"หลี่-- ฝ่าบาท..."
หลี่เยี่ยนชิวเลิกขนง ประหลาดพระทัยกับคำเรียกขององค์ชายสี่ตัวน้อย
"เรียกข้าเช่นนี้... จะอ้อนวอนขอสิ่งใด"
"เจ้า! เจ้านี่นะ!" องค์ชายน้อยขึ้นเสียง "เหตุใดจึงต้องรู้ทั-- เอ่อ... จับผิดข้าไปเสียทุกเรื่อง!"
นิ้วพระหัตถ์ยาวเรียวยกขึ้นนวดคลึงขมับ ใบหน้าคมคายเป็นนิจเวลานี้ซีดขาวเล็กน้อย หลี่เยี่ยนชิวหลับพระเนตรเหนื่อยล้าลงช้าๆ พลางถอนพระทัยเบาๆ
"เจ้าจะร้องขอสิ่งใดก็พูดมา อย่าเสียงดัง ข้าเวียนหัว"
"หึ! ข้าก็รู้ทันเจ้าหรอกน่า! เจ้าชอบเสแสร้งแกล้งป่วย ร่างกายข้าออกจะแข็งแรง ไหนเลยโตขึ้นจะกลายเป็นจักรพรรดิที่เจ็บออดๆ แอดๆ เช่นนี้ได้"
องค์ชายสี่ต่อว่าอีกฝ่ายยาวเหยียด ใบหน้าเล็กๆ บึ้งตึงโกรธเกรี้ยว ในใจคิดว่า ข้าก็แค่อยากเรียกเจ้าดีๆ เหตุใดจึงต้องพูดจาคล้ายต้องการจับผิดข้าอยู่เรื่อย!
หลี่เยี่ยนชิวส่ายพระพักตร์ช้าๆ สีหน้าบ่งบอกชัดเจนว่าขัดข้องพระทัยเกินทน หากแต่พระองค์มิได้ตรัสอันใดตอบกลับไป เพียงใช้พระหัตถ์สั่นเทาเท้าโต๊ะทรงอักษร หยัดกายลุกขึ้นเพื่อดำเนินเลี่ยงบทสนทนากับองค์ชายน้อยเท่านั้น
หากแต่อีกฝ่ายกำลังหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก เด็กน้อยไม่ทันสังเกตใบหน้าโอรสสวรรค์องค์ปัจจุบันที่ยิ่งมายิ่งขาวซีด ลมหายใจหนักหน่วง สรุเสียงเบาๆ ที่ตอบออกมาติดขัดแหบพร่าจนฟังไม่ถนัด มือน้อยๆ จึงยกขึ้นดึงรั้งชายฉลองพระองค์ไว้ทันที
"เจ้าจะไปไห--"
ตึง!
เพล้ง!!
โครม!!!
เสียงของหนักๆ ฟาดปึงลงกับโต๊ะอักษร ตามด้วยเสียงม้วนฏีกา แท่นฝนหมึก และเครื่องเขียนบนโต๊ะตกกระแทกพื้นพร้อมร่างไร้สติของจักรพรรดิ บ่งบอกให้องค์ชายสี่ทราบว่าเสียงตึงตังเมื่อครู่คือเสียงยามเมื่อร่างสูงใหญ่ล้มฟุบลงกระแทกโต๊ะไม้และกวาดของที่วางอยู่ตนโต๊ะอักษรตัวนั้นลงมาหล่นเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นตำหนัก...
เด็กน้อยตะลึงงัน... เสี้ยววินาทีทีเดียวที่ได้สติก็ได้ยินตนเองตะโกนเรียกผู้คนเสียงดังลั่น
"เจิ้งเยี่ยน! เจิ้งเยี่ยน!!!! ใครอยู่ด้านนอกบ้าง!!!! เข้ามาเดี๋ยวนี้!!!!"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in