ตั้งแต่จำความได้ อีมินฮยองก็ใช้ชีวิตอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าร่วมกับเด็กไร้ผู้ปกครองอีกหลายสิบชีวิต เขาโตมาอย่างกระท่อนกระแท่น แต่ก็สุขภาพดี และได้รับการศึกษา
ไม่เคยรู้จักพ่อแม่แท้ๆ และไม่ได้สนใจ
อุปนิสัยเป็นเด็กฉลาด ไม่ค่อยพูด ไม่ชอบเล่นกับเพื่อนนัก สาเหตุน่าจะมาจากการรังแกกันของเด็กๆในสถานรับเลี้ยง แต่ไม่ได้มีการแก้ไขปัญหาอะไรเป็นกิจลักษณะนัก
อีมินฮยองเติบโตมาเช่นนั้น ถูกผลักไสบ้าง ถูกดูแลบ้างตามหน้าที่
และเขาเองก็รู้ว่าชีวิตนี้มันช่างเฮงซวย เฝ้ารอคอยนับวันนับคืนจะได้ออกจากที่นี่ ทำงานเก็บเงินอย่างขะมักเขม้นตั้งแต่อยู่มัธยมต้น เพื่อรอวันจบการศึกษา จะได้มีเงินสักก้อนไว้เช่าห้องพักถูกๆ ทำงานเก็บเงินเรียนต่อมหาวิทยาลัยดนตรี
นั่นคือความคิดของอีมินฮยอง ในช่วงวัยที่ยังเต็มไปด้วยความฝัน
คริสมาสต์ในวัย14ปี— คิมโดยองก็โผล่เข้ามาที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า สภาพสะบักสะบอม
ตัวมินฮยองนั่นเองที่เชิญชวนเขาเข้ามา ช่วยดึงตัวจากริมฟุตบาทที่เต็มไปด้วยหิมะ พาตัวคนแปลกหน้าไปนั่งกินเลี้ยงในปาร์ตี้วันคริสมาสต์ และมอบโกโก้ร้อนให้
“หนีออกจากบ้านเหรอ” เด็กหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงธรรมดาราวกับไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร
“อื้อ” คนอายุเยอะกว่าได้แต่พยักหน้า นิ่งเงียบ ตอบด้วยเสียงในลำคอ
“เข้าใจเลือกวันนะ” มินฮยองแค่นหัวเราะ
ดวงตาสีดำนั้นแทบจะไร้อารมณ์ใดยามเมื่อแรกพบ แต่พอรู้ตัวอีกที มันกลับจ้องมองมาที่ตัวเขาพร้อมประกายระยิบระยับ ดูไร้เดียงสาราวกระต่ายหิมะขนปุย แต่กลับแฝงความดำมืดไว้ลึกลงไปในนั้น
และมินฮยองเป็นคนเปิดประตูรับมันเข้ามาเอง
หลังวันคริสมาสต์ สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าได้รับเงินบริจาคก้อนใหญ่จำนวนหลายล้านวอนจากผู้บริจาคไม่ประสงค์ออกนาม ด้วยเหตุผลว่าขอขอบคุณที่ช่วยดูแลลูกชายของตน— ในวันเดียวกันนั้นเองที่คิมโดยองกลับมาหามินฮยอง ราวกับเป็นคนละคน ใบหน้ายิ้มแย้มเปี่ยมความสุข พูดเสียงเจื้อยแจ้ว โผตัวเข้ากอดเด็กหนุ่มอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน แล้วแนะนำตัวคนรักของตนให้เขาได้รู้จัก
ต่อจากนี้เป็นหนึ่งปีแห่งความสุขที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและกะทันหัน , คิมโดยองยื่นมือมา และเด็กหนุ่มจับมันไว้แน่น
ถ้าอีกฝ่ายเรียกเขาว่ามาร์ค เขาก็จะใช้ชื่อว่ามาร์ค
ถ้าชวนเขาไปเที่ยวเล่นที่ไหน เขาก็จะตอบตกลงทันที
ต่อให้สิ่งที่อีกฝ่ายเสนอมาจะบ้าบอแค่ไหน เขาก็จะตอบตกลง
แม้แต่เซ็กส์ , มาร์คไม่ได้ลังเลอะไรมากมายที่จะตอบตกลงในตอนแรก แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายมีคนรักอยู่ทั้งคน แต่ในช่วงเวลานั้น คิมโดยองครอบครองเขาไว้แล้วจริงๆ— ราวลูกไก่ในกำมือ
ทุกอย่างที่ทำมันสนุกเพียงแค่ช่วงแรก จนกระทั่งพี่แทยงเริ่มตั้งคำถามเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขา ความรู้สึกไม่ดีเริ่มก่อตัวในอกของเด็กหนุ่ม
ในตอนนั้นเองที่เขามองเห็นความบ้าคลั่งในตัวคิมโดยอง
และแล้วทุกอย่างก็เริ่มดิ่งลงเหว
มาร์คเคยคิดหนี และคิมโดยองก็พังชีวิตเขาเสียจนไม่มีชิ้นดี— ด้วยคลิปวิดีโอสั้นๆกับรูปไม่กี่ใบก็มากพอเป็นตัวจุดไฟให้ประเด็นข่าวลือในโรงเรียนมัธยม ว่าอีมินฮยองคนนั้นแหละ ขายตัว
“ทั้งที่เป็นงานง่ายๆแค่นี้ ทำไมถึงต้องปฏิเสธกันด้วยล่ะ ทั้งรู้สึกดี ทั้งได้เงิน” ใบหน้าสวยเจือความสงสัย เอียงคออย่างฉงน ฝ่ามือวางทาบทับบนลำคอของคนบนเตียง ลูบไปมาก่อนจะออกแรงบีบ จนกระทั่งอีกฝ่ายดิ้นพล่านนั่นแหละเขาจึงละมือออก
“พี่ยังมีรูปน่าอายมากกว่านี้ คลิปที่รุนแรงมากกว่านี้ ระดับที่มาร์คเป็นพอร์นสตาร์ได้ง่ายๆเลยแหละ”
“แต่มาร์คไม่ชอบใช่มั้ยล่ะ”
“เพราะงั้น”
“อย่าคิดหนีไปอีกนะ”
คิมโดยองรักอีมินฮยอง รักทุกสิ่งทุกอย่างในตัวเด็กคนนี้
ไม่ว่าจะรอยยิ้ม หรือน้ำตา ทั้งเสียงหัวเราะ และเสียงร้องไห้
ตอนนั้นเองที่มาร์ครู้ตัว ว่าไม่มีทางไหนหรอกที่ชายวิปริตคนนี้จะปล่อยเขาออกจากกำมือ
จนกว่าคิมโดยองจะเป็นฝ่ายบีบให้เขาตายคามือของตนเอง
คิมโดยองนั่นแหละที่เลวที่สุด
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in