ลูคัสถนัดตีกลอง ส่วนมาร์คชอบการเล่นเปียโน
ทั้งสองคนได้พบกันในวิชาการขับร้อง
และแม้เทอมต่อมาจะไม่ได้ลงเรียนวิชานี้แล้ว ลูคัสก็ยังคงวนเวียนอยู่รอบตัวมาร์คเรื่อยไป
วันนี้ไปดื่มกันป่ะ กับเพื่อนกู-- ลูคัสส่งข้อความมาชวนพร้อมแนบพิกัดร้านนั่งดื่มมาเสร็จสรรพ
มาร์คเปิดข้อความอ่านในยามคล้อยบ่ายหลังจากเพิ่งงีบกลางวันเสร็จ
ลูคัสมีเพื่อนฝูงเยอะจนจำหน้าไม่หวาดไม่ไหว ไปนั่งดื่มด้วยทีไรก็น้อยมากที่จะได้พบเพื่อหน้าเดิมๆ มีแต่ตัวมาร์คนั่นแหละที่ลูคัสชอบหนีบไปทุกครั้ง
วันนี้ก็เช่นกัน เด็กหนุ่มพิมพ์ตอบตกลงไปสั้นๆ มองนาฬิกาเพื่อคำนวณเวลาเตรียมตัว
คิมโดยองจะหายไปจากชีวิตของเขาอย่างไม่มีกำหนดกลับ-- แต่ให้อย่างมากก็สองสัปดาห์
ระยะเวลาต่อจากนี้คือการเพลิดเพลินกับอิสระจอมปลอม เสแสร้งว่าเขาคือมาร์คอีผู้มีชีวิตปกติสุขดี
.
แสงไฟกลางคืนกับอากาศหนาวนั้นช่างเป็นความสวยงามที่ลงตัว-- แสงสีส้มทองตัดกับความมืด และลมหนาวที่พัดผ่านมา
ความหนาวกำลังค่อยๆเข้าเกาะกุมกาย แต่มาร์คยังคงยืนนิ่ง
เด็กหนุ่มดึงสติออกจากแสงไฟข้างถนนได้เมื่อลูคัสดึงแขนเขาเข้าไปในร้านนั่งดื่ม
ความอุ่นจากฮีตเตอร์ค่อยๆแทรกซึมเข้ามา มาร์คจึงรู้ตัวว่าร่างกายของเขาเย็นเยียบเพียงใด
"ยืนเหม่ออีกแล้วนะมึง" เพื่อนร่างสูงว่าพลางปัดเกล็ดหิมะสีขาวออกจากเส้นผมของคนตัวเล็กกว่า "ยืนอังฮีตเตอร์ตรงนี้เลย ดูดิ นิ้วแดงหมดละ"
"โอ๊ะ จริงด้วย"มาร์คทำตาโต มองปลายนิ้วของตนอย่างตกใจ
"คนเล่นเปียโนเค้าต้องถนอมมือไม่ใช่รึไง"ลูคัสปล่อยเสียงหัวเราะเยาะออกมาอย่างไม่ปิดบังก่อนจะกลับไปสอดส่องมองหาเพื่อนฝูงที่นัดไว้ ร่างสูงโย่งชะเง้อหัวไปมา "อุ่นขึ้นยัง กูหาโต๊ะเพื่อนเจอละ"
เด็กหนุ่มร่างผอมพยักหน้า ยกมือออกห่างจากฮีตเตอร์ ,มันยังชาอยู่เล็กน้อย ความเจ็บการถูกความเย็นกัดยังคงทำให้นิ้วเจ็บแปล๊บจี๊ดๆ มาร์คตัดสินใจไม่พูดอะไร
ลูคัสเหลือบมามองทางเขา ฝ่ามือใหญ่ยื่นมาคว้ามือผอมของเพื่อนสนิทขึ้นมาพลิกพิจารณาดู-- มาร์คสะดุ้งด้วยความตกใจ
"ยังเย็นอยู่เลย โอเคแล้วอะไรของมึง"ลูคัสว่าก่อนจะยกมือเล็กในอุ้งมือของตนขึ้นไปเป่า ,ไอร้อนจากปากและการกระทำอันคาดไม่ถึงของลูคัสตกอยู่ในสายตาของมาร์คและเพื่อนของเขา
คนตัวเล็กกว่าตาเบิกกว้างด้วยความอึ้ง ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมา
ลูคัสยังคงกุมมือเขา ฝ่ามือใหญ่กอบกุมมือของอีกคนไว้ มาร์คคิดว่ามันอุ่นจนชื้นเหงื่อ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in