรายวันยังไม่มีเลยไม่แปลกที่จะดูเป็นคนว่างงาน แต่คิดว่าพี่ ๆ น่าจะให้เราอ่านหนังสือแล้วคิดคอนเทนต์ไปเสนอกับคิดงานเขียน Quote แต่ว่า... หนังสือที่ได้มีแต่มอนเตสซอรี ก็จะเห็นว่ารายชื่อหนังสือที่ส่งมาเป็นมอนเตสซอรีสัก 80% ได้
มอนเตสซอรี ก็เคยได้เรียนในวิชาการศึกษาอยู่พอดีแต่ตอนนั้นก็คิดว่ามอนเตสซอรีเป็นแนวคิดการศึกษารูปแบบหนึ่งก็จะเห็นในหลาย ๆ โรงเรียนทั้งเนอสเซอรี่และโรงเรียนอนุบาลนิยมใช้กัน แต่พออ่านจบได้สักเล่มสองเล่มก็เข้าใจมอนเตสซอรีเพิ่มขึ้นว่าไม่ใช่แนวคิดการศึกษาอย่างเดียว พ่อแม่ก็สามารถฝึกลูกแบบมอนเตสซอรีได้ รวมทั้งการเอาใจใส่เลี้ยงดูลูกเนี่ยค่อยข้างเหนื่อยจริง ๆ
ตามพื้นฐานของมอนเตสซอรีเป็นสไตล์การเลี้ยงลูกแบบนักวิทยาศาสตร์ (ดูยิ่งใหญ่อย่างไรไม่รู้) ก็คือเริ่มจากการสังเกตพฤติกรรม ทำความเข้าใจลูกแล้วค่อยหาวิธีรับมือ หลักการส่วนใหญ่ก็เป็นการปูพื้นฐานทักษะในชีวิตประจำวันเพื่อนำไปสู่การพัฒนาทักษะในอนาคต รับมือช่วงวัยที่เขากำลังเริ่มเรียนรู้ เด็กอาจจะดูดื้อซน ขี้โวยวาย พ่อแม่บางคนก็จะบ่นว่าเป็น 'วัยต่อต้าน' แต่ถ้าพ่อแม่สังเกตลูกดูดี ๆ จะเข้าใจเองว่าทำไมเขาถึงมีพฤติกรรมเช่นนั้น
หากอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ มอนเตสซอรีใช้เหตุผลในการทำความเข้าใจพฤติกรรมของเด็กในสถานการณ์ต่าง ๆ และการเลี้ยงลูกต้องใช้ความอดทนและใจเย็น (อย่างมาก)
(การอธิบายในข้างต้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัว อาจมีความเข้าใจคาดเคลื่อนได้ โปรดอ่านอย่างมีวิจารณญาณ)
นั่นแหละค่ะตอนนี้ก็เลยติดปัญหาที่ว่า "จะทำคอนเทนต์อะไรดี" เขียนบทความก็ไม่เก่ง จะทำการ์ตูนช่องก็ไม่รู้จะเข้ากับสไตล์ของสำนักพิมพ์ไหม หรือจะทำวิดีโอรีวิวหนังสือดี เราก็พยายามหาคอนเทนต์ที่เข้ากับสถานการณ์หรือกระแสในปัจจุบัน แต่ก็ดูจะห่างไกลกับหนังสือที่มีอยู่
พอเห็นบทความที่เปตองเขียนเป็นประเด็นความหลากหลายทางเพศในครอบครัว ซึ่งตรงกับ Pride month สามารถเชื่อมโยงกับหนังสือของเพื่อนได้ ซึ่งเรื่องความหลากหลายทางเพศก็เปิดกว้างมานานแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ทุกครอบครัวที่จะเปิดใจยอมรับลูกของตัวเองหรือเด็กบางคนก็ยังสับสนเพศและรสนิยมของตัวเองก็มี
ถ้าอยากอ่านโพสต์ของเปตอง จิ้มตรงนี้เลย (ซัพพอร์ตเพื่อนเต็มที่)
ในทางกลับกันถ้าเป็นเราคงทำอะไรที่มีสาระไม่ได้แน่นอน แต่พึ่งสัปดาห์ที่ 2 เองจะมาถอดใจยอมแพ้ไม่ได้ (ขออภัยที่อาจจะบ่นมากไปหน่อย พอดีมีหลายเรื่องให้ต้องคิดน่ะค่ะ) เอาล่ะค่ะมาสู่ช่วงไฮไลต์ประจำวันกันดีกว่า
ไฮไลต์ประจำวัน
วันพุธ (1 มิ.ย.) วันนัดคุยมีต ได้เจอเพื่อนทีมฝึกงานคนที่ 4 ชื่อ 'แฟรี่' (ที่จริงเขาก็อายุน้อยกว่าแต่ให้เรียกเหมือนเพื่อนกันนี่แหละ จะได้คุยกันสบาย ๆ รักกันกลมเกลียว) เมื่ออยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันครบแล้วก็ได้คุยรายละเอียดเกี่ยวกับจัดงานอีเว้นท์ ซึ่งทีมเด็กฝึกงานนี่แหละเป็นคนคิดธีมและกิจกรรมไปเสนอ
วันศุกร์ (3 มิ.ย.) ทีมเด็กฝึกงานนัดคุยงานอีเว้นท์ เรื่องธีม สถานที่ กิจกรรม (ถ้าบอกรายละเอียดจะเป็นการสปอยงานไหมนะ ขอเก็บไว้ก่อนละกัน)
ส่วนวันอื่น ๆ จะหมดไปกับการอ่านหนังสือ+นั่งคิดคอนเทนต์
ปล.งานหนังสือจะมีในวันที่ 29 มิ.ย. - 3 ก.ค. 2565 ซึ่งเราจะขึ้นไปช่วยจัดบูธแล้วก็จะได้เจอเพื่อน ๆ ซะที (ฮ่า) หลังจากไม่ได้เจอหน้ากันนานเป็นปีได้
ไว้จะมาอธิบายต่อในอาทิตย์ถัดไป
ขอบคุณค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in