“อยู่มหาลัยมาร์คมีเพื่อนสนิทมั้ย” จู่ๆ คิมโดยองก็โพล่งคำถามเรื่องส่วนตัวขึ้นมาบนโต๊ะอาหาร คนอายุเยอะกว่ายกมือทั้งสองข้างขึ้นเท้าคางพลางทำหน้าทำตาช่างสงสัย
มาร์คชั่งใจครู่หนึ่งว่าควรตอบตามความเป็นจริงไปหรือควรหลบเลี่ยง แต่สุดท้ายก็ต้องเลือกทางที่ผลเสียน้อยที่สุด “มีคนนึงครับ”
“เอ๋~ แค่คนเดียวเองเหรอ”
เด็กหนุ่มพยักหน้า เหลือบตามองคนร่วมโต๊ะอาหารอีกคน พี่แทยงกำลังจัดการหั่นเนื้อสเต็กในจานของคิมโดยองให้เป็นชิ้นพอดีคำเป็นการเตรียมอาหารให้คนรักของตน เมื่อเสร็จเรียบร้อยจึงเลื่อนจานไปวางไว้ตรงหน้า— ชายผมดำหันไปส่งยิ้มให้คนรักพร้อมกับมอบจูบข้างแก้มฟอดใหญ่
“มาร์คเนี่ยหาเพื่อนไม่เก่งมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่เนอะ ,ไม่เหงาเหรออ” ชายหนุ่มหันกลับมาสนใจคนอายุน้อยกว่าที่นั่งอยู่ตรงข้าม ริมฝีปากอิ่มขยับไปมายามเคี้ยวอาหาร ขณะเดียวกันดวงตาสีดำกลมโตกลับมีประกายวิบวับ เหมือนทุกครั้งที่เขากำลังวางแผนแกล้งเด็กน้อยผู้น่ารักของเขา
เด็กหนุ่มกลืนอาหารลงคอพร้อมกับคำสบถมากมายที่อยากพูดออกไป
“ผมโอเคดีฮะ”
.
ตลอดทั้งชีวิตเกือบยี่สิบปีของมาร์คอีนั้นมีคนที่เป็นเพื่อนสนิทของเขาอยู่เพียงหยิบมือ
ใช้เพียงมือสองข้างนับก็ถือว่ามากเกินพอ
เด็กที่โตมาด้วยกันในบ้านรับเลี้ยงก็ถือว่าสนิทกันประมาณนึง เพื่อนสมัยประถมก็ไม่ได้ถึงขั้นเลว ชีวิตกระท่อนกระแท่นเรื่อยมาจนกระทั่งได้มาพบคิมโดยอง— หลังจากนั้นเรียกได้ว่าเป็นการตกนรกดีๆนี่เอง
มาร์คไม่ต้องการชีวิตสวยหรูหรือเงินเป็นฟ่อน ไม่เคยต้องการเสื้อผ้าราคาแพงด้วยซ้ำ
แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่มาร์คสามารถตัดสินใจเลือกให้ตัวเองได้ ,ไม่มีเลย
เพราะคิมโดยองชอบการได้เห็นมาร์คเล่นดนตรี มาร์คเลยต้องเรียนต่อมหาวิทยาลัยเอกดนตรี
เพราะคิมโดยองอยากให้มาร์คใส่เสื้อตัวนี้ มาร์คก็ต้องใส่
เพราะคิมโดยองอยากเห็นมาร์คต้องอยู่ในสภาพน่าอับอาย มาร์คก็ต้องทำ
ราวกับเป็นเพียงเครื่องสนองอารมณ์ทุกอย่างของชายคนนี้
และความน่าหงุดหงิดใจคือ คิมโดยองสามารถจ่ายเงินให้เขาได้ไม่อั้น
มาร์คไม่อยากยอมรับว่าเขาขายตัวเองให้แก่คิมโดยอง แต่ตามหลักการทำงานทุกอย่างของมาร์คแล้วมันก็ตรงกับคนขายตัวทุกอย่าง— คิมโดยองได้เพลิดเพลินกับตัวเขา แล้วจ่ายเงินหลังจากพอใจ
มาร์คไม่เคยต้องการเงินของคิมโดยอง ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ
แต่เขาก็มาถึงจุดที่ถอยหลังกลับหรือวิ่งหนีไปไม่ได้แล้ว
.
เสียงหัวเราะแหบพร่าของคิมโดยองดังอยู่ข้างหูของเขาก่อนที่ชายหนุ่มจะก้มตัวลงมาหอมแก้มแรงๆ— มาร์คพยายามที่จะไม่เอี้ยวตัวหนี
พี่แทยงส่งสายตามองมาทางเขาอย่างเรียบเฉย
“พี่จะไม่ว่างไปอีกนานเลยนะมาร์ค ต้องคิดถึงมากแน่เลยยย” ชายร่างสูงเกาะก่ายตัวของคนอายุน้อยกว่าเอาไว้ขณะใช้จมูกสูดดมกลิ่นตัวหอมจากอีกคน “เฮ้อออ ไม่อยากทำงานอ่า”
“ไปเถอะโดยอง”เสียงทุ้มของชายอีกคนกล่าวนิ่งๆ
“ยิ่งทำเสร็จเร็วก็ยิ่งได้มาหามาร์คเร็วขึ้น”
“งื้อออ น่าเบื่อๆๆๆๆ” คิมโดยองเหวี่ยงมือไปมาราวกับเด็กน้อย ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วกดจูบลงบนริมฝีปากนุ่มของมาร์ค
ไม่มีอะไรหวือหวามากไปกว่าการจูบลาธรรมดา
“ระหว่างที่พี่ไม่อยู่ อย่าไปซุกซนกับใครคนอื่นนะ”
ใบหน้าน่ารักยกยิ้มอย่างอ่อนโยน— แต่ก็ทำให้มาร์ครู้สึกเสียวสันหลังได้เช่นกัน
เพราะมันไม่ใช่ประโยคที่ยกขึ้นมาพูดลอยๆ แต่เป็นประโยคคำสั่ง
เสียงประตูห้องพักปิดลง
ไหล่ผอมของมาร์คค่อยๆห่อเข้าหากัน เด็กหนุ่มนั่งกอดตัวเองนิ่งๆท่ามกลางความเงียบงัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in