"ท่านแม่... กระต่ายสีแดงหล่ะ!" มือเล็กชูแอปเปิ้ลสลักรูปทรงหยุกหยิกขึ้นโบกไปมา หลังเพิ่งเรียนรู้วิธีปอกและหั่นผลไม้จากมารดาไปหมาดๆ
"ไหนขอแม่ดูชัดๆ หน่อยซิ..." เรียวปากแต้มชาดส่งยิ้มให้ลูกชาย พลางยกมือขึ้นบีบแก้มยุ้ยเบาๆ "แก้มแดงน่ารักเหมือนเยี่ยนเอ๋อร์ของแม่หรือไม่"
ใบหน้าจิ้มลิ้มซ่อนสีแดงระเรื่อ เจิ้งเยี่ยนตัวน้อยขวยเขินไม่ตอบคำมารดา ได้แต่ก้มหน้างุด พยายามใช้มือเล็กจับมีดปลายแหลมปอกผิวแอปเปิ้ลที่หั่นไว้เป็นทรงแหลมแล้วดัดให้ชี้ขึ้นเล็กน้อยทั้งสองข้างคล้ายหูกระต่าย แบบเดียวกับแอปเปิ้ลหลายชิ้นก่อนหน้านี้ จากนั้นจึงพึมพำว่า "ตัวนี้สีแดงขอรับ..."
"เยี่ยนเอ๋อร์..." มือเรียวขาวชี้ไปที่แอปเปิ้ลกองใหญ่หลากหลายสี ทั้งเขียว เหลืองอมแดง ชมพูและทอง ผิวของมันงดงามวาววับ สุกใสเหมือนแววตาเด็กน้อยที่กำลังมองจ้องมา "หากในฝูงมีกระต่ายหลายสีจะน่ารักหรือไม่... เจ้าชอบหรือไม่"
"ชอบขอรับ!"
เมื่อบุตรชายยิ้มแย้มไหนเลยมารดาจะมิแย้มยิ้ม เรียวปากบางส่งยิ้มละมุนให้เจิ้งเยี่ยน สองมือมั่นคงค่อยๆ ประคองสองมือน้อยๆ ให้เริ่มฝึกฝนแกะสลักแอปเปิ้ลสืบต่อ...
.
.
.
"ท่านแม่ หงส์หรือ! นั่นหงส์หรือขอรับ!!!" เจิ้งเยี่ยนตัวน้อยซักถามอย่างลิงโลด พลางกระโดดไปรอบๆ เมื่อมารดาแสดงวิธีแกะสลักที่ผิดแผกออกไปจากบทเรียนแรก "ท่านแม่สอนข้าบ้าง! แอปเปิ้ลรูปหงส์ งดงามเหลือเกิน"
มารดาหัวเราะน้อยๆ เก็บซ่อนมีดพลางก้มลงหอมแก้มลูกชายคนเดียวเสียฟอดใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ อธิบายอย่างใจเย็น "สิ่งนี้คือผลไม้ประดับสำรับเสวย วันหน้าหากเยี่ยนเอ๋อร์แกะสลักกระต่ายครบหมื่นตัว แม่จะสอนเจ้าแกะสลักหงส์ใช้วางบนสำรับของนายท่านบ้านเราดีหรือไม่"
"ท่านแม่... เหตุใดกระต่ายของเยี่ยนเอ๋อร์จึงมิได้วางบนสำรับเสวยบ้าง"
เสียงใสดุจระฆังหัวเราะขึ้นมาอย่างอดมิได้ ในใจคิดว่าลูกชายของข้าผู้นี้ มั่นใจในฝีมือตนเองดีจริง... เยี่ยนเอ๋อร์ของแม่น่ารักอย่างยิ่ง!
"แอปเปิ้ลกระต่ายหมื่นตัว หงส์หมื่นตัว... จากนั้นแม่รับรองว่าแอปเปิ้ลสลักของเยี่ยนเอ๋อร์ย้อมได้ขึ้นโต๊ะเสวยเป็นแน่"
"จริงหรือขอรับ!"
มารดาพยักหน้า... ส่งยิ้มพิมพ์ใจให้เจ้าตัวน้อย
.
.
.
"แอปเปิ้ลอีกแล้วหรือ?"
"เจ้าค่ะนายท่าน"
"เหตุใดเป็นแอปเปิ้ลอีกแล้ว... เจ้าไม่เบื่อหรืออย่างไร"
"นายท่าน... ท่านโปรดปรานอาหารมันจัดมีพลังหยินมาก หากกินแอปเปิ้ลเป็นสำรับหวานแทนผลไม้เชื่อม จะช่วยบำรุงร่างกาย เติมพลังหยางมิให้ร้อนใน ป่วยไข้ ไม่สบายตัวนะเจ้าคะ"
"ผู้ใดบอกเจ้า"
"ซินแสร้านยาเจ้าค่ะ"
"เช่นนั้นก็ดี... แต่คราวหน้าไม่ต้องแกะสลักเป็นรูปหัวใจก็ได้ ดูสิ... ต้องเฉือนเนื้อไปตั้งครึ่ง มิน่าเสียดายหรอกหรือ"
แม่ครัวพ่วงตำแหน่งมารดาได้แต่อมยิ้ม ในใจคิดแต่มิอาจไม่กล่าวได้ว่า ลูกชายท่านสลักกระต่ายเจ้าค่ะ... แต่หนักมือไปหน่อย หูกระต่ายจึงกลมมน ละม้ายคล้ายรูปทรงหัวใจเช่นนั้น...
.
.
.
"ฝ่าบาท... ของว่างพะย่ะค่ะ"
หลี่เยี่ยนชิวผินพระพักตร์มองจานใบเล็กที่ใส่แอปเปิ้ลสลักรูปหงส์เหินสีทองงดงามไว้เพียงตัวเดียว ตรัสถาม "รสชาติหวานหรือเค็ม"
"แอปเปิ้ล... ไม่เค็มพะย่ะค่ะ"
หลี่เยี่ยนชิวเชิดมุมปาก แววพระเนตรสีพยับฝนทอประกายหยอกล้อ "แอปเปิ้ลกระต่ายตัวแรกของเจ้า... เค็มยิ่งกว่าขิงดองเกลือ"
"ฝ่าบาท!"
เสียงสรวลของหลี่เยี่ยนชิวดังขึ้นอย่างพอพระทัยยิ่ง... จากนั้นพระองค์จึงค่อยๆ ใช้มือหนึ่งถอดปีกหงส์ทีละชิ้น... ส่งเข้าปากทีละคำๆ บรรจงเคี้ยวอย่างช้าๆ ให้สมความปราณีต ความตั้งใจของผู้ประดิษฐ์ของว่างจานนี้...
อืม... แอปเปิ้ล... ปกติหวานลิ้นเยี่ยงนี้เลยหรือ...
มะม้าพี่เจิ้งใจดีจัง~~คูมแม่~~~
กว่าจะเป็นกระต่ายเป็นหงส์ได้จนถึงทุกวันนี้
คนในจวนสกุลเหยากับคนสกุลหลี่ต้องกินแอปเปิ้ลไปเท่าไหร่กันนะคะ
ฝ่าบาทก็อย่าล้อพี่เจิ้งซี่~สมัยเด็กๆ ที่มันเค็มเพราะแช่น้ำเกลือกลัวช้ำต่างหาก
ส่วนตอนนี้ที่หวาน หวานเพราะคนทำค่ะ~~