เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Fictober2019pampamgirl
Day 7 : Corgi สุนัขเวทย์

  • หมายเหตุ: ไปได้ข้อมูลมาว่า มีเรื่องเล่าของชาวเวลล์เรียกคอร์กี้ว่า “สุนัขผู้มาจากดินแดนแห่งภูติ” หรือ “สุนัขเวทย์มนตร์” ที่มีแหล่งกำเนิดจากดินแดนของเอลฟ์และแฟรี่ ดังนั้นในฟิคนี้แป๋มขอโกงเรียกน้องคอร์กี้ว่า “สุนัขเวทย์ (ขาสั้น5555) นะคะ (แงงงงงง ฟิคย้อนยุคแต่มีคอร์กี้โผล่มามันคงพิลึก อภัยให้แป๋มด้วยนะคะ)


    .
    .
    .

    “ท่านลุงเล่าอีกๆ เล่านิทานให้ข้าฟังอีกเรื่องหนึ่งได้หรือไม่ขอรับ”


    “เด็กดีนอนเกินยามไฮ่ได้หรือ”


    “มิได้ขอรับ” เจิ้งเยี่ยนตัวน้อยพลิกตัวนอนพังพาบทับหลี่เยี่ยนชิวเอาไว้ทั้งตัว ปลายคางเล็กๆ วางแนบบนพระอุระ ครั้นเมื่อพูดจาก็คล้ายกำลังพยักหน้าขึ้นลงอยู่บนทรวงอกกว้างนั้น “แต่ตอนนี้ยามซวี… อีกหนึ่งก้านธูปจึงจะเข้ายามไฮ่… ท่านลุงเล่าให้ข้าฟังอีกเรื่องหนึ่งนะขอรับ นะ น้า~”


    “เรียกข้าให้ถูกเสียก่อน” ข้อนิ้วพระหัตถ์ของหลี่เยี่ยนชิวยกขึ้นดึงแก้มยุ้ยของเจ้าตัวเล็ก ตรัส “ข้าสอนให้เรียกว่าอย่างไร”


    “นายท่าน~”


    “ใช่ที่ไหนกัน”


    เจิ้งเยี่ยนตัวน้อยหัวเราะคิก เขาชอบที่สุดเวลาท่านลุงผู้นี้ทำหน้าเคร่งขรึม มองแล้วดูหล่อเหลาสูงส่งยิ่งกว่าเทพเซียนเสียอีก ​ดังนั้นตั้งแต่พบกันจนกระทั่งสองสามวันมานี้จึงชอบแกล้งทำตัวดื้อให้ต้องโดนดุเป็นประจำ แต่หลังจากโดนดุไปครั้งสองครั้งเจิ้งเยี่ยนน้อยก็มักจะกลับตัวกลับคำพูดให้ฟังดูเฉลียวฉลาด หว่านล้อมเอาใจให้หลี่เยี่ยนชิวอภัยให้ไปเสียทุกครั้ง… และครั้งนี้ก็เช่นกัน


    “เจ้าเรียกใหม่”


    “องค์ชายสี่~” เจิ้งเยี่ยนน้อยทำเสียงออดอ้อน “นิทาน~”


    หลี่เยี่ยนชิวส่ายพระพักตร์เบาๆ


    “ท่านอ๋องสี่~” นัยน์ตากลมโตช้อนขึ้นจับจ้องพระพักตร์ของหลี่เยี่ยนชิว “เล่านิทานอีกครั้งได้หรือไม่”


    เรียวปากของหลี่เยี่ยนชิวเผยรอยยิ้มเล็กน้อย แต่พระพักตร์ก็ยังส่ายไปมาอยู่อย่างนั้น ก่อนที่ลมหายใจของโอรสสวรรค์จะสะดุดเล็กน้อยด้วยได้ยินคำเรียกที่รอคอย


    “ฝ่าบาทของเยี่ยนเอ๋อร์…”​ เจิ้งเยี่ยนตัวน้อยประคองปรางแก้มทั้งสองของหลี่เยี่ยนชิว เสียงเล็กๆ ออดอ้อนขอร้อง พองแก้มเจรจา ทำท่าทางยกหนึ่งนิ้ว “ให้กระหม่อมฟังนิทานของพระองค์นะพะย่ะค่ะ เรื่องสุดท้ายก่อนเข้านอน”


    หลี่เยี่ยนชิวยกพระหัตถ์ขึ้นรวบนิ้วเล็ก กำไว้ใต้ฝ่ามือ จากนั้นจึงยินยอมเล่านิทานให้เด็กน้อยฟังตามคำขอ…


    .

    .

    .


    “ครั้งหนึ่งมีสุนัขเวทย์ขาสั้นจากดินแดนแห่งภูติหลงทางเข้ามาในดินแดนมนุษย์…”


    “เหตุใดจึงต้องขาสั้นด้วย… ไม่งดงามเลย…” เจิ้งเยี่ยนน้อยเบะปาก


    หลี่เยี่ยนชิวแย้มสรวล ชี้ที่ขาสั้นป้อมของเจิ้งเยี่ยนน้อยพลางตรัส “ขาสั้นก็ใช่ว่าจะอัปลักษณ์… เจ้าก็ขาสั้นมิใช่หรือไร”


    “เอ๋...​ ท่านลุงบอกว่าข้าเหมือนสุนัข… ฮึก… ว่าเยี่ยนเอ๋อร์ขาสั้น… แต่ไม่ได้อัปลักษณ์หรือขอรับ ฮึก…” เด็กน้อยน้ำตาคลอ พูดพลางสูดน้ำมูกไปด้วยอยู่อย่างนั้น ก่อนจะร้องไห้โฮเรียกมารดาออกมา “ฮือ… ท่านแม่... ท่านลุงบอกว่าเยี่ยนเอ๋อร์เหมือนหมาาาาาาา ท่านแม่... แงงงงงงงงงงง”


    หลี่เยี่ยนชิวตะลึงงัน จริงอยู่ที่คนสกุลหลี่เรืองอำนาจจัดการได้ทุกเรื่อง หากแต่เรื่องหนึ่งที่ไร้สามารถ ต่อกรครั้งใดต้องพ่ายแพ้ทุกครั้งไปก็คือ… น้ำตาของบุคคลอันเป็นที่รัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนผู้นั้นเป็นผู้เยาว์! 


    โอรสสวรรค์กอดเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขน ตบหลังเบาๆ ในใจคิดว่า เยี่ยนเอ๋อร์...​ เจ้าหยุดร้องไห้ก่อน ข้ามิได้หมายความเช่นนั้นสักนิด จริงอยู่… ข้าเปรียบเจ้ากับสุนัขเวทย์ขาสั้น… แต่เจ้าเคยเห็นหรือไม่… มันน่ารักมากนะ น่ารักจิ้มลิ้ม น่าเอ็นดูเหมือนเจ้านั่นแหละ… ก่อนมอบจุมพิตเบาๆ บนหน้าผากมน พลางกระซิบ “หยุดร้องไห้เถิด เด็กดีของข้า”


    สุนัขเวทย์ตัวน้อยของข้า… ไม่ร้องไห้นะ เด็กดี...

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Pderingring (@Pderingring)
ลุงสี่เค้าชมว่าหนูน่ารักเหมือนคอร์กี้นะเยี่ยนเอ๋อรรรร์ 555555555
เยี่ยนเอ๋อร์น่ารักใสๆ มากค่ะ แงงงงง กาลเวลาทำให้กลายเป็นเจิ้งเยี่ยน
แต่จะเยี่ยนเอ๋อร์หรือเจิ้งเยี่ยนก็น่ารักสำหรับองค์ชายสี่จนกลายเป็นฝ่าบาทล่ะนะคะ