กิจวัตรประจำวันของมาร์คอีนั้นค่อนข้างตายตัวและราบเรียบ ไร้สิ่งหวือหวา
ตื่นขึ้นมาตอนหกโมงเช้า— ถ้าอากาศยังเย็นอยู่ก็จะนอนต่อจนนาฬิกาปลุกอีกรอบตอนแปดโมง เมื่อถึงตอนนั้นจะหนาวขนาดไหนก็ต้องฝืนลุกขึ้นมาแปรงฟัน เก็บที่นอนให้เรียบร้อย
มีเรียนเช้าอย่างเร็วที่สุดคือเก้าโมงครึ่ง เพราะงั้นจึงไม่ต้องเร่งรีบอะไร
มื้อเช้าของทุกวันจะเป็นอาหารอุ่นๆในร้านสะดวกซื้อละแวกหอพัก มาร์คกับลูคัสมักจะมาพบกันที่นี่
ถ้าถามว่ามื้อเช้าที่ชอบที่สุดคืออะไร คำตอบของมาร์คคือ ไอติมแท่งรสแตงโม
“หนาวจะตายอยู่แล้วใจคอยังกินไอติมอยู่ได้ยังไงวะ เย็นชาไปทั้งกายและใจแล้วงั้นเหรอ”ลูคัสมองมาร์คผู้กำลังกัดไอติมแท่งดังกร๊อบๆท่ามกลางอากาศหนาวเย็นติดลบ เด็กหนุ่มยกมือลูบเนื้อตัวที่ขนลุกขนพองอยู่ใต้เครื่องแต่งกายหนา
“ก็แตงโมมันอร่อยอ่ะ” คนตัวเล็กกว่าแลบลิ้นเลียน้ำรสหวานสีแดงรอบริมฝีปาก นิ้วมือจับแท่งไม้เล็กที่ท่อนบนมีรอยคราบน้ำหวานพลิกไปมา “ได้รางวัลอีกแท่งมั้ยนะ”
“พอเหอะ ขอร้อง”ลูคัสรีบดันหลังเพื่อนสนิทให้เดินตรงไปยังมหาวิทยาลัย
.
หลังจากเจอลูคัส เข้าเรียนช่วงเช้า แล้วก็มาเจอกันอีกทีตอนกินข้าวเที่ยงที่โรงอาหาร
มื้อกลางวันมักจะเป็นอาหารที่ถูกหลักตามโภชนาการที่ดีในโรงอาหาร นับเป็นสิ่งดีๆต่อร่างกายไม่กี่อย่างในชีวิตประจำวันของมาร์ค
“วันนี้แฟนทำอะไรให้กินล่ะ”มาร์คเท้าคางมองชุดอาหารสุดน่ารักของคนที่นั่งตรงข้าม
“แซนวิชง่ายๆกับน้ำส้ม— กูน่าจะเก็บเอาไว้เป็นของว่างช่วงซ้อมดีกว่า”ว่าแล้วก็พับเก็บชุดอาหารทำมือเปี่ยมความรักแต่ไม่พออิ่มท้องใส่กลับลงไปในกระเป๋า “วันนี้งอนกูอีกแล้ว ตื่นมาทำข้าวเช้าข้าวเที่ยงปุ๊บก็กลับไปนอน ไม่คุยกันสักคำ”
มาร์คพยักหน้าหงึกหงักพลางพยายามคิดว่าจะกินข้าวจานนี้ให้หมดได้ยังไง ,ไม่ได้ต้องการที่จะเมินปัญหาชีวิตรักของลูคัสนะ แต่เขาไม่รู้เลยว่าจะพูดอะไรกับเรื่องรักๆใคร่ๆ
“พี่เค้าไม่บอกกูหรอกว่างอนเรื่องอะไร แต่ก็คงเรื่องเดิมๆ”หนุ่มร่างใหญ่แนบหน้าลงกับโต๊ะ
“เรื่องกู?”
“เออ”
มาร์ครู้สึกคิ้วข้างขวากระตุก อารมณ์เดจาวูแปลกๆนี้ทำเอาเขาหมดความอยากอาหาร
นิ้วเรียวสะกิดหัวทุยของเพื่อนสนิทให้ชะโงกหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะดันถาดอาหารใส่อีกคน
“กินเยอะกว่าแมวดมนิดเดียวเองไอ้มาร์ค แก้มตอบหมดแล้วมึง”
ลูคัสตักข้าวเข้าปาก แล้วมาร์คก็หนีปัญหาน่าปวดหัวได้อีกครั้ง
.
เมื่อถึงยามบ่ายก็ได้เวลาเข้าคลาสบ่ายต่อจนถึงบ่ายสองครึ่ง เป็นอันหมดกิจธุระกับมหาวิทยาลัยของวันนี้เรียบร้อย ,วันนี้มาร์คตัดสินใจไม่ไปพบลูคัสที่สนามบาสตามที่เคยนัดหมายประจำ
อีกหนึ่งชั่วโมงจะถึงเวลาทำงานพิเศษ วันนี้จึงเข้าไปเตรียมตัวทำงานก่อนเวลา
บรรยากาศในร้านดำเนินไปอย่างไม่เร่งรีบอะไร หน้าที่ประจำก็แค่เช็คของค้างสต๊อก จัดสินค้า เช็คโปรโมชั่นใหม่ประจำเดือน ถ้าว่างแล้วก็สลับงานกับคนร่วมงานไปยืนหน้าเคาท์เตอร์ บริการลูกค้าไปเรื่อยจนกว่าจะถึงเวลาสองทุ่ม รับค่าจ้างวันนี้กับหัวหน้า แล้วก็กลับบ้าน
เมื่อหนึ่งทุ่มครึ่ง ลูคัสโผล่มาที่ร้านเพื่อซื้อเยลลี่สองถุง
เป็นเวรเป็นกรรมของเขาอีกครั้งที่ลูคัสเลือกมาตอนไม่มีลูกค้า— มาร์คหลีกเลี่ยงการพูดคุยหน้าเคาท์เตอร์ไม่ได้
“ทำไมวันนี้ไม่มาตามนัดวะ คนมันไม่ครบ”ลูคัสพูดขึ้นขณะเก็บเงินทอนพร้อมใบเสร็จเข้ากระเป๋าเงิน
“คนขาดพอดี เลยเรียกกูมาทำงานก่อน” แน่นอนล่ะว่าเขาโกหก ดวงตาเหลือบมองพื้นที่จอดรถข้างนอกตัวร้าน บัดนี้มีรถมอเตอร์ไซค์สีดำขลับเครื่องใหญ่จอดไว้อยู่พร้อมกับมีคนคุ้นตายืนพิงอยู่ข้างๆ “ไม่ซื้อบุหรี่สักซองไปง้อแฟนซะล่ะ”
“ห่า กูบอกให้เขาเลิกจะเป็นจะตาย” มือใหญ่เอื้อมมาทำท่าจะตบหัวเขา เหมือนที่เพื่อนส่วนใหญ่ทำกัน แต่ทุกครั้งลูคัสมักจะแค่ลูบหัวเขาแรงๆจนผมยุ่งไปหมดเท่านั้น “ถึงได้มาซื้อเยลลี่ให้ไปเคี้ยวเล่นไง”
มาร์คหัวเราะนิดหน่อย ยกมือสะบัดแขนของลูคัสออก จู่ๆก็รู้สึกหายใจคล่องขึ้น
“ไปได้แล้ว ข้างนอกมันหนาว”
“เออ ไว้เจอกันพรุ้งนี้”
ลูคัสเดินออกไปพร้อมกับเสียงต้อนรับของประตูอัตโนมัติ ไม่นานเท่าไหร่ก็ตามมาด้วยเสียงเครื่องยนต์
ดังขึ้นรุนแรงปานเสียงระเบิดช่วงแรก ไม่นานนักเสียงก็เคลื่อนที่ไกลออกไป แต่ยังคงเหลือเสียงวิ้งวนค้างในหู
.
มื้อเย็นวันนี้เป็นอาหารค้างสต๊อกจากที่ทำงานพิเศษ มาร์คนั่งกินเงียบๆภายในห้องพัก ช่วงเวลาเกือบสามทุ่ม ยังคงมีข่าวช่วงเย็นบางช่องฉายอยู่
เขาชั่งใจว่าจะอาบน้ำดีไหมเพราะอากาศหนาวเกินจะเหลือรับ แต่สุดท้ายก็ต้องอาบอยู่ดี
ความอบอุ่นโอบรอบตัวเมื่อหย่อนกายลงไปในอ่างอาบน้ำ ให้ความรู้สึกสบายจนอยากจะทอดกายอยู่ในนี้ตลอดไปทั้งคืน— มาร์คตั้งนาฬิกาจับเวลาเอาไว้ เผื่อว่าถ้านอนหลับไปในอ่างอาบน้ำจะได้ตื่นขึ้นมาได้โดยไม่จับไข้หวัดเสียก่อน
กินข้าว เช็ค
อาบน้ำ เช็ค
กิจกรรมหลักทั้งสองอันจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของวันนี้จบลงไปแล้ว ต่อไปก็คือนอน
มาร์คหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเปียโนเครื่องใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง อยู่ห่างจากเตียงนอนไม่ไกลนัก
ยามมืดค่ำแบบนี้ คนทั่วไปคงจะเกรงใจนิดหน่อยถ้าทำเสียงดังรบกวนคนข้างห้อง— เขาถึงได้เลือกหอพักที่มีผนังเก็บเสียงดีที่สุดหอหนึ่งในละแวกมหาวิทยาลัย
สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้ววางนิ้วลงไป
ตัดทุกสิ่งทุกอย่างที่น่ารำคาญใจ
ให้เหลือแค่ตัวเขากับเปียโน ในช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบนี้
(ทิเบตันแด๊นซ์เป็นตีมซองของฟิคนี้เลยค่ะ XD ได้ใส่ลงมาแล้ว ดีใจจัง—ผแผน)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in