เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ผมจมน้ำในเดือนธันวาคม (Lumark)ppan_19
Day 9



  • วันนี้ยังคงเป็นอีกหนึ่งวันที่สงบสุข


    โทรศัพท์ที่ไร้การติดต่อจากคิมโดยอง 

    แผนการเรียนยังคงไม่มีปัญหา 

    เพื่อนสนิทไม่มีเรื่องผิดใจกับแฟน

    พักผ่อนเพียงพอ รับประทานอาหารครบถ้วน


    เป็นอีกวันที่ตื่นขึ้นมาแล้วหายใจคล่องปอด


    รสชาติของน้ำหวานแต่งรสคล้ายแตงโมจากไอติมแท่งช่วยทำให้รู้สึกดี แม้อากาศจะหนาวแต่ยังไงร่างกายก็ยังต้องการของหวานสุดโปรด ลูคัสยังคงมองเขาด้วยแววตาเหลือเชื่อ


    เกล็ดน้ำแข็งทำเอารู้สึกเย็นวูบวาบในลำคอ 


    “โอ๊ะ ได้แถมฟรีอีกไม้” มาร์คเบิกตากว้าง “โชคดีจัง” ว่าแล้วก็เดินเข้าไปหยิบไอติมแท่งใหม่ในร้าน ไม่สนใจเสียงคัดค้านจากเพื่อนสนิท


    เด็กหนุ่มแกะซองไอติมรสแตงโมแท่งใหม่ ระหว่างนั้นก็เผลอฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี


    ใช่ 

    ช่างเป็นวันดีจริงๆ






    .






    “บุหรี่ซองนึงครับ”



    เด็กหนุ่มชะงักหลังได้ยินเสียงลูกค้าผู้เข้ามาใหม่ ระหว่างที่เขากำลังก้มหน้าจัดการนับเงินใต้แคชเชียร์





    เป็นเสียงที่คุ้นเคยอย่างประหลาด




    มาร์ครู้ว่าชายคนนี้คือใคร

    และภายในใจขอภาวนาว่าอย่าให้อีกฝ่ายจำเขาได้เลย



    “ครับ”



    จู่ๆก็รู้สึกมวนท้องราวกับกำลังถูกบีบลำไส้ ทำเอาอยากขย้อนอาหารกลางวันออกมาเสียหมด


    อีกฝ่ายยังคงเหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้วเหมือนเมื่อครั้งที่ได้เจอกัน เป็นตัวตอกย้ำความทรงจำได้อย่างดี— ชุดสูทสีดำสนิท นาฬิกาสีเงินสะท้อนแสงวิบวับ รองเท้าดำขัดมันวาว


    มาร์คไม่อยากเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาเลย



    “หายใจแรงจังนะ”เสียงทุ้มเอ่ยปนขำอย่างล้อเลียน “ไม่สบายรึไง”



    หลังจากวันนั้น ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอกันอีกในสถานที่แบบนี้

    แค่ร้านสะดวกซื้อธรรมดา ในวันธรรมดาวันหนึ่ง



    เด็กหนุ่มค่อยๆวางซองบุหรี่ลงบนเคาท์เตอร์ “สองหมื่นวอนครับ” เสียงเขาแหบแห้ง ใบหน้าก้มแทบจะชิดกับอกของตน


    “ถามจริงๆนะนี่เธอไม่สบายรึไง ท่าทางพิลึกจัง” น้ำเสียงทุ้มนั้นยังคงมีความห่วงใย 


    ฝ่ามือเพรียวเอื้อมมาวางบนไหล่เขา บีบเค้นมันก่อนจะตบสองสามที “เป็นลูกจ้างก็อย่าให้หัวหน้าเอารัดเอาเปรียบมาก ถ้าไม่ไหวก็ไปพัก โอเคนะ”


    มาร์คพยักหน้า สัมผัสได้ว่าฝ่ามือของตนกำแน่นจนชื้นเหงื่อ

    ไหล่ของเขาสั่นระริก นึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ตอบรับตกลงเข้าทำงานแทนลูกจ้างกะของวันนี้


    อยากอ้วก


    ฝ่ามือใหญ่หยิบซองบุหรี่ราคาถูกออกไปเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ เสียงพื้นรองเท้ากระทบพื้นค่อยๆดังไกลออกไป จนกระทั่งได้ยินเสียงประตูเลื่อนอัตโนมัติ ,เด็กหนุ่มทรุดตัวลงนั่งบนพื้นอย่างหมดแรง


    แขนทั้งสองข้างยกขึ้นโอบกอดตนเองทั้งที่ไม่รู้ตัว ขณะเดียวกันก็รู้สึกเหมือนปอดกำลังถูกบีบจนหายใจไม่สะดวก มาร์คไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตนเองนั่งค้างอยู่กับพื้นนานเท่าไหร่ จนกระทั่งได้ยินเสียงประตูเลื่อนอีกครั้ง และลูคัสเดินเข้ามาเห็นสภาพของเขา





    เด็กหนุ่มร่างสูงมองมาอย่างตกใจ ขายาวรีบวิ่งเข้ามาหาพนักงานที่หลังเคาท์เตอร์


    “มาร์คมึงเป็นอะไร ปวดท้องเหรอ เฮ้ย ตอบกูก่อน”


    มาร์คพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยกฝ่ามือขึ้นกุมใบหน้าตนเองไว้




    เสียงประตูเลื่อนดังขึ้นอีกครั้ง ตามมาด้วยเสียงพื้นรองเท้าอันคุ้นเคย



    “แย่จังนะ ลืมซื้อไฟแช็กซะได้”



    มาร์คไม่มีสติมากพอจะตกใจอีกด้วยซ้ำ





    ในตอนที่กำลังสติแตกได้ที่ สิ่งเดียวที่เขารับรู้ได้คือสายตาคู่นั้น— มองลงมายังเขาผู้นั่งอยู่บนพื้น แววตาคมกริบ เต็มไปด้วยตัณหา และเสียงทุ้มที่ยังคงจำได้ชัดเจนเหมือนเมื่อตอนกระซิบแหบพร่าอยู่ข้างหู


    เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับดวงตาคู่นั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้


    เขาดูประหลาดใจ นิ่งเพียงแว้บหนึ่งก่อนจะปล่อยหัวเราะออกมาเบาๆ


    “อะไรกันเนี่ย”

    “เธอเองหรอกเหรอ”






    ความโชคดีตลอดชีวิตของมาร์คอีคงมีมากพอแค่ถูกรางวัลบนไม้ไอติมแท่ง




เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in