“เผลอแป๊บเดียวก็จะปีใหม่แล้วสินะ”
มาร์คโคลงหัวไปมาช้าๆ เป็นท่าทางแสดงออกว่าเห็นด้วยกับความคิดของเพื่อนสนิท เด็กหนุ่มสองคนนั่งเอาหลังพิงขอบเตียงนอน ไหล่แนบชิดกัน บานหน้าต่างห้องถูกเปิดแง้มไว้หน่อยให้ลมเย็นสัมผัสหน้าพวกเขา— เป็นความคิดบ้าบอของลูคัส ตามประสาคนขี้ร้อน
ทั้งๆ ที่อุณหภูมิห้องตอนนี้ก็ต่ำจนไม่รู้จะต่ำยังไงแล้ว แต่ลูคัสก็ยังเพี้ยนมากพอเอาหน้าไปแนบหิมะ
ขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนเศษ , ตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มนั่งกินเลี้ยงไปดูซีรี่ย์ไปก็ล่วงเลยมานานพอสมควร เรียกได้ว่าเป็นงานกินเลี้ยงปีใหม่ล่วงหน้าสำหรับสองคนที่เละเทะมาก เพื่อนสนิทสองคนผลัดกันลงไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อเมื่อของที่ซื้อมาหมด พวกเขาผลัดอยู่ประมาณห้าหกรอบได้แล้ว ขณะเดียวกันก็ดูหนังไปสาม และซีรี่ย์หนึ่งเรื่องจบไปสองซีซั่น— อย่าได้พูดถึงเศษซากของกิน และกระป๋องเบียร์หลากยี่ห้อ รวมถึงกระป๋องโค้ก
ในตอนนี้หน้าจอคอมพิวเตอร์กำลังเล่นเครดิตจบของซีรี่ย์ เด็กหนุ่มทั้งสองนั่งเหม่อไปเงียบๆ
คนหนึ่งจมอยู่กับความคิดตนเอง ส่วนอีกคนก็กำลังเหม่อลอย
“จบไปอีกเรื่องละ”
เป็นอีกครั้งที่ลูคัสพูดทำลายความเงียบ มาร์คขยับตัวเป็นเชิงบอกว่าเขารับรู้ แล้วทั้งสองก็กลับมาเงียบ
“พูดไรหน่อยดิ”
ลูคัสเคลื่อนไหล่ของตนออกจากไหล่อีกคน ใบหน้าคมหันมองคนข้างตัวพลางให้มือเท้าคางกับเข่า
“…ทำไมซีซั่นสองไม่สนุกเลยวะ” มาร์คเอ่ย เสียงยานคาง ยกเบียร์ในกระป๋องขึ้นดื่ม
“กูบอกมึงแล้ว คะแนนรีวิวห่วยแตกมาก”
“อะไรวะ เซ็งเลย”
แล้วก็เงียบ
มาร์คยกเบียร์กระป๋องสุดท้ายขึ้นกระดกจนหยดสุดท้าย แลบลิ้นออกมาหน่อยพลางอ้าปากเขย่าให้น้ำที่ก้นกระป๋องไหลลงมา , ท่าทางขี้เมาจนลูคัสหลุดขำ
ยังคงไม่พูดอะไร
หน้าจอคอมพิวเตอร์ขึ้นสีดำ หน้าจอสะท้อนภาพพวกเขาทั้งสองซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามมัน , เด็กหนุ่มทั้งสองผู้ดูกำลังเมามายกันได้ที่ นั่งใกล้กันขนาดที่ไหล่ชิดกัน พวกเขานั่งเอาหัวชนกัน ใบหน้าแดงแจ๋ และตาปรือ
“ทำไมมึงไม่ไปเช่าห้องที่ซ้อมกลองได้วะลูคัส” เขาถามขณะที่มือสองข้างจับกระป๋องว่างเปล่าในมือพลิกไปมา
“แฟนกูรำคาญ” เสียงทุ้มเอ่ยตอบ
มาร์คถอนหายใจพรืด ราวกับว่ามันเป็นคำตอบที่เขาคาดไว้อยู่แล้ว
“นึกๆ แล้วกูก็อิจฉามึง— เปียโนตัวเบ้อเร่อเทิ่มตั้งอยู่กลางห้อง อย่างคูล”
“มือมึงจะใหญ่ไปไหน”
“พูดตัดบทกูทำไมวะ”
“ตัดบทเหี้ยไร ก็กูสนใจมือมึงมากกว่า”
“เอ๊า ห่านี่”
ลูคัสหลับตาลงหลังสบถออกไป ความมึนหัวแล่นเข้ามา ราวกับมีคนบีบหัวตนอยู่ตลอดเวลา และคิดว่ามาร์คเองก็คงไม่ต่างจากเขา , ทั้งสองสบถใส่กันไปมา แต่ก็ไม่ขยับหัวที่พิงกันอยู่ออกไปไหน
“มือมึงก็นิดก็น้อยซะ สาบานสิว่าเป็นนักเปียโน”
“มือใหญ่เป็นใบตาลแบบมึงก็ดี ไม่ต้องใช้ไม้ตีกลองให้ลำบากเลยนะ”
“ดูดิ มือเด็กน้อย”
ปลายนิ้วไล้ไปมาตามโครงฝ่ามือ สัมผัสของเล็บที่ตัดหยาบๆ ครูดไปกับผิวมือจนสัมผัสได้ , ลูคัสเริ่มก่อน เมื่อเขาหยุด มาร์คจึงทำตาม
นิ้วเรียวชี้วนบนฝ่ามือใหญ่ วนไปมา เขียนขึ้นเป็นคำ
“เบียร์” ริมฝีปากอิ่มขยับเอ่ยออกมาเป็นคำ ได้รับคำตอบเป็นเสียงหัวเราะคิกคักข้างหูของเขา
“อยากดื่มอีกว่ะ หนาวแล้ว” มาร์คหัวเราะแผ่ว พลางเขี่ยฝ่ามือใหญ่เล่น
“รอบนี้ลงไปซื้อด้วยกันนี่แหละไอ้สัส” ลูคัสพูดโดยแทบจะไม่ขยับริมฝีปาก “ช่วยแบกกันขึ้นมา”
“เออ ดีล”
แล้วก็กลับมาเงียบ , ไม่มีใครในพวกเขาขยับตัวแม้แต่นิดเดียว
“อย่าเงียบดิวะ” ลูคัสขมวดคิ้ว พยายามจะเค้นคำพูดออกจากหัว
“กูโคตรไม่ชอบเลย แม่ง เงียบเหี้ยอะไรนักหนา”
มาร์คหัวเราะในลำคอ
“แป๊บนะ กูคิดเรื่องจะพูดอยู่”
ฝ่ามือต่างขนาดทั้งสองยังคงไม่ละออกจากกัน ลูคัสใช้นิ้วชี้เกี่ยวกับนิ้วของอีกคนเอาไว้ พลางใช้นิ้วโป้งลูบเล่นไปมา
“จริงๆแล้ว กูขายตัวให้เสี่ยคนนึงอยู่”
เว้นจังหวะครู่หนึ่ง
“ส่วนที่จมน้ำวันนั้นก็คือกะจะฆ่าตัวตาย”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in