เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ผมจมน้ำในเดือนธันวาคม (Lumark)ppan_19
Day 29



  • “เผลอแป๊บเดียวก็จะปีใหม่แล้วสินะ” 



    มาร์คโคลงหัวไปมาช้าๆ เป็นท่าทางแสดงออกว่าเห็นด้วยกับความคิดของเพื่อนสนิท เด็กหนุ่มสองคนนั่งเอาหลังพิงขอบเตียงนอน ไหล่แนบชิดกัน บานหน้าต่างห้องถูกเปิดแง้มไว้หน่อยให้ลมเย็นสัมผัสหน้าพวกเขา— เป็นความคิดบ้าบอของลูคัส ตามประสาคนขี้ร้อน



    ทั้งๆ ที่อุณหภูมิห้องตอนนี้ก็ต่ำจนไม่รู้จะต่ำยังไงแล้ว แต่ลูคัสก็ยังเพี้ยนมากพอเอาหน้าไปแนบหิมะ



    ขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนเศษ , ตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มนั่งกินเลี้ยงไปดูซีรี่ย์ไปก็ล่วงเลยมานานพอสมควร เรียกได้ว่าเป็นงานกินเลี้ยงปีใหม่ล่วงหน้าสำหรับสองคนที่เละเทะมาก เพื่อนสนิทสองคนผลัดกันลงไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อเมื่อของที่ซื้อมาหมด พวกเขาผลัดอยู่ประมาณห้าหกรอบได้แล้ว ขณะเดียวกันก็ดูหนังไปสาม และซีรี่ย์หนึ่งเรื่องจบไปสองซีซั่น— อย่าได้พูดถึงเศษซากของกิน และกระป๋องเบียร์หลากยี่ห้อ รวมถึงกระป๋องโค้ก



    ในตอนนี้หน้าจอคอมพิวเตอร์กำลังเล่นเครดิตจบของซีรี่ย์ เด็กหนุ่มทั้งสองนั่งเหม่อไปเงียบๆ 

    คนหนึ่งจมอยู่กับความคิดตนเอง ส่วนอีกคนก็กำลังเหม่อลอย 



    “จบไปอีกเรื่องละ”



    เป็นอีกครั้งที่ลูคัสพูดทำลายความเงียบ มาร์คขยับตัวเป็นเชิงบอกว่าเขารับรู้ แล้วทั้งสองก็กลับมาเงียบ 



    “พูดไรหน่อยดิ” 



    ลูคัสเคลื่อนไหล่ของตนออกจากไหล่อีกคน ใบหน้าคมหันมองคนข้างตัวพลางให้มือเท้าคางกับเข่า



    “…ทำไมซีซั่นสองไม่สนุกเลยวะ” มาร์คเอ่ย เสียงยานคาง ยกเบียร์ในกระป๋องขึ้นดื่ม



    “กูบอกมึงแล้ว คะแนนรีวิวห่วยแตกมาก”

    “อะไรวะ เซ็งเลย”





    แล้วก็เงียบ 






    มาร์คยกเบียร์กระป๋องสุดท้ายขึ้นกระดกจนหยดสุดท้าย แลบลิ้นออกมาหน่อยพลางอ้าปากเขย่าให้น้ำที่ก้นกระป๋องไหลลงมา , ท่าทางขี้เมาจนลูคัสหลุดขำ



    ยังคงไม่พูดอะไร



    หน้าจอคอมพิวเตอร์ขึ้นสีดำ หน้าจอสะท้อนภาพพวกเขาทั้งสองซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามมัน , เด็กหนุ่มทั้งสองผู้ดูกำลังเมามายกันได้ที่ นั่งใกล้กันขนาดที่ไหล่ชิดกัน พวกเขานั่งเอาหัวชนกัน ใบหน้าแดงแจ๋ และตาปรือ






    “ทำไมมึงไม่ไปเช่าห้องที่ซ้อมกลองได้วะลูคัส” เขาถามขณะที่มือสองข้างจับกระป๋องว่างเปล่าในมือพลิกไปมา



    “แฟนกูรำคาญ” เสียงทุ้มเอ่ยตอบ 



    มาร์คถอนหายใจพรืด ราวกับว่ามันเป็นคำตอบที่เขาคาดไว้อยู่แล้ว 



    “นึกๆ แล้วกูก็อิจฉามึง— เปียโนตัวเบ้อเร่อเทิ่มตั้งอยู่กลางห้อง อย่างคูล”





    “มือมึงจะใหญ่ไปไหน” 

    “พูดตัดบทกูทำไมวะ”

    “ตัดบทเหี้ยไร ก็กูสนใจมือมึงมากกว่า”

    “เอ๊า ห่านี่”





    ลูคัสหลับตาลงหลังสบถออกไป ความมึนหัวแล่นเข้ามา ราวกับมีคนบีบหัวตนอยู่ตลอดเวลา และคิดว่ามาร์คเองก็คงไม่ต่างจากเขา , ทั้งสองสบถใส่กันไปมา แต่ก็ไม่ขยับหัวที่พิงกันอยู่ออกไปไหน





    “มือมึงก็นิดก็น้อยซะ สาบานสิว่าเป็นนักเปียโน”

    “มือใหญ่เป็นใบตาลแบบมึงก็ดี ไม่ต้องใช้ไม้ตีกลองให้ลำบากเลยนะ”

    “ดูดิ มือเด็กน้อย”





    ปลายนิ้วไล้ไปมาตามโครงฝ่ามือ สัมผัสของเล็บที่ตัดหยาบๆ ครูดไปกับผิวมือจนสัมผัสได้ , ลูคัสเริ่มก่อน เมื่อเขาหยุด มาร์คจึงทำตาม






    นิ้วเรียวชี้วนบนฝ่ามือใหญ่ วนไปมา เขียนขึ้นเป็นคำ





    “เบียร์” ริมฝีปากอิ่มขยับเอ่ยออกมาเป็นคำ ได้รับคำตอบเป็นเสียงหัวเราะคิกคักข้างหูของเขา


    “อยากดื่มอีกว่ะ หนาวแล้ว” มาร์คหัวเราะแผ่ว พลางเขี่ยฝ่ามือใหญ่เล่น





    “รอบนี้ลงไปซื้อด้วยกันนี่แหละไอ้สัส” ลูคัสพูดโดยแทบจะไม่ขยับริมฝีปาก “ช่วยแบกกันขึ้นมา”

    “เออ ดีล”









    แล้วก็กลับมาเงียบ , ไม่มีใครในพวกเขาขยับตัวแม้แต่นิดเดียว










    “อย่าเงียบดิวะ” ลูคัสขมวดคิ้ว พยายามจะเค้นคำพูดออกจากหัว

    “กูโคตรไม่ชอบเลย แม่ง เงียบเหี้ยอะไรนักหนา”




    มาร์คหัวเราะในลำคอ 





    “แป๊บนะ กูคิดเรื่องจะพูดอยู่” 






    ฝ่ามือต่างขนาดทั้งสองยังคงไม่ละออกจากกัน ลูคัสใช้นิ้วชี้เกี่ยวกับนิ้วของอีกคนเอาไว้ พลางใช้นิ้วโป้งลูบเล่นไปมา






    “จริงๆแล้ว กูขายตัวให้เสี่ยคนนึงอยู่”

    เว้นจังหวะครู่หนึ่ง 


    “ส่วนที่จมน้ำวันนั้นก็คือกะจะฆ่าตัวตาย”







เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in